LIEKR:
งานบ้านไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่ทั้งสามีและภรรยาต่างต้องรับผิดชอบร่วมกัน
ยิ่งพ่อทำงานบ้านมากแค่ไหน ครอบครัวก็จะยิ่งมีความสุข
เพราะผู้ชายคนนี้ไม่คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ แต่กลับทะนุถนอมภรรยาเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่ได้ “ช่วย” ภรรยาทำงานบ้าน แต่เชื่อว่ามันเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะกลัวภรรยาจะลำบาก เขายิ่งยอมทำมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นแม่บ้าน งานบ้านทั้งหมดก็ไม่ควรเป็นภาระของเธอคนเดียว คนเราล้วนเหนื่อยได้ ถ้ารักใครสักคนจริง ๆ จะทนดูเธอทำงานหนักคนเดียวได้ยังไง ทำให้ภรรยาหลาย ๆ คนจะบ่นให้สามีเลิกงานแล้วกลับมาช่วยทำงานบ้าน แต่สามีก็ไม่เคยชิน ทำไม่ได้ ทำให้ความขัดแย้งในครอบครัวเลวร้ายลงเรื่อย ๆ
Sponsored Ad
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
งานบ้านไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นภาระรับผิดชอบร่วมกันของสามีภรรยา
มีแฟนหนุ่มคนหนึ่งบ่น “ก่อนแต่งงานภรรยาผมเป็นคนอารมณ์ดี ไม่เคยพูดอะไรมาก แต่ใครจะไปนึกว่าหลังแต่งงาน เธอจะชอบบ่น เวลาผมทำโอทีกลับดึกไม่เคยชม แต่พอกลับมาถึงบ้านจะพักผ่อนดูทีวีซะหน่อย ก็จะบ่นว่าผมไม่ทำงานบ้าน ไม่เลี้ยงลูก พวกคุณคิดดู ผมทำงานมาเหนื่อย ๆ ทั้งวัน กลับบ้านก็อยากจะผ่อนคลายบ้าง แล้วหน้าที่พวก ทำงานบ้าน สอนการบ้านลูก ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัว มันก็ควรเป็นงานของภรรยา ไม่ใช่หรอ?” แน่นอนว่าไม่ใช่ ถ้ามีคนยอมทำมากกว่า ก็ควรได้รับความเคารพและขอบคุณ อีกฝ่ายควรรับรู้ว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเธอคนเดียว แต่เพราะเธอยอมทุ่มเท ควรได้รับกำลังใจและความช่วยเหลือ
Sponsored Ad
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
ไม่มีเรื่องติดค้างในใจ ชีวิตแต่งงานถึงจะมีความสุข
ทั้ง ๆ ที่เป็นบ้านของคนสองคน ทำไมมีแต่ภรรยาที่เหนื่อยอยู่คนเดียว สามีกลับสามารถเล่นเกมส์ เล่นมือถือ แล้วก็บอกว่าทำงานมาเหนื่อย อยากพักผ่อน ปัจจุบันนี้ภรรยาก็มีงานนอกบ้าน เงินเดือนอาจจะไม่เยอะเท่าสามี สามีก็เลยคิดว่างานเธอเบา แต่ต่อให้เงินเดือนน้อย ก็ต้องเหนื่อยกับงานเช่นเดียวกัน มีภรรยาคนหนึ่งโกรธที่สามีไม่ดูแลลูก ก็เลยทิ้งลูกไว้ แล้วก็ออกไปทำผม นึกไม่ถึงว่าพอกลับถึงบ้านจะเห็นว่าลูกสาวไม่ใส่กางเกงวิ่งไปทั่วบ้าน เพราะพ่อจับไม่ทัน จึงปล่อยให้วิ่งล่อนจ้อนไปทั่ว ภรรยาเห็นแล้วจะเป็นลม อยากบังคับให้เขาช่วย แต่สามีก็ทำไม่ได้ ตัวเองก็รับไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องจัดการเอง สามีคนนี้ฉลาด มักจะบอกคนอื่นเสมอว่าภรรยาตัวเองเก่งแค่ไหน
Sponsored Ad
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
ผู้หญิงไม่อยากแต่งงานแล้ว ผู้ชายยังไม่คิดจะฝึกทำงานบ้านอีก
มีคนบอกว่ามีลูกชายดีหนักหนา พ่อแม่ไม่กล้าให้ลูกชายทำงานบ้าน รับมาทำเองหมด คิดเอาว่า “พอลูกชายมีเมีย ก็ให้เมียลูกทำ ลูกไม่ต้องฝึกหรอก ถ้าเมียเขาไม่ทำ ก็เป็นสะใภ้ที่แย่เต็มที” มีอยู่ครั้งนึงลูกสะใภ้ให้สามีล้างชาม แม่สามีเห็นแล้วก็ชักสีหน้าไม่พอใจ ทั้ง ๆ ที่ปกติก็เป็นลูกสะใภ้ล้าง พอให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนล้างแค่ครั้งเดียว ก็ถึงกับทนไม่ได้ ในครอบครัวสองคนสถานะเท่าเทียมกัน ถ้าแม่รักลูกชายจริง ๆ ก็ควรสอนเขาทำงานบ้านตั้งแต่เด็ก ความสามารถในการทำงานบ้านเป็นเงื่อนไขพื้นฐานของผู้ชายที่ดีในสมัยนี้ ถ้ายังทำตัวเป็นใหญ่ในบ้าน ก็อาจจะหาเมียไม่ได้ ถ้าฝ่ายหนึ่งทุ่มเทให้มาก อีกฝ่ายก็ต้องไม่ลืมขอบคุณ ยกตัวอย่างเช่นสามีทำอาหาร ก็ต้องชมว่าอร่อย ถึงแม้ว่าเมนูนั้นทำยังไงก็อร่อย สามีจะได้มีกำลังใจ ไม่ใช่ว่าเขาทำอร่อย แต่ก็ตินู่นตินี่ ใครจะไปอยากทำ แม่ฉันเป็นผู้หญิงทำงานนอกบ้าน ไม่ค่อยทำกับข้าว มีอยู่ครั้งนึงพอทำเสร็จ พ่อก็ชมซะยกใหญ่ ทำให้แม่ดีใจมาก
Sponsored Ad
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
ทุกวันแม่จะนั่งรถเมล์ไปจ่ายตลาดเอง นานวันเข้าเขาก็เริ่มสงสัย เตือนพ่อว่าอย่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ แต่พ่อก็ไม่ฟัง ไม่นาน สุดท้ายผลประโยชน์นี้ก็หายไป สองสามีภรรยาอยู่ด้วยกัน ต้องมีความสัมพันธ์แบบบวกบวก อีกฝ่ายทำดีให้ก็ต้องกล่าวขอบคุณ
แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR
