อย่าใช้ "ความพึงพอใจ" เพื่อผูกมัดการแต่งงาน แต่ให้ใช้ "ความสำเร็จ" เพื่อต่ออายุความรักของคุณ

LIEKR:

คนรักก็คือคน ต้องอยู่ด้วยความเข้าใจ

        ความรักคือในสายตาของทั้งสองฝ่ายมีแต่อีกฝ่าย การแต่งงานคือสายตาของทั้งสองคนมองไปในทางเดียวกัน

        คนเราชอบใช้คำว่า “ครึ่งหนึ่งของชีวิต” เพื่อเรียกคนรัก เพราะบนโลกนี้ไม่มีคนที่สมบูรณ์แบบ มีแค่สองคนที่ไม่สมบูรณ์แบบมาอยู่ด้วยกันเพื่อสร้างความรักที่สมบูรณ์แบบ

 

Sponsored Ad

 

        คนเรายังชอบใช้คำว่า “คู่ชีวิต” เพื่อเรียนคู่สมรส เพราะ “ครึ่งหนึ่งของชีวิต” เป็นความหวานเพียงชั่วสั้นๆ ถ้าอยากให้ความหวานยั่งยืนยาวนั้น มีอีกฝ่ายอยู่ข้างๆจนแก่เฒ่าไปด้วยกัน นั่นคือชีวิตแต่งงาน

        แต่ความรักของคนมากมาย หยุดลงที่หน้าประตูวิวาห์ แต่ไม่กล้าเข้าไป กลัวว่ารักจะจืดจาง กลัวว่า “สัญญากระดาษ” จะทำให้ความรักสูญเสียรสชาติ

        ชีวิตแต่งงานไหนๆ ก็ต้องพยายาม แต่มันไม่ใช่ธุรกิจ ที่เน้นกำไร พอขาดทุนก็โยนทิ้ง ชีวิตแต่งงานที่ดีที่สุด ควรจะเป็นรสชาติที่ต้องการตลอดชีวิต “ทะเบียนสมรส” จะล็อคความหวานของความรักเอาไว้ การแต่งงานไม่ใช่แค่ความพึงพอใจ แต่เป็นความสำเร็จของทั้งสองฝ่าย

 

Sponsored Ad

 

        ชีวิตแต่งงานคือสายตาของทั้งสองคนมองไปในทางเดียวกัน สองคนจับมือเดินไปพร้อมๆ กัน เคยเห็นข่าวนึงว่า ชายใส่สูทคนนึงดื่มจนเมามายไปนอนร้องไห้ในสถานีรถไฟใต้ดิน พนักงานเข้าไปถามถึงได้รู้ว่า ชายหนุ่มคนนี้ทำงานเซลล์ เขาไม่ชอบเข้าสังคม แต่ต้องไปดื่มเป็นเพื่อนลูกค้าทั้งคืนอย่างทรมาน ทั้งหมดก็เพราะอยากให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าจะปิดจ๊อบการขายครั้งนี้ได้มั้ย

        พอคิดถึงตรงนี้ เขาก็รู้สึกว่าชีวิตไม่ง่าย ในใจก็รู้สึกแย่

 

Sponsored Ad

 

        ต่อมาภรรยาของเขามารับเขาที่สถานีรถไฟใต้ดิน เขาซุกเข้าไปในอ้อมกอดของภรรยาขอโทษเธอไม่หยุด ภรรยาของเขาก็กอดเขาแล้วพูดแค่ว่า “ไม่เป็นไรนะคะ”

        สามีมีความรับผิดชอบ ภรรยาอ่อนโยน เกิดเรื่องอะไรก็ไม่ตำหนิอีกฝ่าย แต่เผชิญหน้าไปด้วยกัน ชีวิตแต่งงานแบบนี้จะต้องมีความสุขมาก

        ผู้หญิงยากที่จะหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่ต้องตั้งครรภ์คลอดลูกแล้วหยุดทำงาน พอกลับไปทำงานอีกครั้ง ก็เป็นห่วงลูก แถมยังเป็นกังวลว่าจะทำงานไม่ได้ ถึงตอนนี้ก็ต้องการการสนับสนุนจากสามีและครอบครัว

 

Sponsored Ad

 

        จริงๆ แล้วเขาไม่สนใจว่าคุณจะหาเงินได้เท่าไหร่ ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็น "ผู้หญิงแกร่ง" ในที่ทำงานหรือไม่ พอกลับถึงบ้าน คุณเป็นสาวน้อยในอ้อมกอดเขาก็พอแล้ว

        ถ้าเอาภาระทางเศรษฐกิจทั้งหมดไปให้คนๆ เดียวแบกไว้ อาจจะดูง่าย แต่ไม่สามารถเป็นอย่างนั้นได้นาน

        ลองคิดดู จากตอนแรกที่เป็นสองคนเดินไปด้วยกัน จะต้องมีใครสักคนดึงอีกคนไว้ แล้วตอนนี้ภาระทั้งหมดของครอบครัวจะต้องไปอยู่บนบ่าให้เขาแบกรับคนเดียว ความกดดันไม่น้อยเลย

