เปิดศึกสายเลือด "ตระกูลณรงค์เดช" แฉ ลูกชาย ปลอมลายเซ็นโอนหุ้น พ่อลั่นฟ้องถึงที่สุด

LIEKR:

ศึกสายเลือดณรงค์เดช พ่อลั่นฟ้องถึงที่สุด ปม 'ณพ' ลูกชายปลอมลายเซ็นโอนหุ้น

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        ตระกูลณรงค์เดช เปิดศึกสายเลือดพี่น้อง พบ ณพ ณรงค์เดช ปลอมลายเซ็น เกษม ด้าน เกษม ยืนยัน ไม่ได้ความจำเสื่อม ทำงานมา 50 ปี รู้ดีลายเซ็นของตัวเองเป็นอย่างไร

        เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561 เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานว่า นายเกษม ณรงค์เดช ผู้ก่อตั้งกลุ่มเคพีเอ็น พร้อมด้วยลูกชายคือ นายกฤษณ์ ณรงค์เดช, นายกรณ์ ณรงค์เดช และทนายความ ได้เปิดแถลงข่าวกรณี หุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด และคดีอาญาที่นายเกษมฟ้องร้องดำเนินคดีกับ คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา นายณพ ณรงค์เดช และนายสุรัตน์ จิรจรัสพร

 

Sponsored Ad

 


        ทั้งนี้ นายเกษม เผยว่า เมื่อปี 2558 นายณพ ณรงค์เดช ลูกชายคนกลาง ได้ขอให้ครอบครัวเข้าซื้อหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อให้เป็นธุรกิจในกงสีครอบครัว ซึ่งครอบครัวก็ตกลง และได้จัดหาเงินพร้อมทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรให้ณพ 


 

Sponsored Ad

 

        ทว่า นายณพกลับเอาชื่อเสียงของนายเกษม ผู้เป็นพ่อ และชื่อเสียงของกลุ่มบริษัท เคพีเอ็น ไปอ้างอิงเพื่อดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ ว่าทุกอย่างดำเนินการภายใต้กลุ่มเคพีเอ็น และมีการใช้ชื่อเสียงของครอบครัว เพื่อไปยืมเงินคนอื่น โดยที่ไม่มีการชี้แจงรายละเอียดใด ๆ ให้ครอบครัวทราบ

        จากนั้น นายณพได้ไปผิดสัญญาซื้อ-ขายหุ้น ไม่ชำระค่าหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิม ผู้ถือหุ้นจึงดำเนินการฟ้องร้องนายเกษม นายกฤษณ์ และนายณพ ในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งเป็นคดีอาญา อีกทั้งนายณพ ยังดำเนินการให้มีการยักย้ายถ่ายโอนหุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ ไปยังที่ต่าง ๆ ซึ่งถูกฟ้องร้องมาแล้ว จึงทำให้ทางครอบครัวออกแถลงการณ์เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ว่า ได้ตัดขาดนายณพออกจากกงสี

 

Sponsored Ad

 

        จากนั้น นายเกษม ก็ได้รับคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจากศาลฮ่องกง ห้ามมิให้บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด ที่เป็นบริษัทในฮ่องกง โอนหุ้นของวินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ ไปยังบุคคลอื่น จนทำให้นายเกษมทราบว่า ตนเองคือผู้ถือหุ้นเกือบทั้งหมดของบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด

        นายเกษมได้ปฏิบัติตามคำสั่งชั่วคราวของศาลฮ่องกง และเพื่อไม่ให้เรื่องบานปลาย นายเกษมจึงเรียกทุกฝ่าย ทั้งครอบครัว ผู้ถือหุ้นเดิม ผู้ถือหุ้นคนอื่นของวินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ และขอให้บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด เรียกประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อบอกความประสงค์ แต่กระนั้น กลับเกิดเหตุการณ์มีสัญญาแต่งตั้งตัวแทนเพื่อโอนหุ้นจากบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด ไปยังคุณหญิงกอแก้ว โดยในเอกสารอ้างว่าทำขึ้นระหว่างนายเกษม และคุณหญิงกอแก้ว ลงเอกสารวันที่ 25 เมษายน 2559 มีนายณพ ลงนามเป็นพยาน มีสำเนาตราสารการโอนหุ้น และสำเนาใบสำคัญการซื้อ-ขายหุ้นระหว่างนายเกษมกับคุณหญิงกอแก้ว ซึ่งนายเกษมเห็นว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้อง 

 

Sponsored Ad

 


         จากนั้นจึงพบว่า มีเอกสารไม่ถูกต้องอีกเป็นจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับวินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ อาทิ สัญญาซื้อ-ขายหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ที่บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอร์ยี (ประเทศไทย) จำกัด ขายหุ้นให้นายเกษม ในราคา 2,400 ล้านบาท แล้วมีการโอนต่อไปที่บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด ทั้งที่นายณพ เคยซื้อหุ้นดังกล่าวจากเจ้าของเดิมในราคา 21,000 ล้านบาท นายเกษม จึงยุติการดำเนินคดีที่ฮ่องกง เพราะสัญญาโอนหุ้นตั้งแต่ต้นทางเป็นสัญญาปลอม มีการปลอมลายมือชื่อ และนายเกษมจะดำเนินคดีถึงที่สุด 

 

Sponsored Ad

 

        ส่วนคดีที่นายเกษม ฟ้องคุณหญิงกอแก้ว นายณพ และนายสุรัตน์ ตอนนี้คดียังอยู่ในขั้นตอนการไต่สวนมูลฟ้อง และใช้เวลาไต่สวนพยาน 2 วัน แต่มีการยกฟ้อง เพราะโจทก์พิสูจน์ข้อเท็จจริงไม่ได้ นายเกษมจึงมีคำสั่งอุทธรณ์คำพิพากษา โดยผู้เชี่ยวชาญได้บอกว่า ลายมือชื่อในเอกสารไม่ใช่ของนายเกษม สอดคล้องกับความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญที่สหรัฐอเมริกา ที่ได้มีการจัดทำรายงานการตรวจพิสูจน์ พร้อมภาพสีกราฟิกลายมือชื่อนายเกษม กว่า 52 ลายชื่อ และลายมือปลอม ที่จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

 

Sponsored Ad

 

 

        นายเกษม ยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นโรคความจำเสื่อม มีหลักฐานยืนยัน ตนยังทำงานได้ดี ตนทำงานมากว่า 70 บริษัทในตำแหน่งผู้บริหาร ทำงานมานานกว่า 40-50 ปี จะไม่ทราบว่าลายเซ็นของตัวเองเป็นอย่างไรได้อย่างไร 

        นอกจากนี้ นายกฤษณ์ ยังเผยว่า นายณพได้โยกเงินออกจากบริษัทโดยที่ตนและกรรมการบริษัทไม่รู้กว่า 1,800 ล้านบาท แต่นำมาคืนแค่ 700 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา ตนได้สอบถามปัญหากับนายณพ แต่นายณพบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ 

Sponsored Ad


        ในส่วนของนายณพเอง ก็ได้ออกมาเผยว่า เหตุการณ์ในครอบครัวนั้น เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด และเรื่องบางเรื่องยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม กลัวว่าหากพูดไปจะกระทบคด

        ที่หลายคนบอกว่า สงสารนายเกษมที่ถูกปลอมลายเซ็น ทุกคนก็สงสารหมด ตนแต่งงานออกมาข้างนอก ก็ไม่ได้อยู่กับคุณพ่อตลอดเวลา ตนรักคุณพ่อ และรู้ว่าคุณพ่อรักตนที่สุด และอีกไม่นานเกินรอ ความจริงทุกอย่างจะปรากฏเอง 

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ข้อมูลและภาพ จาก kapook / เรื่องเล่าเช้านี้

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