"กบ-บรู๊ค" ขึ้นแท่นพ่อแม่ตัวอย่าง เลี้ยงลูกทั้งสองได้ดีมาก โตมาสดใสร่าเริง ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่หวือหวา

  • 2020-11-02 13:08

LIEKR:

"กบ-บรู๊ค" ขึ้นแท่นพ่อแม่ตัวอย่าง เลี้ยงลูกทั้งสองได้ดีมาก โตมาสดใสร่าเริง ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่หวือหวา

    นับว่าเป็นคุณพ่อคุณแม่ตัวอย่างจริงๆ สำหรับ คุณพ่ออย่าง บรู๊ค ดนุพร และ กบ สุวนันท์ ที่ล่าสุด ขึ้นแท่นพ่อเเม่ตัวอย่าง เลี้ยงลูกทั้งสองได้ดีมาก ใช้ชีวิตสมถะเรียบง่ายไม่หวือหวา

    สำหรับคุณแม่อย่าง กบ สุวนันท์ ปุณณกันต์ นั้นได้คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงมาเป็นระยะเวลานานเลยทีเดียว โดย สาวกบขึ้นแท่นนางเอกยอดนิยมเบอร์ 1 และได้รับฉายา นางเอกขวัญใจมหาชนตลอดกาล และดาวค้างฟ้า เรียกได้ว่าถึงแม้เวลาจะผ่านมานานแค่ไหน แต่ความนิยมของ สาวกบ ก็ยังคงได้รับจากแฟนคลับอย่างต่อเนื่องมาเสมอ

    ปัจจุบัน สาวกบ ได้เข้าพิธีวิวาห์ กับ บรู๊ค ดนุพร ปุณณกันต์ หลังจากที่คบหาดูใจกันมานานกว่าสิบปี โดยได้มีลูกสาวคือ “น้องณดา” ปุณณดา ปุณณกันต์ และ “น้องณดล” ปุญณดล ปุณณกันต์ เป็นโซ่ทองคล้องใจ

    โดยสาว กบ สุวนันท์และบรู๊ค ดนุพร พ่อเเม่ตัวอย่าง ที่เลี้ยงลูกอย่างน้องณดา-ณดล ได้ดีมาก ใช้ชีวิตสมถะ เรียบง่ายไม่หวือหวา ก่อนหน้านี้สาวกบ สุวนันท์ ได้โพสต์ระบุข้อความว่า ได้ไปถวายเพลพระ 11 รูป ถวายสังฆทาน จีวร และเทียนพรรษา 1 คู่ ได้ปล่อยปลาด้วย..จึงเอาบุญมาฝากทุกคน

.

    ก่อนหน้านี้ทั้ง กบและบรู๊คได้ออกมาเปิดใจถึงเทคนิคการเลี้ยงลูก ว่าพ่อแม่ควรสื่อสารกับลูกเชิงบวก พร้อมทั้งปลูกฝังพฤติกรรมที่เหมาะสมและการเจริญเติบโตที่แข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจของลูกน้อย พร้อมเผยเทคนิคสร้างความอบอุ่นในครอบครัว เริ่มจากการแบ่งเวลาให้ลูกๆ ไม่ว่าพ่อและแม่ จะยุ่งกับการทำงานมากเพียงใด ก็สามารถแบ่งเวลาให้ “น้องณดา - ณดล” ได้เสมอ

    ทั้งนี้ พ่อบรู๊ค เผยว่า "พ่อแม่ทุกคนต่างก็อยากให้ลูกเชื่อฟังและทำตามที่เราบอก ผมกับคุณกบเองก็ได้ลองผิดลองถูกมามาก แต่หลังจากที่ได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและพฤติกรรมเด็ก ทำให้เรารู้ว่าการสื่อสารให้ลูกเข้าใจและร่วมมือกับเราไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใช้เวลาและต้องมีเทคนิคทางจิตวิทยาเชิงบวกเข้าช่วย"

    "ผมและคุณกบต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกๆ เห็น เพราะวัยเด็กเป็นวัยที่ชอบเลียนแบบ ดังนั้นแบบอย่างที่ดีจากพ่อแม่จึงสำคัญมาก อยากให้ลูกเป็นอย่างไร พ่อแม่ต้องทำให้ลูกเห็นก่อน เช่น ไม่อยากให้ลูกติดหน้าจอ พวกเราก็จะไม่จับหน้าจอให้ลูกเห็น และพยายามหากิจกรรมให้ลูกๆ ทำตลอด เช่น เล่นดนตรี ออกกำลังกาย เพื่อไม่ให้พวกเขาหมกมุ่นกับเกมบนมือถือหรือดูทีวีมากเกินไป"

    “พ่อแม่หลายๆ ท่านอาจรู้สึกเหนื่อยกับงานมา จึงเผลอใช้อารมณ์กับลูกไปบ้าง อาจทำให้เด็กรู้สึกไม่ดี กลายเป็นไม่อยากทำตามที่เราพูด ผมได้รับคำแนะนำมาว่าให้มองหาจุดดีในตัวลูก แล้วเราก็จะได้กำลังใจกลับมา ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่ผมรู้สึกโมโหลูกสาว ก็จะนึกถึงตอนที่ณดาดูแลเอาใจใส่น้อง ยอมยกของเล่นให้น้อง หรือเวลาที่ณดลดื้อ ก็จะนึกถึงตอนที่เขาเข้ามาอ้อน นอนตัก ยิ้มหวานให้ มันทำให้เราใจเย็นลง ฉุกคิดมากขึ้น และอุณหภูมิภายในบ้านก็จะเย็นลงอีกครั้ง”

    ที่สำคัญ ถ้าลูกๆ เปลี่ยนมาแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม ต้องอย่าลืมชม ซึ่งคุณบรู๊คให้เทคนิคที่ได้เรียนรู้มาจากนักจิตวิทยาเด็กและคอนเฟิร์มแล้วว่าได้ผลจริงๆ  “ในการสื่อสารกับลูกให้ได้ผลดี แม้แต่วีธีการชมก็ต้องมีเทคนิค  พ่อแม่ต้องชมลูกอย่างจริงใจ โดยใช้ภาษาท่าทางประกอบ เช่น สบตา หอมแก้ม กอด ควรชมทันทีที่เห็นว่าเค้าทำดี และชมในสิ่งที่เค้าลงมือทำ (มากกว่าชมที่ผลลัพธ์ที่ออกมา) ยกตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนณดาจะติดทีวี ไม่ยอมลุกไปอาบน้ำ แต่ถ้าวันไหนเราบอกแล้วเขาลุกไปอาบน้ำเองโดยไม่อิดออด ผมก็จะชมเค้าทันทีว่า ‘ณดาเก่งจังเลย พอถึงเวลาก็ลุกไปอาบน้ำโดยที่พ่อไม่ต้องบอกเลย พ่อชื่นใจจัง’ เพียงเท่านี้ก็สามารถสร้างกำลังใจให้ลูกมีแรงจูงใจปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นแล้ว”

    นอกจากการชมแล้ว เมื่อลูกแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม จะต้องมีการตักเตือนเมื่อทำผิด เทคนิคการตักเตือนลูกจากนักจิตวิทยาเด็กเผย “เมื่อลูกทำผิด ผมจะพยายามจัดการกับอารมณ์ตัวเองให้ได้ก่อน และจะบอกลูกตรงๆ ว่า ทำอย่างนี้ไม่ดีนะและให้เหตุผล ผมจะไม่ใช้อารมณ์ในการตักเตือนเขา ไม่ประชด ไม่เปรียบเทียบ เพราะจะยิ่งทำให้ลูกต่อต้านมากขึ้น”  พ่อบรู๊คกล่าวทิ้งท้าย

.

.

.

ที่มา : voicetv, kob_nada_nadol