ไม่ยอมแก่ตามวัย! "คุณป้าบาริสต้าวัย 70" เบื่อชีวิตเกษียณ ลุกขึ้นเปิดร้านกาแฟสุดคลูด้วยตัวเอง!

LIEKR:

ไม่ยอมแก่ตามวัย! "คุณป้าบาริสต้าวัย 70" เบื่อชีวิตเกษียณ ลุกขึ้นเปิดร้านกาแฟสุดคลูด้วยตัวเอง!

        “แก่สมัยนี้มันไม่เหมือนแก่สมัยก่อนแล้ว” นี่คือคำตอบที่ได้กลับมา หลังจากเราถามคุณป้าวัย 70 ปีไปว่าทำไมถึงออกมาทำร้านกาแฟเป็นของตัวเอง?

        จาก MRT สถานีหัวลำโพงแล้วเดินเลี้ยวซ้ายมาสักประมาณ 200 เมตร คุณจะพบกับร้านกาแฟที่เรากำลังพูดถึง ไม่เพียงแต่หญิงวัย 70 ปี ที่ยืนดริปกาแฟอยู่หลังบาร์ตั้งแต่ 8โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น แต่สิ่งที่คุณจะได้พบจากร้านเล็กๆ แห่งนี้ก็คือการเป็นร้านกาแฟที่ไม่มีน้ำตาล

        รสชาติกาแฟในแก้วกลมกล่อมได้ด้วยเมล็ดพันธุ์ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี เคล้ากับบทสนทนาจากเจ้าของร้านที่มีทั้งความกวนและความเก๋า สะท้อนได้จากประโยคของเจ้าของร้านว่า “กาแฟร้านนี้ไม่ต้องมีน้ำตาลหรอก เพราะป้าหวานอยู่แล้ว”

 

Sponsored Ad

 


        แม้คุณป้าจะไม่บอกชื่อเสียงเรียงนาม แต่เธอเล่าให้ฟังว่าหลังจากเกษียณก็อยู่บ้านเฉยๆ เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวไปตามประสา อยู่ไปนานๆ เข้าก็เริ่มมีความรู้สึกเบื่อเกิดขึ้นมา ครั้นจะให้ออกจากบ้านไปเที่ยวเล่นเฉยๆ ก็เกรงใจลูกหลานเพราะคงจะเป็นอะไรที่เปลืองสตางค์จนเกินไป

 

Sponsored Ad

 

.

        และด้วยเป็นคนที่ทำงานมาโดยตลอด วันหนึ่งคุณป้าจึงตัดสินใจออกไปช่วยลูกชายเปิดบูธขายกาแฟที่ K-Village ในนามของแบรนด์ Mobidrip

 

Sponsored Ad

 

        แต่เมื่อเป็นแค่เพียงการออกบูธ คุณป้าจึงได้ออกมาทำงานเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น ซึ่งนี่เป็นจำนวนวันที่น้อยเกินไปหากเทียบกับความเป็นคนกระตือรือร้นที่ชอบทำอะไรอยู่ตลอดเวลา

        คุณป้าจึงพูดคุยปรึกษากับลูกชายเพื่อพัฒนาไอเดียร่วมกัน สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ความคิดของคนสองเจเนอเรชั่นจึงกลายมา Mobidrip X Mother Roaster ร้านกาแฟเล็กๆ แต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์มากมายอย่างที่เราได้เห็นกัน

.

 

Sponsored Ad

 

        สิ่งที่ทำให้คุณป้าเลือกขายกาแฟไม่เพียงเพราะ Know-How ต่างๆ ที่ลูกชายมีอยู่แล้วเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความชอบส่วนตัวของคุณป้าที่ดื่มกาแฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทุกวัน เป็นการดื่มทั้งเพื่อเอาคาเฟอีนและสุนทรียะ ที่คุณป้ารู้จักคุณสมบัติของเมล็ดกาแฟแต่ละสายพันธุ์เป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหลังจากปิดร้านคุณป้าก็จะกลับบ้านและลงมือคั่วเมล็ดกาแฟด้วยตัวเองทุกวันถึง 5 ทุ่ม แล้วค่อยตื่นมาอีกทีตอน 6 โมงเช้าเพื่อเตรียมตัวเดินทางออกจากบ้านย่านประชาอุทิศไปยังร้านที่อยู่แถวหัวลำโพง

 

Sponsored Ad

 

        “ลูกค้าที่มาจะชอบคิดว่าบ้านป้าอยู่แถวนี้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ บ้านป้าอยู่แถวประชาอุทิศโน่น ส่วนที่มาเลือกโลเคชั่นร้านให้อยู่ตรงนี้ เพราะลูกชายขับผ่านมาเห็นแล้วเขาติดป้ายว่าให้เช่า แล้วบรรยากาศรอบๆ ก็เป็นเมืองเก่า เข้ากับคอนเซปต์ร้านที่คิดไว้กับลูกชายพอดี ก็เลยตัดสินใจเลือกตรงนี้เป็นหน้าร้าน ตอนเช้าให้ลูกมาส่ง ตอนเย็นให้เขามารับ คิดแล้วมันก็เหมือนตอนเด็กๆ ที่เราไปรับ-ส่งเขา ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นเขารับ-ส่งเราบ้าง”

 

Sponsored Ad

 

        เมื่อถามว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ความคิดของคุณป้าไม่แก่ไปตามอายุ?

        “ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เราต้องมีมุมมองที่พร้อมจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โลกปรับเราก็ต้องปรับตาม มันถึงจะอยู่รอดได้ เปรียบเหมือนกับกาแฟนั่นแหละ ถ้าป้ายังยึดติดกับกาแฟในแก้วใสที่มีนมข้นเป็นชั้นๆ อยู่ข้างใต้แบบสมัยก่อน ก็คงจะไม่รู้ว่ากาแฟยุคใหม่มันเป็นยังไง มันให้สุนทรียะกับเราได้มากขนาดไหน

        แล้วมันก็ไม่ใช่แค่ในตอนนี้หรอก แต่ความเปลี่ยนแปลงมันมีอยู่ทุกยุคทุกสมัยนั่นแหละ เราต้องรู้จักปรับตัว และการจะปรับตัวได้ก็คือเปิดใจให้กว้างไม่ใช่มัวแต่ยึดติดอยู่กับแค่สิ่งเดิมๆ ที่เรารู้อยู่แล้ว”

Sponsored Ad

.

        และนี่คือ เรื่องราวของคุณป้าวัย 70 ปีผู้ไม่ยอมแก่ หวังว่าคงเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนลุกขึ้นมาทำตามฝันโดยไม่ต้องมานั่งพะวงว่าจะแก่เกินไปค่ะ ใครอยากตามไปอุดหนุนกับคุณป้าสุงเจ๋งคนนี้ ก็สามารถไปหาคุณป้าได้ที่  Mobidrip X Mother Roaster ข้างๆ MRT สถานีหัวลำโพงค่ะ


ข้อมูลและภาพจาก marketeeronline

บทความที่คุณอาจสนใจ