จากกรณีมีผู้ใช้ติ๊กต๊อก ได้โพสต์คลิปกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้าน พร้อมระบุข้อความว่า “ลูกทำแมวหลุดออกจากบ้านไปปีนรถหรู ทำให้โดนแจ้งความฟ้องร้องค่าเสียหายหลักแสน” หลังโดนทัวร์ลงเพื่อนบ้านก็ได้ออกเปิดใจถึงประเด็นนี้แล้วด้วย

    นางบีได้เล่าว่า เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2563 ตอนนั้นลูกของเธอเปิดประตูเพื่อจะออกไปโรงเรียน แต่แมวกลับวิ่งออกไป หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนช่วงบ่ายของวัน สามีก็ได้รับคลิปกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้าน ที่เผยให้เห็นภาพเจ้าแมวขึ้นไปปีนอยู่บนรถ BMW 

    สามีของเธอจึงรีบให้ไปดูความเสียหายที่แมวได้ทำไว้กับรถ ซึ่งเห็นแค่เพียงรอยเท้าแมวเปื้อนดิน ด้านสามีนางบีก็ถามเพื่อความแน่ใจว่ารอยที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้มาจากการใช้งานหรือไม่ ซึ่งเจ้าของรถก็บอกว่า เกิดจากแมว พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายมาเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท

    โดยเจ้าของรถอ้างว่า ไปประเมินราคามาเรียบร้อยแล้ว หากไม่จ่ายก็จะไปแจ้งความฟ้องร้อง นางบีเองก็บอกว่า ตอนแรกคุยไกล่เกลี่ยกัน เพราะมันเป็นเหตุสุดวิสัย ซึ่งตนก็พร้อมที่จะใช้ค่าเสียหายที่สมเหตุสมผล เพราะรถก็ใช้ง่ายบ่อยและรอยนั้นอาจจะไม่ได้เกิดจากแมวเพียงอย่างเดียว เนื่องจากรถคันนี้เป็นรถที่ผ่านมา 4 มือแล้ว เพื่อนบ้านขับใช้งานบ่อย แถมก่อนหน้านี้ มีสุนัขจรจัดวิ่งเข้าไปตะกุยตะกายรถเขา เพราะไม่ชอบปิดประตูบ้าน จึงต้องข้อสงสัยว่าจะเกิดจากร่องรอยอื่นหรือไม่?

    ต่อมา ก็มีหมายเรียกจากตำรวจ สภ.ลำลูกกาให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา “ปล่อยปละละเลยให้สัตว์ดุ หรือสัตว์ร้ายเที่ยวไปโดยลำพังในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์” ซึ่งตำรวจบอกให้รับสารภาพว่าเป็นแมวตัวเองจริง ส่วนเรื่องอื่นก็ให้ไปสู้กันในชั้นศาล ในวันนั้นก็ได้มีการเสียค่าปรับไปเป็นจำนวน 500 บาท

    ต่อมาก็ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยกันเรื่องคดีความที่ศาลถึง 2 ครั้ง ซึ่งคู่กรณีไม่มาเลยสักครั้ง อย่างไรก็ตามศาลชั้นต้นตัดสินให้นางบีจ่ายค่าเสียหายให้คู่กรณีเป็นจำนวนเงิน 57,000 บาท อีกทั้งยังถูกบริษัทประกันภัยของรถ BMW ฟ้องร้องค่าเสียหายเป็นเงินอีก 59,000 บาท ซึ่งเธอจะยื่นอุธรณ์ต่อไป เพราะมองว่ามันไม่ถูกต้อง

    ต่อมาเมื่อวานนี้ นายเบน หนุ่มสิงคโปร์วัย 28 ปี เจ้าของรถหรู ได้ออกมาเปิดใจว่า ตนและภรรยาชาวไทยซื้อบ้านหลังนี้และอยู่มา 2 ปี ต้องเจอปัญหาแมวของเพื่อนบ้านมาสร้างความเดือดร้อนตลอด เพราะแมวของเพื่อนบ้านมักจะหลุดออกมาปีนรถตลอด

    ตนและภรรยาเคยไปพูดกับเจ้าของแมวแล้ว แต่เขาก็ไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือแมวเขา จนต้องซื้อกล้องวงจรปิดมาติด ตอนนำภาพจากวงจรปิดไปให้เพื่อนบ้านดู เขาก็ไม่สำนึกผิด หรือขอโทษแต่อย่างใด จึงตัดสินใจไปแจ้งความ แถมบางวันเจ้าของแมวก็ตะโกนมาข่มขู่

    นายเบนยังบอกอีกว่า รู้สึกเสียความรู้สึกอย่างมากที่เรื่องเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ และคู่กรณีก็ยังไม่มีความสำนึกผิด หากเจ้าของแมวยอมจ่ายเงินค่าเสียหาย ตนก็จะยอมความและคืนเงินให้ เพราะต้องการแค่คำขอโทษ ไม่ได้ต้องการเงิน แต่เจ้าของแมวกลับไม่รับผิดชอบอะไรสักอย่าง

    นอกจากนี้ เพื่อนบ้านอีกคน เล่าว่า ก็โดนแมวของบ้านหลังนี้สร้างความเดือดร้อนให้หลายครั้งเช่นกัน บางทีแมวก็จะมาฉี่หรืออึในบ้าน และชอบมาข่วนรถเช่นกัน... ด้านชาวเน็ตได้บอกว่า ตัวเองรักแมว แต่อย่าลืมว่าคนอื่นก็รักรถเหมือนกัน, พวกเลี้ยงแล้วขาดความรับผิดชอบ น่าจะมีบทลงโทษทางอาญาแบบจริงจังสักที, จะเลี้ยงสัตว์แต่ทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นไม่ไหว ก็สมควรแล้วที่จะโดนฟ้อง.. 

แล้วคุณล่ะคิดเห็นกับประเด็นนี้ยังไงบ้าง

อ่านคอมเมนต์จากชาวเน็ต

ที่มา : offchainon, matichon