พ่อจะยก "แฟนสาว" ของเขาให้กับน้องชาย ชายไม่สมประกอบ "ไม่ยอมแพ้" ฝ่าฟันจนมีวันนี้!

LIEKR:

พ่อจะยก "แฟนสาว" ของเขาให้กับน้องชาย ชายไม่สมประกอบ "ไม่ยอมแพ้" ฝ่าฟันจนมีวันนี้!

        เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า Ouyang Junxiong ชายวัย 58 จากเมืองไถจง ประเทศไต้หวันป่วยเป็นโปลิโอมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนที่เขาเกิดโรคโปลิโอกำลังแพร่หลาย แต่ทรัพยากรทางการแพทย์จำกัด 

        ทำให้สุดท้ายเขาจึงกลายเป็นผู้รับเคราะห์ ตั้งแต่เล็กๆแล้วที่พ่อปฏิบัติต่อเขาต่างกับน้องชายทั้ง 2 อย่างมาก พ่อให้เขากินอิ่ม มีที่อยู่ ส่วนอย่างอื่นพ่อไม่เคยสนใจ แต่กับน้องชายทั้งสองกลับได้รับความรักมากมาย จนทำให้เขานึกสงสัย : “ผมไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อแม่รึเปล่า” น้องสองคนไม่รู้ความ น้องคนที่ 2 กับเพื่อนชอบล้อเขา หัวเราะเยาะเขา “ไอ้ง่อย” ทำให้เขาอับอาย อดไม่ได้ที่จะสั่งสอนน้อง แต่พ่อกลับทำโทษเขาอย่างรุนแรง

 

Sponsored Ad

 

        จาการรายงานของ EBC news พอเรียนจบม.ต้น Ouyang Junxiong ก็มาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาฝึกหัด หลังจากนั้นก็กลับไปที่บ้านเกิดเพื่อทำงานในโรงงาน ขณะทำงานที่โรงงานเขาในวัย 21 ปีก็เริ่มมีความรักครั้งแรก เขาพาแฟนสาวกลับไปบ้านด้วยความดีใจ แต่พ่อกลับพูดกับเขาว่า : “ผู้หญิงเค้าดีๆ คนง่อยเปลี้ยเสียขาอย่างแกไม่มีอะไรเทียบเขาได้ แนะนำผู้หญิงคนนี้ให้น้องแกซะดีกว่า” ตอนนี้เมื่อย้อนกลับไปคิดถึง Ouyang Junxiong ก็ยังรู้สึกเจ็บปวด สุดท้ายเพราะว่าพ่อแม่ของผู้หญิงขัดขวางก็เลยเลิกกัน

 

Sponsored Ad

 

        ในที่สุดในงานปาร์ตี้บาร์บีคิวงานหนึ่ง เขาก็ได้รู้จักกับ Liu Meizhu ภรรยาเขาในตอนนี้ ทั้งสองเป็นโปลิโอทั้งคู่ เขาร้องเพลงในงานนั้นทำให้ Liu Meizhu ให้ความสนใจเขา ความอบอุ่นของเธอเหมือนเป็นแสงสว่างของชีวิตเขา เขาเริ่มตามจีบเธอ หลังเลิกงานก็จะซื้อขนมซื้อน้ำไปฝากเธอ วันหยุดก็ขี่รถพาไปเที่ยวที่ต่างๆ ทั้งสองคนคบหากันจนคิดเรื่องแต่งงาน

        พ่อของ Liu Meizhu กังวลว่าลูกสาวจะลำบาก จึงยืนกรานขัดขวางการแต่งงาน แต่สุดท้าย Liu Meizhu ก็ไม่สนใจคำห้ามปรามของครอบครัว ยืนยันที่จะแต่ง เธอคิดถึงเหตุการณ์ตอนนั้นแล้วว่า : “ฉันเห็นเขาคุกเข่าลงหน้าพ่อแม่ฉัน แต่พ่อแม่กลับไม่สนใจเขา เขาน่าสงสารมาก… เขาบอกว่าต่อจากนี้จะต้องให้ฉันมีชีวิตที่ดี เขาเป็นคนขยันหมั่นเพียร ฉันเชื่อในตัวเขา” 

 

Sponsored Ad

 

        หลังแต่งงานเธอไม่ได้กลับไปบ้านอีกเลย ทุกวันจะทำข้าวกล่องให้สามี กับข้าวมีแค่ไข่ดาวกับซอส ส่วนตัวเธอเองก็มีแค่ซอสคลุกข้าวกินทำอย่างนี้มา 7 ปีโดยไม่บอกสามี Ouyang Junxiong ตั้งใจทำงานโดยไม่หยุด ในที่สุดก็เก็บเงินซื้ออพาร์ตเม้นท์ได้ห้องหนึ่ง ทั้งสองมีบ้านของตัวเอง Ouyang Junxiong พา Liu Meizhu ออกจากบ้าน ไม่บอกว่าจะพาไปไหน แล้วก็มาหยุดลงหน้าบ้านของพ่อแม่เธอ Liu Meizhu ถึงได้มีโอกาสกอดพ่อแม่ที่ไม่ได้เจอกันมา 7 ปีอีกครั้ง สุดท้ายพ่อแม่ของเธอก็ยอมรับลูกเขยคนนี้

 

Sponsored Ad

 

        ทั้งสองคนตอนแรกใช้ไม้ค้ำยัน แต่กระดูกสันๆก็ค่อยๆเปลี่ยนรูป บวกกับ Liu Meizhu หกล้มซ้ำอีก ทำให้กระดูกสันหลังยิ่งได้รับบาดเจ็บ หลังเข้ารับการรักษาแขนขาก็ไม่มีแรง มีแค่แขนซ้ายที่ยังมีแรงประมาณ 70% เพื่อภรรยา Ouyang Junxiong ไปตามโรงงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อหารถสกูตเตอร์เล็กๆที่เหมาะกับเธอ แต่เนื่องจากสิ่งที่เธอต้องการ ทำให้ผู้ผลิตคิดว่าไม่เหมาะกับงบที่เขามี จึงปฏิเสธคำขอร้องของเขา เมื่อมองเห็นภรรยาใช้ชีวิตไม่สะดวก เขาที่ช่วยอะไรไม่ได้จึงตัดสินใจทำรถให้เธอเอง

 

Sponsored Ad

 

        Ouyang Junxiong ทำงานอยู่ในสายงานนาฬิกา เขาเข้าใจกลไกของเครื่องกลบ้างอยู่แล้ว แต่เขาทำได้แค่ตัวอย่างพอต้อง เผชิญหน้ากับระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่อาศัยโปรแกรมคอมพิวเตอร์และวงจร เขาก็ต้องหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต และถามผู้เชี่ยวชาญ ในที่สุดก็มีวิศวกรคอมพิวเตอร์คนหนึ่งมาช่วยเขียนโค้ดให้ ทำให้เขาผ่านความลำบากมาได้ และทำรถไฟฟ้า 3 ล้อคันแรกสำเร็จ ช่วยแก้ปัญหาความยากลำบากในชีวิตของภรรยาได้

        Ouyang Junxiong ยังไม่หยุดการวิจัยของเขาเพียงเท่านั้น เขายังคงพัฒนารถสามล้อไฟฟ้าต่อไป ไม่เพียงแก้ปัญหาเรื่องบันได ยังสามารถเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วในบ้าน ไม่ต้องกลัวความยากลำบาก สุดท้ายทำรถรุ่นใหม่ออกมายาว 108 ซม. สูง 85 ซม. กว้าง 54 ซม. สามารถรับน้ำหนักได้ 130 กก. ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ 60 กม. สามารถขึ้นบันไดสูงขั้นละ 15 ซม.ได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นดิน หรือทรายก็สามารถเคลื่อนที่ได้ การขึ้นลูกระนาด ขึ้นเนินก็ไม่ใช่ปัญหา เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้พิการ ตอนนี้เขาอยากให้มีโรงงานมาช่วยผลิต เขายินดีให้ใบอนุญาต เพียงแค่อยากให้ผู้ผลิตช่วยลดต้นทุน จะได้ช่วยคนได้มากๆ

 

Sponsored Ad

 


        “เพราะว่าไม่เคยถูกรักมาก่อน ไม่รู้ว่าอะไรคือความรัก จนได้เจอ Meizhu หลังจากได้รู้จักเธอ ผมถึงได้รู้จักกับความรัก…ผมในตอนนี้ไม่ทำอะไรรุนแรง และไม่โกรธพ่อแม่แล้ว” เมื่อย้อนนึกถึงตอนที่ได้ยินว่าภรรยายินดีแต่งงานกับเขาวินาทีนั้น มันเป็นเรื่องโรแมนติกที่สุดในชีวิตของเขา และเป็นเหตุผลให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป ขอบคุณภรรยาที่เปลี่ยนชีวิตของเขา สองคนสนับสนุนกันและกัน ฝ่าฟันผ่านความลำบาก ทำให้เราได้เห็นว่า : “ไม่มีความยากลำบากและอุปสรรคอะไรที่ผ่านไปไม่ได้ ”

ชมคลิป..

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