น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก "โรงแรมโปร่งใสบนหน้าผา" จะเข้าพักต้องปีนผาขึ้นไป 2 ชั่วโมง ค่าห้องคืนละประมาณ 12,000 บาท

LIEKR:

อยากไปนอนสักคืนสองคืน

        สำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินทางผจญภัยแบบไม่เหมือนใคร ต้องลองไปพบกับประสบการณ์ใหม่ที่จะทำให้อะดรีนาลีนของคุณสูบฉีด ที่ Natura Vive Skylodge ในหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ เมืองกุสโก (Cuzco) ประเทศเปรู ต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่การพักร้อนแบบที่คนปกติธรรมดาเขาทำกัน และไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กลัวความสูง

        วันนี้เราขอพาทุกคนไปรู้จักกับ “โรงแรมที่ท้าทายที่สุดในโลก” SkyLodge ซึ่งอยู่บนหน้าผาสูง 400 เมตร มีทั้งหมด 3 ห้อง

 

Sponsored Ad

 

        โดยทั้ง 3 ห้องถูกออกแบบให้โปร่งใส เรียกได้ว่าถ้าไม่ทำให้ลูกค้ากลัวจนขาอ่อน จะไม่ยอมแพ้เลยทีเดียว

        พูดถึงตรงนี้ คุณคงจะคิดว่าจะเข้าพักที่นี่คงจะต้องนั่งกอนโดล่า หรือเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไป ผิดแล้ว! ขอบอกว่าการจะเข้าพักด้วยวิธีไฮเทคขนาดนี้ ไม่ใช่สำหรับที่นี่ ทางเดียวที่คุณจะเดินทางเข้าพักได้คือ ปีนขึ้นไป! SkyLodge แปลเป็นไทยว่า “โรงแรมบนฟ้า” โดยโรงแรมนี้ตั้งอยู่บนหน้าผา Sacred Valley ในเปรู

 

Sponsored Ad

 

        เพื่อจะชดเชยให้นักท่องเที่ยวที่ทำได้แค่ชื่นชมธรรมชาติในหุบเขา Sagrado พร้อมอุปกรณ์ปีนเขา โรงแรมที่มี 3 ห้องแห่งนี้จึงถูกสร้างขึ้นมาบนหน้าผา

        ห้องพักทั้งสามเป็นทรงแคปซูล และโปร่งใส

 

Sponsored Ad

 

        โดยโรงแรมนี้สร้างจากอลูมิเนียมและ โพลีคาร์บอเนตที่ใช้กับยานอวกาศ ออกแบบให้เป็นแคปซูลแปดเหลี่ยมโปร่งใส มีจุดยึดกับหน้าผา 12 จุด แม้ว่าจะดูเบาและโปร่งใส แต่ก็สามารถรับมือกับสภาพอากาศทุกชนิด มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้

        ตัวกระจกใสทำให้ห้องมีมุมมองที่ดี สามารถมองออกไปเห็นวิวที่สวยงามภายใต้หน้าผา

 

Sponsored Ad

 

        แต่ละห้องสามารถเข้าพักได้ 2 คน ทั้งโรงแรมเข้าพักได้คืนละ 6 คน…ยังมีแคปซูลทรงครึ่งวงกลมที่เป็นร้านอาหาร

 

Sponsored Ad

 

        โรงแรมแห่งนี้สูงจากพื้นประมาณ 400 เมตร มองลงไปจะเห็นแค่จุดเล็กๆ

        การจะเข้าพักโรงแรมแห่งนี้คือปีนผาขึ้นไป

        โดยก่อนอื่นคุณต้องปีนบันได 400 ขั้น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

 

Sponsored Ad

 

        ปีนขึ้นไปบนบันไดลิงทีละขั้น ทีละขั้น

        อย่ามองกลับหลัง เพราะคุณจะขาอ่อน

Sponsored Ad

        จากนั้นคุณยังต้องผ่านสะพานเคเบิลเหล็ก ซึ่งสะพานเคเบิลเหล็กนี้จริงๆแล้วเป็นแค่สะพานแขวนซึ่งประกอบไปด้วยสายเคเบิลเหล็กคู่ขนานเพียงสองเส้นเท่านั้น

