เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า Edmond Leung เป็นนักแสดงและนักร้องที่มีชื่อเสียงมากในอดีต แต่เพราะเคยมีประวัติไม่ดีจึงทำให้บริษัทไม่ป้อนงานให้เขา 

        หลังจากนั้นเขาจึงตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจใหม่ แต่ก็ต้องขาดทุนย่อยยับในเวลาต่อมา ไม่นานภรรยาและคนในครอบครัวก็เกิดป่วยหนัก ในช่วงที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตของเขาได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนนักแสดงสองคนคือ จาง เว่ย์เจี้ยน กับ Andy Hui เรื่องราวชีวิตของเขาทำให้สื่อและผู้คนกลับมาให้ความสนใจเขาอีกครั้งหนึ่ง

        เส้นทางชีวิตนักร้องของเขาไม่ได้ราบรื่นเลย หลังการแข่งขันร้องเพลงเขาก็ไม่ได้รับรางวัล แต่ได้เซ็นสัญญากับบริษัทเพลงแห่งหนึ่ง หลังจากออกอัลบั้มได้สองอัลบั้มก็เริ่มมีชื่อเสียงบ้าง แต่ยังไม่ได้สร้างกำไรให้แก่บริษัทเลย ทำให้บริษัทต้องให้เขาไปทำงานด้านอื่นแทน ไม่เช่นนั้นอาจต้องยกเลิกสัญญา แต่นั่นก็ทำให้เขาค่อย ๆ เริ่มเก็บสะสมชื่อเสียงในวงการ

        ในตอนนั้นเขาเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงการบันเทิง แต่ไม่เกินสองปีก็ต้องพังทลาย เพราะไปก่อเรื่องพูดจาไม่ดีในรายการของ TVB ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาสูญสิ้นไป และยังถูกเมินเฉยจากบริษัทแม่อีกด้วย เขาบอกว่าในตอนนั้นก็มีโอกาสเข้ามาหลายครั้ง แต่เพราะความคึกคะนองจึงทำให้โอกาสเหล่านั้นต้องหายไป หากวันนั้นไม่ได้เพื่อนช่วยเหลือเอาไว้ ชื่อของเขาก็อาจเลือนหายจากวงการไปอย่างถาวรก็เป็นได้

        ในช่วงเวลานั้นเขารู้สึกสับสนมาก ประจวบกับได้ยินมาว่าเพื่อนของเขาคนหนึ่งหาเงินได้มากมายผ่านอินเทอร์เนต ทำให้เขาเริ่มสนใจลงทุนในธุรกิจออนไลน์ เขานำเงินที่เก็บสะสมไว้นานกว่าสิบปีราวสิบล้านเหรียญฮ่องกงไปลงทุน อาจเป็นเพราะโชคไม่ดี ทำให้ยอดเงินลงทุนจากสิบล้านเหลือเพียงหลักหมื่นในช่วงเวลาไม่กี่เดือน แถมบริษัทที่เซ็นสัญญาก็เกิดล้มละลายจากวิกฤตการเงินทั่วโลก ทำให้เขาไม่ได้รับเงินเดือนจากบริษัท แถมคุณแม่ก็เกิดล้มป่วยหนักอีก นั่นทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังมาก

        ในช่วงเวลานั้นมีดารานักแสดงหลายคนต่างล้มเหลวในธุรกิจ แม้แต่เพื่อนสนิทในวงการที่ร่ำรวยมากของเขาอย่าง จาง เว่ย์เจี้ยน ก็ยังประสบปัญหาขาดทุน แต่พวกเขาก็สามารถผ่านพ้นมาได้  อันที่จริงเขามีประวัติคล้ายกับ Dicky กล่าวคือเคยทำให้ TVB เสียชื่อเสียง และเคยขาดทุนย่อยยับ แต่ทั้งคู่ก็สามารถผ่านมาได้โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้มีพระคุณ

        ในตอนที่ชีวิตไร้ซึ่งทางออก เพื่อนสนิทของเขา William So ได้เชิญชวนเขาขึ้นงานคอนเสิร์ต ซึ่งในงานมีกรรมการตัดสินผู้มีชื่อเสียงหลายคน การร้องเพลงของเขาในวันนั้นทำให้เขาเริ่มกลับมามีชื่อเสียงโด่งดังอีกครั้ง คนในวงการเริ่มมองเห็นความสามารถในตัวเขา เมื่อได้รับการยอมรับมากขึ้น งานก็เริ่มมีเข้ามา และชีวิตก็เริ่มดีขึ้นในเวลาต่อมา ซึ่งในระยะเวลาทั้งหมดสิบปีนี้คงจะไม่ดีขึ้นเลย หากไม่มีเพื่อนสนิทของเขาอย่าง จาง เว่ย์เจี้ยน กับ Andy Hui คอยช่วยเหลือและแนะนำงานให้ ถึงแม้ทั้งสามคนจะไม่ได้เป็นพี่น้องกัน แต่ความสัมพันธ์ก็แน่นแฟ้นยิ่งกว่าพี่น้องเสียอีก

        ช่วงที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตอันยาวนานกว่า 10 ปีกำลังจะผ่านพ้นไป หลังจากนี้จะเริ่มต้นชีวิตใหม่และดีขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ทันไรภรรยาของเขาที่เพิ่งแต่งงานได้ 3 ปีก็เกิดล้มป่วยเป็นโรคมะเร็งที่รักษาไม่หาย เขากล่าวขอบคุณเพื่อนสนิทของเขาผ่านการให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า ขอบคุณจาง เว่ย์เจี้ยน ที่ช่วยแนะนำหมอ และขอบคุณ Andy Hui ที่ช่วยเรื่องเงินค่ารักษาของภรรยาที่กำลังป่วย

        ปัจจุบันเขาแต่งงานกับภรรยามาแล้ว 12 ปี และได้ต่อสู้กับโรคร้ายมานานกว่า 8 ปี เขาต้องจ่ายค่ารักษาด้วยเคมีบำบัดเป็นเงินมหาศาล แต่นั่นก็เพียงเพื่อให้ภรรยาได้ใช้ชีวิตอยู่เคียงข้างเขา เขาเคยปฏิเสธเศรษฐีชาวจีนที่จ้างเขาให้ไปทำงานร้องเพลงที่เมืองจีน เมื่อให้สัมภาษณ์เขาก็ตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งว่า “ถ้าคุณกลัวที่จะเสียใครสักคนไป คุณจะยอมได้แม้กระทั่งเลือดเนื้อของตัวเอง”

        เรื่องราวชีวิตของเขาแสดงได้ถึงความเป็นผู้ชายเต็มร้อย ถึงแม้ว่าจะไม่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่จิตใจของเขาก็สมควรได้รับการยกย่อง เพราะผู้ชายที่ไม่ทอดทิ้งภรรยาที่กำลังป่วยถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากทีเดียว

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR