ไอเดียแจ่ม! ผอ.ทำนักเรียน "ติดโรงเรียน" จนไม่อยากกลับบ้าน ไม่ขาดเรียนแถมไม่เคยมาสาย!

LIEKR:

หลักสูตรนี้ยอดเยี่ยมไปเลย ผอ.!!

 หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    สำหรับเด็กหลายคนที่มีความสนใจในการละเล่น แต่การ “ไปโรงเรียน” อาจเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่โปรดปรานที่สุด เมื่อนึกถึงการไปโรงเรียนสมองอันน้อยๆก็อาจจะเกิดความกังวลขึ้นมา แต่ทว่ามีโรงเรียนแห่งหนึ่งกลับไม่เป็นเช่นนั้น

 

    สื่อต่างประเทศรายงานว่า ที่โรงเรียนประถมศึกษาเล็กๆแห่งหนึ่งในเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ... ที่นี่ไม่มีนักเรียนแม้แต่คนเดียวที่ไม่ชอบมาโรงเรียน ไม่ชอบการเรียนหนังสือ และยังมีนักเรียนบางคนถึงกับข่ ม ขู่ พ่อแม่ว่า:

 

Sponsored Ad

 

    "ถ้าพ่อแม่ปล่อยให้ตนเองพลาดกิจกรรมใดๆของโรงเรียน จะหนีออกจากบ้าน!"

 

    แล้วอะไรคือ “ความพิเศษ”ของโรงเรียนประถมแห่งนี้? เรื่องสืบเนื่องมาจากผู้บริหารโรงเรียนเมื่อปี 2011 เขามีชื่อว่า “SJKT Sungai Ara” วัย 57 ปี

 

Sponsored Ad

 

    นักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้มีทั้งหมดประมาณ 130 คนและคุณครูอีก 10 กว่าคน และแนวคิดที่ทำให้นักเรียนรักการมาโรงเรียนมากก็ต้องยกให้ฝีมือของผู้อำนวยการโรงเรียน ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งก็ลดการบ้านให้นักเรียน เรียนน้อยลงและมีการสอบวัดระดับน้อยลงด้วย ทำให้ใบหน้าของเด็ก ๆ เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

 

ผอ.Sanggai คิดว่าการเรียนที่ประสบความสำเร็จคือ การที่นักเรียนได้เรียนอย่างมีความสุข ฉะนั้นจึงได้ล้มเลิกวิธีการสอนแบบดั้งเดิมที่น่าเบื่อไป และได้วางแผนการศึกษาแบบใหม่ นั่นคือ “โปรแกรมการศึกษาที่มีความสุข”

 

Sponsored Ad

 

 

    จะเห็นได้ว่าภายในบริเวณโรงเรียนจะมีภาพกิจกรรมต่างๆมากมาย

    เมื่อยามว่างเด็กๆสามารถกระโดดเล่นใต้อาคารเรียนได้

    ให้เด็กๆได้ปลดปล่อยตามธรรมชาติ

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้ยังมีมุมอ่านหนังสือที่กำหนดไว้ในอาคารเรียน รวมถึงคอมพิวเตอร์สำหรับเด็ก

    ในเวลาว่างคอมพิวเตอร์เหล่านี้อนุญาตให้เด็กสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งใหม่ ๆ ในโลกได้:

 

Sponsored Ad

 

    เมื่อสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้โตขึ้นเวลาในโรงเรียนจึงน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

    สำหรับเด็ก ๆ และทุกคนกระตือรือร้นมากขึ้นทำให้อยากมาโรงเรียนเร็วขึ้นทุกวัน

    ปกติเวลาที่เปิดให้นักเรียนมาโรงเรียนคือตอนเช้า 7-7.40 น. แต่ตอนนี้นักเรียนทุกคนมาโรงเรียนเร็วขึ้นกว่าเดิมประมาณ 6 โมงเช้าก็มากันแล้ว เพื่อมาเล่นกับคุณครู และปัญหาเรื่องการมาโรงเรียนสายนั้นแทบจะไม่มีเลย นอกจากนี้แล้วผอ. Sanggai ยังส่งต่อความคิดที่โดดเด่นเหล่านี้ไปยังนักเรียนและครูอีกด้วย

 

Sponsored Ad

 

 

    นอกจากการเรียนในชั้นเรียนแล้ว การเรียนนอกห้องเรียนเช่นการอนุรักษ์ธรรมชาติก็เป็นสิ่งที่เขาไม่ลืมที่จะสอนให้นักเรียนรับรู้  และเขายังคำนึกถึงว่าการเรียนนอกห้องเรียนอาจทำให้นักเรียนเข้าใจยาก เขาจึงแทรกซึมความคิดนี้ไว้ในการเล่นของเด็กๆด้วย

 

Sponsored Ad

    โดยผอ. Sanggaiได้มีการจัดตั้งชุดของกิจกรรมการศึกษานอกหลักสูตรด้วย

    เช่น บริเวณพื้นทีกว้างภายในโรงเรียนที่หญ้าปกคลุม แต่เขาได้ทำเป็น “ฐานลับ” สำหรับเป็นห้องเรียนเมื่อยามนักเรียนเบื่อหน่าย

