เสื้อผ้ามีคราบเปื้อนซักยังไงก็ไม่ออก ควรทำยังไงดี ความจริงแล้วคุณเพียงแค่มีขวดพลาสติกเปล่าใบหนึ่งเท่านั้น ก็สามารถช่วยทำให้เสื้อผ้าของเรากลับมาขาว สะอาดอีกครั้ง แถมยังช่วยแก้ปัญหาเสื้อผ้าพันกันได้ด้วย

1) นำขวดพลาสติกเปล่าใส่ลงในเครื่องซักผ้า

        เวลาซักผ้า ให้นำขวดพลาสติกเปล่าทิ้งลงไปในเครื่องซักผ้าด้วย แค่นี้ก็จะทำให้ความอัศจรรย์เกิดขึ้นภายในเครื่องซักผ้าแล้ว

ก่อนอื่นใส่เสื้อผ้าสกปรกลงในถุงซักผ้า

        เตรียมขวดพลาสติกเปล่าหนึ่งใบ ทำความสะอาดให้เรียบร้อย ปิดฝาให้สนิทแล้วใส่ขวดพลาสติกเปล่าลงไปในถังเครื่องซักผ้าด้วยในขณะที่ซักผ้าตามปกติ

        ลองมาเปรียบเทียบดูกันว่า เสื้อผ้าที่ได้ใช้ขวดพลาสติกเปล่าช่วย กับไม่ได้ใช้มันแตกต่างกันยังไง

.

ทำไมเสื้อผ้าถึงได้สะอาดมากขึ้นหลังจากได้ใส่ขวดพลาสติกเปล่าลงไปด้วย
        เนื่องจากขวดพลาสติกสามารถเปลี่ยนทิศทางของการไหลของน้ำได้อย่างง่ายดาย และเพิ่มแรงบิดระหว่างการไหลของน้ำ วิธีนี้ทำให้ซักเสื้อผ้าได้อย่างสะดวกสบายและสะอาดมากขึ้น

2) เสื้อผ้าพันกัน

        เมื่อซักเสื้อผ้าเสร็จก่อนที่เราจะนำผ้าออกมาตากนั้น สังเกตว่าเสื้อผ้าจะพันกันไปหมดทำให้เสื้อผ้าเปลี่ยนรูป นี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ของการใช้เครื่องซักผ้าเลยก็ว่าได้

        เตรียมลูกบอลซักผ้าหลายอันเอาไว้ใช้ในเวลาซักผ้า นอกจากนี้ยังสามารถใช้ไหมถักมาช่วยได้ โดยจะมีวิธีการทำดังต่อไปนี้

พันไหมถักให้แน่นเหมือนลูกบอลซักผ้า

.

        เวลาซักเสื้อผ้าใส่ลูกบอลซักผ้าสักสองสามลูกไว้ในขากางเกง และแขนเสื้อ เพียงแค่นี้เสื้อผ้าของเราก็จะไม่พันกันอีกแล้ว

        มาดูผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นยังไงบ้างหลังจากใส่ลูกบอลซักผ้าแล้ว

        ลูกบอลซักผ้ายังสามารถช่วยทำความสะอาดเสื้อผ้าได้ด้วย เวลาซักเสื้อผ้ากันหนาว หมอนหรือผ้าห่ม ต่างสามารถนำลูกบอลซักผ้ามาช่วยได้ ทำให้เสื้อผ้าของเราสะอาดมากกว่าเดิม

3) เสื้อผ้ามีกลิ่นอับ

        ปัญหาเสื้อผ้ามีกลิ่นอับสามารถแก้ไขได้โดยใช้น้ำส้มสายชู วิธีการทำก็คือ ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:20 นำเสื้อผ้ามาแช่ในน้ำผสมนี้ ทิ้งไว้ 10 นาที และนำเสื้อผ้าไปซักในเครื่องซักผ้าตามปกติ เพียงแค่นี้กลิ่นอับที่ติดกับเสื้อก็จะหายไป

4) ขจัดคราบน้ำมันบนเสื้อผ้า

        เวลาเสื้อผ้าเปื้อนคราบน้ำมัน อย่าเพิ่งโยนลงในเครื่องซักผ้าทันที เพราะว่ามันซักไม่ออก วิธีที่ดีที่สุดก็คือ โรยเบกกิ้งโซดาเล็กน้อยบนคราบน้ำมัน ทิ้งไว้ 45 นาที จากนั้นเทผงซักฟอกลงไปเล็กน้อย แล้วขัดด้วยแปรงสีฟันจากนั้นก็ซักตามปกติก็เป็นอันเสร็จ

5) ขจัดคราบเหลืองบนเสื้อผ้า

        เพียงแค่นำน้ำซาวข้าวมาใส่เปลือกของส้ม ทำให้ร้อน จากนั้นนำเสื้อผ้าที่มีคราบเหลืองนั้นมาแช่ในน้ำนี้ ทิ้งไว้สักพักแล้วซักด้วยมือ เสื้อผ้าของเราก็จะกลับมาขาวใสเหมือนเดิมได้แล้ว วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะไม่ทำลายผิวหนังของมือเรา แถมยังไม่ทำลายเสื้อผ้าอีกด้วย

6) ขจัดคราบเหงื่อบนเสื้อผ้า

        คราบเหงื่อบนเสื้อผ้านอกจากดูน่าเกลียดแล้ว ยังมีกลิ่นเหม็นอีกด้วย เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยใส่แอมโมเนียหรือเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ ในขณะซักผ้าให้แช่ไว้ก่อนสี่ห้านาที แล้วซักทำความสะอาดตามปกติ ก็สามารถขจัดคราบเหงื่อบนเสื้อผ้าออกได้อย่างง่ายดาย

7) คราบน้ำมันที่เกิดมาจากการทำกับข้าว

        เวลาทำกับข้าวอยู่แล้วน้ำมันพืชกระเด็นใส่เสื้อไม่ต้องตกใจ เพียงนำยาสีฟันไปชุบน้ำเปล่าแล้วนำมาถูบนคราบน้ำมันแล้วขยี้เบาๆ ก็สามารถขจัดคราบน้ำมันออกได้อย่างง่ายดาย

8) คราบหมึกบนเสื้อผ้า

        นำส่วนที่เป็นคราบหมึกของเสื้อผ้ามาแช่ไว้ในเหล้าขาวสักพักจากนั้นซักด้วยมือตามปกติก็สามารถขจัดคราบหมึกออกได้แล้ว หรืออีกวิธีหนึ่ง เทนมบนคราบหมึก ชุบน้ำเปล่าแล้วซักด้วยมือก็จะสามารถขจัดคราบหมึกออกได้เหมือนกัน

9) คราบชา - กาแฟ

        เสื้อผ้าที่เพิ่งโดนคราบชาหรือคราบกาแฟ ให้รีบนำไปซักในน้ำร้อนที่ร้อนประมาณ 70 องศา ก็สามารถขจัดคราบนั้นออกได้อย่างง่ายๆ

        ถ้าเป็นคราบชาหรือคราบกาแฟเก่าๆ ให้นำเสื้อผ้าไปแช่ในน้ำเกลือเข้มข้นก่อน แล้วค่อยซักตามปกติ และล้าง

10) คราบลิปสติก

        เวลาแต่งตัวหรือเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไม่ทันระวัง เสื้อไปโดนลิปสติกนั้นเข้า เพียงแค่ใช้ผ้าสะอาดไปชุบน้ำแร่หรือโซดาที่มีฟอง แล้วนำผ้านี้ไปถูบนลิปสติกเบาๆ ก็จะสามารถขจัดคราบลิปสติกออกได้

11) คราบสีเขียวจากใบหญ้า

        ให้นำเกลือและน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:10 มาผสมกัน จากนั้นนำเสื้อผ้าที่มีรอยเปื้อนคราบมาแช่ในน้ำผสมนี้เป็นเวลา 10 นาที แล้วค่อยซักทำความสะอาดตามปกติ

12) วิธีดูแลผ้าสีให้สดใส

        แช่เสื้อผ้าในน้ำเกลือแล้วค่อยซักทำความสะอาดตามปกติ เกลือจะช่วยป้องกันสีตกและสีซีดจางได้

13) ขจัดราบนเสื้อผ้า

        เสื้อผ้ามีความชื้นจะเป็นรา สามารถนำเสื้อไปตากแดด แล้วใช้แปรงขัดคราบราออก จากนั้นล้างออกด้วยแอลกอฮอล์อีกทีก็เป็นอันเสร็จ

        แต่ถ้าเสื้อผ้ามีราขึ้นเยอะมาก ให้นำไปแช่ในน้ำสบู่ที่เข้มข้นก่อน แล้วค่อยนำไปตากแดดหลังจากนั้นนำกลับไปแช่น้ำสบู่อีกที แล้วนำไปตากแดดต่อ ทำซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ก็จะสามารถขจัดรานั้นได้

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR