เปิดชีวิต "ป้าชุบ" วัย 67 ปี แม่หัวใจแกร่ง ขี่มอเตอร์ไซค์ขายก๋วยจั๊บ หาเงินค่ารักษาลูกชาย

LIEKR:

หญิงชรา ที่ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน แต่สิ่งที่ป้าชุบรับรู้คือ ถึงเค้าจะลำบาก ต้องเจออุปสรรคมากน้อยเพียงใด เค้าพร้อมที่จะสู้เพื่อลูกคนเดียว

        ปฏิเสธได้ยากว่า ชีวิตคนเราเกิดมาแล้วจะพบเจอแต่เพียงเรื่องเดียวซ้ำๆ เพราะมีเหตุการณ์ต่างๆ มากมายที่เข้ามาในแต่ละช่วงอายุของชีวิต ทั้งดีและร้าย แต่ "หญิงชรา" คนนี้ เลือกที่จะหันหน้าสู้กับสิ่งที่เรียกว่า มรสุมชีวิต ด้วยความหวังเดียวคือให้ลูกมีชีวิตต่อไป

        “ป้าหมดน้ำตาแล้วหนู...ไม่รู้จะร้องไปทำไม สู้กับมันดีกว่า ป้าคิดว่าชีวิตคนเราเกิดมาต้องสู้ เราจะไปท้อทำไม” นี่เป็นเพียงประโยคบอกเล่าสั้น ๆ ที่ฟังแล้วรู้สึกว่าชีวิตของหญิงคนนี้ คงจะผ่านอะไรมานักต่อนัก สืบเนื่องจาก นายปรเมศร์ มีสมภพ อาสาสมัครกู้ภัยที่มักจะลงพื้นที่ช่วยเหลือคนยากจนเสมอ ได้เดินทางไปพบ “ป้าชุบ” หรือ .ส.ชุบ ฉิมมะ พักอาศัยอยู่กับลูกชายวัย 28 ปี แม้จะอยู่ในตัวเมือง จ.ราชบุรี แต่กลับมีบ้านไม้สภาพเก่าผุพัง อีกทั้งไม่มีน้ำใช้ จึงต้องอาศัยคลองน้ำไหลผ่านเล็กๆ ข้างบ้าน ส่วนสามีเลิกรากันได้ 27 ปีแล้ว

        แม้ว่าวันนี้ป้าชุบจะมีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก ซ้ำร่างกายที่แก่ชราลงทุกขณะ แต่ป้าชุบ ก็ยังคิดเสมอว่า “ชีวิตคนเราเกิดมาต้องสู้ เราจะไปท้อทำไม”

        หากย้อนกลับไปในอดีต ตอนที่ป้าชุบอายุ 15 ปี มีเหตุให้ถูกไ ฟ ช็ อ ต ขณะนั้นป้าชุบกระเด็นตกจากตึก ทำให้ขาขวาหัก หัวเข่าด้านซ้ายหลุด ทำให้ตั้งแต่นั้นมา กลายเป็นอุปสรรคของการเดิน เพราะไม่สามารถกลับไปเดินได้คล่องเหมือนคนปกติทั่วไป

        ส่วนลูกชายคนเดียว ก็ป ร ะ ส บ อุ บั ติ เ ห ตุ ถูกร ถ ช น ตั้งแต่อายุ 16 ปี เมื่อถึงโรงพยาบาลแพทย์ต้องรีบรักษาชีวิตด้วยการใส่กะโหลกเทียม ทำให้ทุกวันนี้ลูกชายมีอาการทางสมอง รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้บ้าง อารมณ์ไม่คงที่ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย แม้พูดจาพอรู้เรื่อง แต่จะให้ออกไปทำงานเหมือนคนปกตินั้นไม่สามารถทำได้

        ดังนั้นทุกวันนี้จึงมีเพียงป้าชุบ ต้องดูแลลูกชายตลอดเวลา อาศัยรายได้จากการขายก๋วยจั๊บ โดยจะต้องขี่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างตระเวนขายตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งรถคันนี้ก็เป็นรถที่คนใจบุญบริจาคให้ รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือน ผู้ใจบุญได้บริจาคช่วยเหลือเช่นกัน เพื่อให้ป้าชุบมีกำลังใจสู้ต่อไป

        เมื่อสอบถามที่มาที่ไปของบ้านหลังนี้ กลับพบว่าบ้านไม้เก่าสภาพผุพังที่ป้าชุบพักอาศัยก็ไม่ใช่บ้านของตัวเอง แต่มีผู้ใจบุญให้พักอยู่อาศัย ทุกวันนี้ก็มีสภาพผุพังและทรุดโทรมตามกาลเวลา และที่สำคัญไม่มีน้ำใช้ ต้องอาศัยคลองน้ำไหลข้างๆ บ้านดำรงชีวิต

        ป้าชุบ ยังพูดให้ฟังอีกว่า “ชีวิตป้าเจออะไรและผ่านอะไรมาเยอะ วันนี้ไม่รู้จะร้องไห้ไปทำไม ที่ผ่านมาป้าก็จดจำเป็นบทเรียนสอนใจตัวเองนะลูก ชีวิตคนเราเกิดมาต้องสู้ ทำทุกวันนี้ก็เพื่อลูก ถึงเขาจะเป็นยังไง เขาก็เป็นลูกของเรา เราจะไปท้อทำไม หนูว่าไหม...”

        สิ่งที่หญิงผู้นี้รับรู้และเผชิญมาตลอดก็คือ แม้ทุกครั้งที่ความลำบากและอุปสรรคจะโถมเข้ามาในชีวิตมากเพียงใด แต่หัวใจเป็นสิ่งสำคัญ หัวใจที่แข็งแกร่งไม่ยอมแพ้และพร้อมสู้ หวังเพื่อทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะชีวิตคนเรายังต้องพบเจอสิ่งต่างๆ มากมาย

        เมื่อเรื่องราวของป้าชุบถูกเผยแพร่ออกไปผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้มีเพื่อนๆ พี่ๆ ต่างร่วมมือ ร่วมใจส่งมอบความช่วยเหลือคนละเล็กคนละน้อย จนวันนี้ยอดเงินดังกล่าวนั้นอาจจะไม่มากอะไรนัก คุณยายจึงตัดสิน ซื้อที่ดินขนาด 50 ตารางวาเพื่อความหวังในอนาคตจะปลูกพิงพักเล็กๆ ที่พอจะบังแดด บังฝน อาศัยอยู่กับลูก ได้ และถ้าวันนึง คุณยายจ า ก ไ ป อย่างน้อย ลูกของคุณยายก็มีที่อยู่เป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปนอนข้างถนน

        ซึ่งในเฟซบุ๊ก Poramet Misomphop ได้เผยข้อความว่า "ภาพของหญิงชราที่ยืนมองที่ดินเล็กๆ ที่ตัวเองเคยวาดฝันพร้อมสีหน้า น้ำตา แห่งความสุข พร้อมพูดว่า "ไม่เคยคิดเลย จะมีวันนี้ ในที่สุด ความฝันก็เป็นจริงแล้ว ยายขอขอบคุณทุกคนนะ ขอบคุณจริงๆ" 

        คุณยายชุบ ยังคงขายก๋วยจั๋บเหมือนเดิม หากเพื่อนๆ พี่ๆ พบเจอคุณยายชุบ สามารถช่วยกันอุดหนุนคุณยายได้ ที่สำคัญขอขอบคุณทุกคนในสื่อออนไลน์ ที่ร่วมแรง ร่วมใจ ส่งความช่วยเหลือไปให้คุณยายชุบ จนทำให้คุณยายกลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งหนึ่ง

.

.

ข้อมูลและภาพจาก dailynews, Poramet Misomphop