 

    ผอ. Sanggaiได้ผสมผสานระหว่างการเล่นกับความสงสัยเข้าด้วยกัน มีการสอนการปลูกต้นไม้ ดอกไม้ เลี้ยงสัตว์ เหล่านี้ล้วนเป็นความแปลกใหม่และความรู้สึกท้าทายสำหรับเด็กๆ

 

    จากพื้นที่เต็มไปด้วยหญ้าผอ.ได้พานักเรียนเปลี่ยนเป็นสวนปลูกต้นหอม เด็กๆรู้สึกตื่นเต้นและชอบมาก แทบจะไม่มีนักเรียนคนไหนรู้สึกเบื่อหน่ายเลย

     นักเรียนก็ช่วยรดน้ำ พรวนดิน เด็ดหญ้า ประหยัดเวลาเรียนพละไปเลย

 

    ปัจจุบันบริเวณรอบๆโรงเรียนก็กลายเป็นสวนผลไม้ พืช ผักมากมาย มีต้นไม้เพิ่มมากขึ้นทำให้มีสัตว์เข้ามาอาศัย เด็กได้เห็นสัตว์ที่แปลกใหม่มากมายและศึกษาไปพร้อมๆกัน

    เนื่องจากความเอาใจใส่ของนักเรียนทำให้สวนเกษตรของโรงเรียนมีรายได้เพิ่มขึ้น แค่การขายกล้วยก็มีรายได้เดือนละ 5000 บาท

“และในทุกๆวันศุกร์ ผอ.จะพานักเรียนแต่ละห้องไปเดินรอบโรงเรียนเพื่อเรียนรู้ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ และในวันเสาร์ก็จะพาเด็กไปเก็บขยะรีไซเคิลตามชุมชน”

    แต่ทว่าคาบเรียนเหล่านี้นักเรียนทุกคนสามารถเลือกลงเรียนได้ ผอ.ไม่บังคับ สำหรับเด็กนักเรียนที่ไปทัศนศึกษานอกโรงเรียนก็จะได้รับผลตอบแทน

    สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษากิจกรรมเหล่านี้น่าสนใจและมีความหมายมากกว่าเมื่อเทียบกับการนั่งเรียนเงียบ ๆ ในห้องเรียน

 

    ยังมีเด็กบางคนที่พ่อแม่ลืมบอกลูกๆเกี่ยวกับกิจกรรมเหล่านี้ หรือเด็กบางคนกลัวพ่อแม่ไม่อนุญาตจึงเอาวิธีการข่มขู่มาใช้ โดยบอกว่า “หากไม่ให้ไปจะหนีออกจากบ้าน”

    และอีกสิ่งเรื่องหนึ่งที่ผอ.Sanggaiให้ความสำคัญมากก็คือ ความประหยัด ไม่กินทิ้งกินขว้าง ข้าวทุกเม็ดต้องกินให้หมด และต้องกินอาหารให้ครบ 3 มื้อ จนเด็กๆทุกคนติดเป็นนิสัยไปแล้ว ต้องกินอาหารให้ตรงเวลาครบ 3 มื้อและที่สำคัญรู้คุณค่าของอาหารทุกเม็ด

 

    พ่อครัวของโรงเรียนบอกว่า เศษอาหารเหลือลดน้อยลงไม่ถึงครึ่งกิโลกรัม

    พวกเขายกย่องให้ผอ.Sanggai กลายเป็นผอ.ที่ดีที่สุดของเมืองปีนังไปแล้ว ในช่วงสามปีที่ผ่านมา GPS ของโรงเรียน (เกรดเฉลี่ยของนักเรียนในโรงเรียน) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมากกว่า 86%ของนักเรียนที่สอบผ่าน 

 

    ไม่เพียง ผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น

    ในด้านอื่น ๆ ผอ.ก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ อีกทั้งโรงเรียนยังได้รับรางวัลมากมาย 

 

    ปัจจุบันเด็กเหล่านี้ยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ทุกคนกำลังจับมือกันเพื่อเรียกร้องให้รักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะโลกร้อน: แต่สิ่งที่ทุกคนกังวลคืออีก 3 ปีข้างหน้า ผอ.Sanggai ก็จะเกษียณแล้ว และความปรารถนาสูงสุดของเขาคือหวังว่าครูและเด็ก ๆ จะสามารถฝึกฝนการศึกษาต่อไปได้

 

"ผมไม่เคยเชื่อเลยว่าการพึ่งพาการเรียนการสอนเสริมนอกห้องเรียนจะเพิ่มเติมความสามารถและปรับปรุงประสิทธิภาพของเด็ก ๆ ได้อย่างแท้จริง"

 "ฉะนั้นการที่ได้เด็กได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีนั้น จะทำให้เด็กมีความสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเขาด้วย"

 

 

    ชมคลิป

    คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

    

ที่มา :foyuan

แปลและเรียบเรียงโดย Liekr

บทความที่คุณอาจสนใจ