        การเลี้ยงดูครอบครัวไม่ใช่ความกดดัน แต่เป็นความกล้าที่จะสัญญาว่าจะมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้ครอบครัว อยู่ข้างนอกต้องทรมานมากมาย แต่พอเปิดประตูบ้านก็รู้สึกคุ้มค่า

 

Sponsored Ad

 

        การทำงานเมื่อมีชีวิตแต่งงาน ออกนอกบ้าน ต่อสู้อย่างหนัก กลับบ้าน ให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกัน

        ทุกวันนี้หนุ่มสาวจำนวนมากมีชีวิตแต่งงานแบบใหม่ ตกแต่งครัวไว้อย่างสวยงามแต่ไม่เคยเปิดเตา แล้วก็สั่งอาหารมากินทั้ง 3 มื้อ

 

Sponsored Ad

 

        “ผู้ชายใหญ่ข้างนอก ผู้หญิงใหญ่ข้างใน” “ผมรับผิดชอบหาเงินดูแลครอบครัว คุณรับผิดชอบดูแลงานบ้านเสื้อผ้าอาหาร” เป็นการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน

        มีคนเคยบอกไว้ว่า ความรัก ถ้าไม่ลึกถึงขั้นเสื้อผ้า อาหารการกิน เงินทอง การนอน กิจกรรมที่ทำจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ก็ยากที่จะอยู่กันได้นาน

        มีดาราคนหนึ่งชอบเข้าครัว ในขณะที่ภรรยาทำอาหารไม่เป็น แต่ในสายตาเขามันเป็นความน่ารักอย่างหนึ่ง ก็เลยกลายเป็นเขาที่เข้าครัว สอนลูกๆ ทำคุกกี้ ทำเค้ก จะเห็นได้ว่า งานครัวไม่ได้บังคับว่าใครต้องเป็นคนทำ

Sponsored Ad

        มีคนบอกว่าสามีที่ฉลาด จะไม่เคยช่วยภรรยาทำงานบ้าน เพราะงานบ้านก็เป็นหน้าที่ของภรรยา จะช่วยทำไม ?

        ชีวิตแต่งงานต้องใช้ความพยายาม สองคนออกไปทำงานข้างนอกทั้งคู่ แต่งานในบ้านกลับเป็นของคนๆ เดียว ชายหญิงควรช่วยกัน

        ความรักคือ “ยอมไม่ได้ที่คุณจะลำบาก” ชีวิตแต่งงานคือ “แม้จะลำบากไปชั่วชีวิต ฉันก็จะอยู่ข้างๆ คุณ”

        สถานการณ์ที่ดีที่สุดที่ควรเกิดในชีวิตแต่งงานคือ “ฉันทนเห็นเธอลำบากไปชั่วชีวิตไม่ได้”

        เส้นทางความรัก หลายคนเข้าใจผิดว่าการแต่งงานคือจุดสิ้นสุด เพราะดูเหมือนว่ามันคือการเสียสละอิสระและพื้นที่ส่วนตัว

        แต่ถ้าสังเกตสามีภรรยาที่อยู่กันมานานอย่างมีความสุข คุณจะพบว่า พวกเขายังคงมีพื้นที่ส่วนตัวเล็กๆ ที่สามารถเพลิดเพลินด้วยตัวคนเดียว

        ตื่นเช้า สามีออกไปเดินเล่น กลับมาพร้อมอาหารเช้าและหนักสือพิมพ์ ภรรยาเก็บเตียงเรียบร้อย เตรียมจานชามช้อนส้อม ไม่ได้นัดเวลากันไว้ล่วงหน้า แต่ก็สามารถมีมื้อเช้าแสนโรแมนติกร่วมกัน

        ทุกๆ คนมีบ้านเล็กๆ ที่เป็นของตัวเองเสมอ การแต่งงานคือกุญแจบ้าน และก็ให้กุญแจสำรองอีกฝ่ายไป

        เวลาโดดเดี่ยว ผู้คนด้านนอกกำลังรอคุณอย่างเป็นห่วงเป็นใย เวลาเศร้า เขาเคาะประตูจะเข้ามาบอกคุณว่าดอกไม้ข้างนอกบานแล้วนะ

        เพื่อชีวิตแต่งงานและครอบครัวยอมทิ้งสิ่งที่ตัวเองไล่ตาม หรือยอมสละผลประโยชน์ ในใจจะมีความทุกข์ซ่อนอยู่

        ไล่ตามไปด้วยกัน จับมือฝ่าฟันอุปสรรค เอาชนะความยากลำบาก นั่นถึงจะเป็นความหมายของการแต่งงาน

        อย่าใช้ "ความพึงพอใจ" เพื่อผูกมัดการแต่งงานของคุณ แต่ให้ใช้ "ความสำเร็จ" เพื่อต่ออายุความรักของคุณ

        ระหว่างทาง ฉันอยากจับมือคุณไว้ ข้ามสะพานไปด้วยกัน ผ่านสิ่งต่างๆ ไปด้วยกันจนผมขาว

        ชีวิตแต่งงานเมื่อเริ่มรู้สึกเบื่อ ไม่ว่าจะ 3 ปี 7 ปี ถึงเวลานั้นให้ “เติมน้ำตาล” ลงไป เหมือนตอนที่คุณเคยจูงมืออีกฝ่ายตอนเริ่มรักกัน

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความที่คุณอาจสนใจ