หนุ่มวัย 38 โพสต์หมดรักเมียแล้ว ทั้งที่เพิ่งแต่งกันมา แต่ชาวเน็ตกลับเห็นใจภรรยามากกว่า

LIEKR:

ตอนรักกันใหม่ๆน้ำต้มผักยังหวาน ตอนนี้คนหมดใจอะไรก็พูดได้

    เมื่อวันที่ความรักมาถึงทางตัน ก็มักจะมีล้านแปดเหตุผล ที่มาย้ำเตือนความคิดให้เลิกรากันอยู่เสมอ เหมือนกับหนุ่มรายนี้ซึ่งได้ออกมาตั้งกระทู้หมดรักภรรยา ทั้งที่เพิ่งแต่งงานกันมาไม่นาน

    โดยหนุ่มเจ้าของกระทู้อายุ 38 ปี ได้เล่าว่าเขากับภรรยาเพิ่งแต่งงานกันมาได้ไม่ถึงปี ทั้งคู่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ช่วงแรกก็รักกันดี แต่ช่วงหลังรู้ตัวว่าความรู้สึกของฝ่ายชายเริ่มดรอปลงไปเยอะมาก ทั้งที่เพิ่งแต่งงานอยู่กินกันมา

 

Sponsored Ad

 

    หนุ่มเล่าว่า เริ่มจากครั้งแรกที่เราแต่ง เพราะมีความกดดันทางครอบครัวที่อยากให้รีบแต่ง เพราะเราทั้งคู่อายุมากแล้ว ซึ่งในตอนก่อนแต่งก็มีการพูดคุยกันและตกลงแนวทางการอยู่กันแล้ว แต่พอแต่งมาแล้วก็มีเรื่องเปลี่ยนทำให้หนักใจหลายอย่าง 

    เรื่องแรกคือภรรยาเข้ากับแม่เราไม่ได้ แม่เราชอบคนอ่อนน้อม แต่ภรรยาเป็นคนพูดจาแข็งๆห้วนๆ (ซึ่งก่อนแต่งจะอ่อนน้อมกว่าตอนนี้)  ต่อมาก็มีปัญหาเรื่องที่อยู่สร้างครอบครัว แม่เราอยากให้อยู่ในบ้านเดียวกันเป็นครอบครัวใหญ่ แต่ภรรยาพอได้มาอยู่ร่วมกันแล้วก็อยากแยกออกไปอยู่เองเพราะอึดอัด  เราก็ห่วงแม่เพราะแม่เราสุขภาพไม่ดีเราอยากอยู่ใกล้ๆให้กำลังใจแม่ แต่ภรรยาเราเขามองว่าแม่เราดีมานด์สูงไป เราเป็นคนกลางก็ลำบากใจ

 

Sponsored Ad

 

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

    อีกเรื่องที่ยังฝังใจหนุ่มไม่หายคือเรื่องเงิน ตอนก่อนแต่งเราเปิดบัญชีร่วมกันตกลงกันแล้วว่าจะเอาเงินสินสอดไปใส่ไว้เพื่อเก็บไว้ให้ลูกในอนาคต (ตอนนี้ยังไม่มี) แต่พอหลังงานแต่งแล้ว แม่ของภรรยาก็เก็บเอาเงินสดไปหมดบอกจะเก็บไว้ให้เอง พอเราทวงถามทางนั้นก็บ่ายเบี่ยง ไม่เอาเงินมาใส่คืนในบัญชีให้  เราก็ไม่อยากคาดคั้น เรามีแพลนอยากซื้อบ้าน หาที่อยู่ เราขอ Statement กับสลิปเงินเดือนของภรรยาเพื่อเอาไปคุยเรื่องเครดิตกู้บ้านกับแบงก์ (ยังไม่ได้ระบุว่าจะซื้อ แค่เช็กเครดิตว่ารวมกันกู้ได้ประมาณเท่าไร)  ซึ่งเราก็บอกชัดเจนแล้วว่ายังไม่ได้กู้แค่เอาไปประเมิน แต่ภรรยาเราปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าไม่สบายใจ ...ซึ่งเราก็อึ้งไปว่า แต่งงานจดทะเบียนกันแล้วทำไมแค่ Statement แชร์ให้กันไม่ได้ เรื่องทรัพย์สินรายได้ของเรา เราบอกเขาหมดไม่เคยปิดบัง ถึงตอนนี้ยังอยู่กันแบบแยกกระเป๋า 

 

Sponsored Ad

 

    สุดท้ายเรื่องลูก ตอนแรกเราสองคนแพลนว่าอยากมีลูก ลองมีแบบธรรมชาติแล้วไม่สำเร็จก็ไปหาหมอทำเด็กหลอดแก้ว แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ภรรยาบอกว่าจากผลตรวจนั้นสาเหตุเป็นเพราะเรา พูดทีเล่นทีจริงบ้าง แต่ย้ำหลายรอบซึ่งเราก็เสียใจอยู่ลึกๆ 

    พอเราเริ่มหายยุ่งจากทำงานก็เลยได้ไปคุยกับหมออีกที่เอาผลตรวจให้ดู ปรากฏว่าหมออีกที่บอกว่าเชื้อเราก็เข้าข่ายปกตินะ ส่วนตัวเลขที่ดูต่ำนั้นไม่ได้มีผลกระทบมาก ไม่ได้มีปัญหาถึงขนาดมีลูกไม่ได้ที่จริงแล้วปัญหาแบบนี้มักเกิดจากฝ่าย ญ ที่มีอายุมากขึ้นแล้วมากกว่า พอได้ฟังแล้วเราเสียความรู้สึกไปเลยเพราะที่ผ่านมาเราคิดมาตลอดว่าเป็นเพราะเรา 

 

Sponsored Ad

 

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

    พอเรื่องหลายๆเรื่องแบบนี้มารวมกันก็กลายเป็นความไม่ไว้ใจ ช่วงโควิดงานเรามีปัญหาต้องทำงานหนักขึ้น แล้วตอนเย็นก็ต้องกลับมาดูแม่ พอแม่หลับก็ต้องขับรถกลับไปอยู่กับภรรยา ซึ่งพอไปถึงก็เหนื่อยอยากอาบน้ำนอนแล้ว 

    ทำงานเหนื่อยกลับบ้านก็เหนื่อยใจก็ยิ่งหมดความรู้สึก ถ้ามีเวลาว่างเรากลับอยากนอนนิ่งๆอยู่คนเดียวมากกว่า ภรรยาเราเหมือนเขาก็รู้สึกได้ เขาก็กลับมาทำดีพูดดีกับเรามากขึ้นแต่ไม่ได้พูดถึงประเด็นที่เป็นปัญหา จนเราตัดสินใจแล้วว่าจะไม่มีลูกแล้วมันเบื่อหน่ายไปหมด อยากอยู่อย่างสงบ

 

Sponsored Ad

 

    ส่วนหนึ่งก็รู้สึกว่าอยู่แบบนี้ต่อไปก็ไม่แฟร์กับภรรยาเรา เขาอายุมากขึ้นทุกวันและไม่ได้ทำอะไรผิด อยู่ด้วยกันต่อไปเรื่อยๆ เราก็ไม่เห็นอนาคต แบบนี้ควรทำยังไงดีครับ ปล. เราทั้งคู่ไม่มีเรื่องชู้สาวหรือมือที่สามเลยครับ ช่วยขอคำปรึกษาที

    ทั้งนี้ชาวเน็ตได้เข้ามาร่วมแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งบอกให้ทั้งคู่ไปลองปรับความเข้าใจกันก่อน บางรายก็บอกเรื่องแม่ผัวกับลูกสะใภ้ถ้าไม่ลงรอยกันโอกาสน้อยมีน้อยมาก บางรายก็บอกว่าเห็นใจฝ่ายหญิงเอามากๆ เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่อยากมีครอบครัวที่แยกออกไปเป็นของสามีกันทั้งนั้น

 

Sponsored Ad

 

ความเห็นจากชาวเน็ต

.

.

.

.

ชาวเน็ตเห็นใจฝ่ายหญิง ทำไมมาเจอสามีแบบนี้

.

.

.

ที่มา : pantip

บทความที่คุณอาจสนใจ