นายกทำล า ยสถิติโลก "ปลูกต้นไม้ 350 ล้านต้น" ในเวลา 12 ชม. เผยเป้าหมายปีนี้ต้อง 400 ล้านต้น

LIEKR:

​เป็นผู้นำประเทศที่พูดจริงทำจริง!

    รู้หรือไม่ว่า ในขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังวุ่นวายกับงานการของตัวเองอย่างขมักเขม้น แต่ผู้คนในประเทศเอธิโอเปียกลับทิ้งงานของพวกเขาเพื่อร่วมมือกันทำเป้าหมายของพวกเขาให้สำเร็จ

    สื่อต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่เอธิโอเปียกล่าวว่า "พวกเขาปลูกต้นไม้มากกว่า 350 ล้านต้น เพื่อฟื้นฟูภูมิประเทศ รวมถึงแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทำลายป่าและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในโครงการ Green Heritage ที่นำโดยนายกรัฐมนตรี อาบี อาเหม็ด (Abiy Ahmed) ประเทศเอธิโอเปีย" (น่าภูมิใจแทนจริงๆ)

 

Sponsored Ad

 

    ในวันสำคัญผู้คนรวมตัวกันในสถานที่ 1,000 แห่งทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะปลูกต้นกล้า 200 ล้านต้น ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายเอามากๆ 

 

Sponsored Ad

 

    แต่ความสำเร็จมันเกินความคาดหมายเมื่อพวกเขาปลูกต้นไม้เสร็จ เจ้าหน้าที่ของรัฐประกาศว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาปลูกต้นไม้กว่า 350 ล้านต้น ซึ่งเกินเป้าหมายเดิมเกือบสองเท่า สุดยอดจริงๆ

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนวัตกรรมและเทคโนโลยีของเอธิโอเปียโพสต์ทวีตซึ่งเขาอ้างว่าคนที่มีส่วนร่วมในการริเริ่มสามารถจัดการต้นไม้จำนวนมหาศาลที่ น่ า ทึ่ ง ไปถึง 353,633,660 ต้นกล้าใน 12 ชั่วโมง

 

Sponsored Ad

 

    มันคือความสำเร็จสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่นักมนุษยศาสตร์ไปจนถึงนักเรียน เจ้าหน้าที่ของรัฐ และนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

 

Sponsored Ad

 

    โดยก่อนหน้านี้ประเทศอินเดียก็ทำสำเร็จเช่นกันโดยปลูกต้นไม้ไปถึง 50 ล้านต้น ภายในวันเดียว ซึ่งทำได้สำเร็จไปแล้วในปี 2559 ที่รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ความพยายามของอินเดียได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการโดย Guinness World Records “พวกเขาปลูต้นไม้ใน 24 ชั่วโมง”

 

    มีรายงานว่าโรงเรียนและสำนักงานบางแห่งปิดทำการเพื่อให้ผู้คนจำนวนมากเข้าร่วมในโครการนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีเองก็ร่วมปลูกด้วยในขณะที่เขาปลูกต้นกล้าต้นแรก

 

Sponsored Ad

 

    เรียกได้ว่า “วันทำลายสถิติ” แต่มันยังไม่จบอยู่เพียงเท่านี้สำหรับโครงการของเอธิโอเปีย ท้ายที่สุดรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะปลูกต้นไม้ให้ได้ 4 พันล้านต้นในปีนี้ และจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ด้านเกษตรระบุว่าพวกเขาประสบความสำเร็จไปแล้วกว่า 2 พัน 6 ล้านต้น

 

Sponsored Ad

 

    เอธิโอเปียสูญเสียป่าไม้ไปในศตวรรษที่ผ่านมา จริงๆแล้วหนึ่งในสามของประเทศปกคลุมด้วยป่าไม้ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 อย่างไรก็ตามในปี 2000 มันลดลงไปอย่างมาก การลดลงนี้มีความสัมพันธ์กับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นของเอธิโอเปีย เนื่องจากจำนวนผู้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่านับตั้งแต่ปี 1960 จนถึงกว่า 100 ล้าน 

    การเพิ่มจำนวนประชากรอย่างรวดเร็วทำให้มีความต้องการใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและไม้ซุงมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการตัดไม้ทำลายป่าครั้งใหญ่นี่เอง

Sponsored Ad

    เอธิโอเปียไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่พยายามจะต่อสู้กับการทำลายป่า ประเทศจีนก็ได้กำหนดเป้าหมาย โดยมีแผนที่จะเพิ่มพื้นที่ป่าเป็น 23% ในทศวรรษหน้า

    และนี่คือความร่วมมือร่วมใจของคนทั้งประเทศ เราเชื่อว่าจากนี้ไปจะมีการตัดไม้น้อยลงเพราะพวกเขาปลูกจิตสำนักในการปลูกป่า และผู้คนจะตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้มากขึ้น "เพราะต้นไม้คือชีวิต" และพวกเขาก็ได้สร้างต้นไม้ ที่ทำให้โลกของเราสวยงามและน่าอยู่

     คนในโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่างๆนานาออกไป ไม่ว่าจะเป็นในแง่ลบ หรือแง่บวก เกี่ยวกับการดูแลอย่างต่อเนื่อง หรือจะเข้ามาชื่นชมในภาครัฐที่ใช้จ่ายเงินไปกับเรื่องที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง


ที่มา:teepr,postjung

เรียบเรียงโดย LIEKR

บทความที่คุณอาจสนใจ