ทำความรู้จัก 6 หญิงแกร่งในตำนาน ถ่ายทอดประสบการณ์จริง พิสูจน์ตัวเองประสบความสำเร็จจาก “สาวยาคูลท์” ที่ให้มากกว่าอาชีพ...

    เรื่องที่อยากบอกต่อจาก “สาวยาคูลท์” ลองไปฟังกันครับ...เริ่มท่านแรกเลย จากคุณพี่ “วรรณา กลิ่นรักษา” อายุ 48 ปี สาวยาคูลท์เขตอ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

    พี่วรรณา บอกว่า ก่อนมาเป็นสาวยาคูลท์ มีชีวิตที่ลำบาก พ่อแม่มีอาชีพทำนา ต้องรับจ้างซักผ้าและเลี้ยงเด็ก เก็บเงินเรียนจบ ม.6 ตั้งใจว่าจะเรียนต่อครู แต่พอยาคูลท์รับสมัครงาน จึงได้มาสมัครเป็นสาวยาคูลท์ ตลอดระยะเวลา 26 ปี ที่ได้เป็นสาวยาคูลท์ทำให้ชีวิตดีขึ้น สามารถซื้อบ้าน 2 หลัง ซื้อรถ ส่งหลานๆ เข้าโรงเรียนประจำจังหวัด และยังใช้หนี้ให้พ่อแม่ซึ่งมีอาชีพทำนาได้หมด จึงรู้สึกภาคภูมิใจในอาชีพนี้ เป็นอาชีพที่คนรู้จักทั้งประเทศ ทำให้ลูกค้าสุขภาพแข็งแรง และที่สำคัญสามารถเลี้ยงดูคนทั้งครอบครัวได้

    สำหรับคุณพี่ “ทัศนีย์ วิสุทธิ์วงค์” อายุ 52 ปี สาวยาคูลท์จ.สุพรรณบุรี เล่าให้ฟังว่า ตลอดเวลาที่ทำงานเป็นสาวยาคูลท์มา 28 ปี ได้รับประสบการณ์ต่างๆ มากมาย และได้รับรางวัลต่างๆ ของบริษัท เช่น ได้ไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ได้รู้จักผู้คนทุกระดับ ซึ่งการที่ได้มาเป็นสาวยาคูลท์ นอกจากจะทำให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองแล้ว ยังทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นอีกด้วย มีรายได้ที่สามารถดูแลพ่อ ดูแลครอบครัวได้ และยังสามารถส่งลูก และน้องเรียนจนจบปริญญาตรี มีเงินเก็บจนสามารถปลูกบ้านเป็นของตัวเอง มีรถยนต์ 2 คัน ซื้อรถตู้ VIP จำนวน 2 คัน รถแท็กซี่อีก 1 คัน เพื่อเริ่มกิจการรถเช่าของตัวเอง และยังมีเงินเก็บไว้ใช้จ่ายในอนาคตอีกด้วย

    ถัดมาสาวยาคูลท์เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ คุณพี่ “เจต งามพริ้ง” อายุ 58 ปี ซึ่งทำหน้าที่สาวยาคูลท์มา 34 ปี บอกว่า ได้รับการดูแลจาก บริษัท ยาคูลท์ เป็นอย่างดี เพราะบริษัทฯ ใส่ใจพนักงานทุกๆ คนอย่างเท่าเทียม ทำให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ และเต็มความสามารถ จนได้รับรางวัลต่างๆ ของบริษัทฯ โดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นรางวัลท่องเที่ยวต่างประเทศ รางวัลท่องเที่ยวภายในประเทศ รางวัลขยันตลอดปี เพราะในปีที่ได้รางวัลนั้นไม่เคยหยุดงานเลย ถือเป็นความภูมิใจเป็นอย่างมาก และความภูมิใจอีกอย่างก็คือสามารถเก็บเงินซื้อบ้านพร้อมที่ดิน 1 หลัง ซื้อที่ดินเปล่าอีก 1 แปลง มีเงินส่งลูกเรียนจบปริญญาตรี ตอนนี้สามารถซื้อบ้านหลังที่ 2 ราคา 3 ล้านบาท ซึ่งมีทุกวันนี้ได้เพราะว่าเป็นสาวยาคูลท์เลยค่ะ

    อีกหนึ่งสาวยาคูลท์ที่ทำมาตลอดระยะเวลา 31 ปี คุณพี่ “สายันห์ ธุรีวรรณ์” อายุ 54 ปี สาวยาคูลท์เขตรังสิต ปทุมธานี เล่าให้ฟังว่า มีภูมิลำเนาเกิดที่บ้านสามง่าม อ.หันคา จ.ชัยนาท ตอนแรกไม่รู้จะหางานอะไรทำ ไปสมัครงานที่ไหนเขาก็ไม่รับ เพราะเรียนจบแค่ชั้นประถม แต่ได้มาลองสมัครเป็นสาวยาคูลท์ ซึ่งที่นี่ก็ให้โอกาสได้ทำงาน ตลอดระยะเวลา 31 ปีที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของหัวหน้า รวมถึงมีความรับผิดชอบในหน้าที่ เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้บริษัทได้เห็นว่า เรามีความตั้งใจจริงและการที่ได้เป็นสาวยาคูลท์นั้น นอกจากจะมีรายได้ที่มั่นคงแล้ว บริษัท ยาคูลท์ ยังใส่ใจครอบครัว โดยช่วยเหลือให้ทุนการศึกษาลูกชาย ที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐบาลได้จนจบปริญญาตรี ซึ่งคิดไม่ถึงว่าจะมีวันนี้เลยค่ะ

    ขณะเดียวกันคุณพี่ “อรอนงค์ อินทผลา” อายุ 58 ปี สาวยาคูลท์เขตพุทธมณฑล สาย 5 กรุงเทพฯ บอกว่า การเป็นสาวยาคูลท์สำหรับดิฉันแล้วยาคูลท์ไม่เพียงใส่ใจพนักงาน แต่ยังดูแลไปถึงครอบครัวของพนักงานอีกด้วย ลูกชาย 2 คนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้ทั้งคู่ ได้รับสวัสดิการค่าเล่าเรียนบุตรจากบริษัทฯ ด้วย ซึ่งถือว่าช่วยเหลือครอบครัวได้เป็นอย่างมาก อาชีพสาวยาคูลท์นั้นเป็นอาชีพที่ทำให้มีรายได้มั่นคง สามารถมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามแก่เฒ่า นอกจากนั้นยังได้รับรางวัลจากบริษัทฯ อีกหลายอย่าง เช่น ได้ทองคำ รวมถึงได้เที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

    ปิดท้ายกับสาวยาคูลท์เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ คุณพี่ “ฤดีวรรณ วรชาติรุ่งโรจน์” อายุ 51 ปี บอกความประทับใจว่า ไม่เคยคิดมาก่อนการเป็นสาวยาคูลท์ จะเปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาคนหนึ่ง ให้กลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในการงาน รวมถึงได้รับการยกย่องจากหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงาน สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นความภูมิใจสูงสุด คือ รางวัลสาวยาคูลท์ยอดเยี่ยมประจำปี หรือ TOP SP ทำให้ได้ไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะได้มีโอกาสไปที่นั่น อาชีพสาวยาคูลท์เป็นอาชีพที่รายได้ดี มีฐานะมั่นคง ปัจจุบันมีบ้านพร้อมที่ดิน 2 หลัง มีเงินเก็บ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถส่งหลานเรียนจบระดับปริญญาตรีได้ การเป็นสาวยาคูลท์ให้อะไรหลายอย่างมากกว่าที่ทุกคนคิด.

ข้อมูลและภาพจาก บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด , dailynews