        ดูใต้เท้า มันคือหุบเหวที่สมบูรณ์แบบ

        สุดท้ายเมื่อถึงโรงแรมแล้ว ต้องเข้าไปในห้องผ่านทางหน้าต่างบนเพดาน

ผ่านหน้าต่างเข้าห้องไป

        ในห้องมีไฟโซล่าเซลล์ 4 ดวง เตียงเดี่ยว 2 เตียง และเตียงคู่ 1 เตียง

อยู่กันสองคนเกินพอ

        ยังมีหน้าต่าง 5 บาน เมื่อเปิดออกก็จะเห็นความงามของ Sacred Valley โดยไม่มีอะไรกีดขวาง

        แต่ทางที่ดีตอนกลางคืนควรจะปิด เพราะยิ่งสูงยิ่งหนาว

ในห้องยังมีห้องน้ำห้องนึง

        ห้องน้ำซ่อนอยู่หลังกำแพงผ้าใบ พร้อมอ่างล้างหน้าและโถปัสสาวะชาย

        ยังมีชักโครกด้วย แต่ไม่ได้ใช้น้ำ เป็นการทำธุระแบบแห้งลงไปในถุงพลาสติกแทน

        ถึงเวลากินข้าว ก็ต้องปีนออกจากห้อง ไปที่แคปซูลร้านอาหาร

        แคปซูลร้านอาหารค่อนข้างใหญ่ มีอาหารหลากหลายวางอยู่

6 คนกินร่วมกัน ก็ไม่แน่น


        ที่นี่เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในการชมทิวทัศน์จากที่สูง และใกล้ชิดกับธรรมชาติในระยะใกล้

        เช้าตรู่ แสงแรกในหุบเขาจะปลุกให้คุณตื่น

        นาข้าว แม่น้ำ ภูเขา….วิวเหล่านี้ไม่มีคำไหนจะบรรยายได้

        กลางวัน ชมวิวหุบเขา Sagrado ด้านล่าง พร้อมๆ กับการรับประทานอาหารบนชานเหนือเหนือห้องกระจกก็ไม่เลว

พระอาทิตย์ยามเย็นนั้นสวยงามมาก

        เมื่อตกกลางคืนดวงดาวเหนือหุบเขา Sagrado จะไม่มีสิ่งกีดขวาง คุณสามารถเพลิดเพลินกับดวงดาวพราวบนฟ้าจากบนเตียง

        สุดท้ายก็ต้องกลับลงมา แม้ว่าตอนขึ้นไปจะไม่ง่าย แต่ขาลงเร็วมาก

        คุณสามารถออกจากโรงแรมด้วย zip line

        เลื่อนลงมาตาม zip line ถึงพื้นได้อย่างปลอดภัย

        มีพนักงานรอคุณอยู่บนพื้น เพื่อฉลองการท่องเที่ยวที่ “ท้าทาย” ครั้งนี้ของคุณ

        รายงานว่า ปัจจุบันนี้การเข้าพักโรงแรมแห่งนี้มีราคาคืนละ 400 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐ ถ้าไม่อยากพักค้างคืน แค่กินข้าวในร้านอาหาร ก็มีค่าใช้จ่ายคนละ 237 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐ

ท้าทายขนาดนี้ คุณกล้าพักมั้ย?

        แต่ที่ทำให้หลายคนกระอักกระอ่วนก็คือ แต่ละห้องห่างกันไกลมาก หลายๆคนถ้าไปกับเพื่อน แล้วอยากไปห้องเพื่อนก็จำเป็นต้องปีนผาไป แต่ห้องพักที่นี่ตีเป็นเงินไทยราว 12,000 ไม่ถือว่าแพงสำหรับโรงแรมมีคอนเซ็ปต์แบบนี้ ยิ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบกีฬาท้าทายแล้ว โรงแรมแบบนี้น่าดึงดูดยิ่งนัก

        โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในประเทศเปรู ตั้งแต่เปิดตัวก็มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยียนไม่ขาด โรงแรมขายดีมาก ถ้าอยากไปพัก ต้องจองล่วงหน้าถึงจะได้ เป็นยังไงบ้างคะ อยากไปพักกันบ้างไหม?

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR