อยากลดน้ำหนัก ก็ต้องควบคุมปากของตัวเองให้ได้ รวมทั้งยังต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้มีสุขภาพดี หลายคนคงเคยท้อใจที่แม้จะควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว แต่น้ำหนักก็ยังไม่ลดลงเสียที นั่นก็เป็นเพราะว่า “พฤติกรรมเคยชินผิดๆ” ในชีวิตประจำวัน ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้อ้วนขึ้นได้ วันนี้ LIEKR จึงจะมาเผย "8 พฤติกรรมแย่ๆ หลังทานอาหาร" ที่ไม่ควรทำเด็ดขาด ถ้าอยากผอม!

        1. ดื่มน้ำตามทีละมากๆ

        แม้ว่าการดื่มน้ำ จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่การดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไปหลังทานอาหารทันที อาจไปขัดขวางการทำงานของกรดและเอนไซม์ที่สำคัญในกระบวนการย่อยอาหารได้ ทำให้อาหารที่ทานไปถูกย่อยช้าลง และตกค้างสะสมอยู่ที่บริเวณหน้าท้อง

        2. อาบน้ำร้อน

        การอาบน้ำร้อนทันทีหลังทานอาหาร จะทำให้เลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะมือและเท้า เป็นสาเหตุทำให้บริเวณท้องมีเลือดไหลเวียนน้อยลง ซึ่งจะทำให้การย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น จึงควรอาบน้ำหลังทานอาหารเสร็จไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง

        3. ทานอาหารอย่างเร่งรีบแล้วกลับไปทำงานต่อทันที

        แม้ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ก็ไม่ควรรับประทานอาหารอย่างเร่งรีบ จนไม่มีเวลาให้อาหารทันได้ย่อยเสียก่อน การทำงานทันทีจะทำให้เลือดวิ่งขึ้นไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ทำให้บริเวณท้องมีเลือดไหลเวียนน้อยลง อีกทั้งการทำงานที่ต้องนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ยังจะทำให้ไขมันไปสะสมอยู่ที่บริเวณหน้าท้องและสะโพก เป็นสาเหตุให้อ้วนขึ้นนั่นเอง

        4. ทานผลไม้

        คนส่วนใหญ่มักจะทานผลไม้หลังอาหารทันที แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทานผลไม้มากที่สุด คือ 30 นาที - 1 ชั่วโมง ก่อนหรือหลังทานอาหาร เพราะนอกจากจะทำให้ไม่ได้รับคุณค่าจากผลไม้อย่างเต็มที่แล้ว ยังจะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักยิ่งขึ้น เนื่องจากต้องคอยย่อยน้ำตาลที่ได้รับเข้ามาในปริมาณมากกว่าปกติ ส่งผลให้มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และมีลมในกระเพาะอาหารได้

        5. เข้านอนทันที

        การรับประทานอาหารเสร็จแล้วนอนทันที นอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ยังจะทำให้การย่อยอาหารไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ และเกิดลมหรือแก๊สในทางเดินอาหารได้อีกด้วย ทางที่ดีควรเดินหรือหากิจกรรมอื่นทำก่อนเพื่อให้อาหารได้ย่อย ไม่ควรล้มตัวลงนอนโดยทันที

        6. ดื่มน้ำเย็น

        น้ำเย็นจะไปทำปฏิกิริยาทำให้ไขมันแข็งตัว ทำให้ระบบการย่อยอาหารภายในร่างกายทำงานช้าลง ขณะเดียวกันน้ำเย็นก็ไปทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานในการดูดซึมน้ำมากขึ้นด้วย เมื่อทุกอย่างทำงานช้าลง จึงเป็นสาเหตุของความอ้วนได้

        7. สูบบุหรี่

        การสูบบุหรี่เอง ไม่ว่าจะสูบเมื่อไรก็ส่งแต่ผลเสียให้กับร่างกายอยู่แล้ว แต่การสูบบุหรี่หลังมื้ออาหาร นอกจากจะทำให้ท้องอืด ยังส่งผลให้มีการเพิ่มปริมาณสารพิษจากการเผาไหม้ของบุหรี่ได้มากขึ้น ทำให้มีโอกาสเป็นโรคถุงลมโป่งพองมากกว่าปกติ เนื่องจากร่างกายกำลังเผาผลาญอาหารอยู่ เหมือนสูบบุหรี่แค่มวนเดียว แต่ได้พิษของมันถึง 10 เท่าเลยทีเดียว

        8. ดื่มชาหรือกาแฟ

        ใบชาและกาแฟมีความเป็นกรดสูง ซึ่งทำให้โปรตีนและธาตุเหล็กในอาหารที่ทานเข้าไปถูกย่อยได้ยากยิ่งขึ้น และส่งผลให้เกิดลมหรือแก๊สในทางเดินอาหารได้อีกด้วย

        ทางที่ดีที่สุดคือ หลังทานอาหารอิ่มๆ ควรนั่งพักเฉยๆ หรือเดินช้าๆ เพื่อช่วยให้กระเพาะอาหารทำการย่อยอาหารได้ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น ไม่ควรทำกิจกรรมหนักๆ แต่ก็ไม่ควรเอนหลังนอนในทันทีเช่นเดียวกัน เพียงคุณลดพฤติกรรมเคยชินหลังทานอาหารเหล่านี้ลง หุ่นดีพร้อมร่างกายที่แข็งแรง ก็ไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไปค่ะ

ที่มา bomb01

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR