เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับใครหลายคนเป็นอย่างมาก เมื่อเพจเฟซบุ๊ก ASEAN Skyline เผยภาพหมู่บ้านชวาในประเทศไทย พร้อมข้อความระบุว่า "เกาะ panyi หรือเกาะ panyi เป็นหมู่บ้านตกปลาในจังหวัดพังงา ภาคใต้ของอาณาจักรประเทศไทย"

        เกาะปันหยี (เกาะ panyi) เป็นเกาะเล็กๆ มีที่ราบประมาณ 1 ไร่ มีบ้านเรือน 200 หลังคาเรือน ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มีอาชีพประมง ขายของที่ระลึก และขายอาหารให้แก่นักท่องเที่ยว มีโรงเรียน และสถานีอนามัยอยู่บนเกาะ

        การตั้งถิ่นฐานที่เกาะปันหยี ก่อตั้งขึ้นในตอนท้ายของศตวรรษที่ 18 ที่มีชื่อเสียงสำหรับการสร้างบนเสาโดยชวา ชาวประมง ประชากรประกอบด้วยประมาณ 360 ครอบครัวหรือประมาณ 2,000 คนจาก 3 ครอบครัวชาวมุสลิมจากเกาะ java อินโดนีเซีย

สนามกีฬาลอยน้ำ

        ประวัติศาสตร์ 

        เกาะปันหยี หรือบ้านกลางน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา ชื่อนี้มีที่มาเนื่องจาก “โต๊ะบาบู” ผู้นำชาวอินโดนีเซียอพยพมาเมื่อ 200 ปีก่อน เมื่อมาเจอเกาะปันหยีได้ขึ้นไปปักธงให้พรรคพวกที่อพยพด้วยกันรู้ว่าเป็นสถานที่เหมาะสมที่จะตั้งบ้านเรือน

.

.

        คำว่า “ปันหยี” แปลว่า “ธง” มีลักษณะเป็นหมู่บ้านที่ตั้งเรียงราย อยู่บนทะเลมีที่ดินนิดเดียวซึ่งเอาไว้เป็นที่สร้างมัสยิดและกุโบว์ ชาวเกาะส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และสร้าง หมู่บ้านแทบทั้งหมดด้านหน้าของหน้าผาหินปูนเหนือน้ำทะเล ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำประมงพื้นบ้าน ตลอดจนมีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารมากมายบนเกาะ 

ภาพจาก ASEAN Skyline

.

.

.

.

        เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาแวะเยี่ยมชม มีสินค้าที่ระลึกจำหน่าย เช่น ผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอย ผ้าบาติก สร้อย กำไล แหวน ที่ทำมากจากหอยมุก และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีก เช่น น้ำพริกกุ้งเสียบ กะปิ และเป็นจุดพักทานอาหาร นักท่องเที่ยวมักนิยมมาทานอาหารกลางวันที่เกาะปันหยี

.

.

        การได้มาท่องเที่ยว พักร่างกายในชุมชนลอยน้ำของเกาะปันหยี ได้มาสัมผัสวิถีชีวิตชาวใต้ ชมความงดงามของอ่าวพังงา เล่นฟุตบอลบนสนามลอยน้ำ กินอาหารอร่อยๆ ผสมกับรอยยิ้มที่ได้รับตลอดทริป อาจทำให้เกาะปันหยีเป็นที่รักของทุกคนเหมือนกับเราก็ได้ ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งแล้วคุณจะติดใจ

ข้อมูลและภาพจาก ASEAN Skyline, dawninphuket