“ชลอ เสือกระจ่าง”หรือ “พระอภิปุณโญ” พระลูกวัดตาลเตี้ย ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย ท่านเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิร่วมกตัญญู รหัสเรียกขาน “นคร 58” จุดลาดกระบังกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ หลังบรรพชาเป็นพระเมื่อเดือน เม.ย. ปีที่ผ่านมา

        นอกจากจะปฏิบัติธรรมอย่างสมบูรณ์เป็นประจำทุกวันแล้ว เมื่อมีเวลา  “พระอภิปุณโญ” อยากจะให้ความรู้ความชำนาญเรื่องการช่วยเหลือคนเจ็บให้รอดชีวิต เลยออกปฏิบัติเผยแพร่ความรู้ให้อาสา และบุคลากรของหน่วยงานต่างๆ นำไปใช้อย่างถูกวิธี และปลอดภัย...เรียกว่า ถึงจะบวชเป็นพระท่านก็ยังห่วงใยคนในสังคม

.

        หลายต่อหลายเดือน สมาคมกู้ภัยข่าวภาพสุโขทัย จัดฝึกอบรมฟื้นฟูการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ(ภายใน)ให้กับลูกข่ายใหม่ที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการปฐมพยาบาล และยังขาดทักษะการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เพิ่มเติมองค์ความรู้ใหม่ให้กับลูกข่ายในสมาคมฯ ผู้ที่ทำหน้าที่วิทยากร-สาธิตการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ก็คือ“หลวงพี่ชลอ” นั่นเอง

        “พระชลอ” กล่าวว่า “อาตมาเป็นชาวสุโขทัย ทำงานให้มูลนิธิร่วมกตัญญูที่ กทม.ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานใหญ่ นอกจากจะมีความชำนาญในด้านกู้ภัยช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่าง ๆ แล้ว ยังมีความชำนาญด้านประดาน้ำ ใช้ชีวิต และประสบการณ์ในด้านกู้ภัยมา 19 ปี ปัจจุบันนอกจากจะออกปฏิบัติหน้าที่กู้ภัยแล้วยังได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ในมูลนิธิฯ ให้คอยเป็นพี่เลี้ยงในการจัดฝึกอบรม สอนทักษะและวิธีในการปฏิบัติหน้าที่กู้ภัย และได้ร่วมกับหน่วยงานของทุกภาคส่วน และภาครัฐ ทหาร ตำรวจ ในการฝึกยุทธวิถีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยมาตลอด”

        เปิดฝึกอบรมฟื้นฟูการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในแต่ละครั้งจะ  “เน้นให้ตรงจุดถูกวิธี และปลอดภัย” ทั้งผู้ที่เราช่วยเหลือ และตัวผู้ปฏิบัติการเอง ต้องรู้จริง รู้อาการผู้ประสบเหตุ และบรรเทาช่วยเหลือได้ทันท่วงที ดังนั้นการฝึกฝน การเรียนรู้ และรู้จริง รู้จุดจึงมีความสำคัญเป็นอันดับแรก

        “อาตมาเห็นอาสาสมัครรุ่นใหม่ยังไม่มีความชำนาญเพียงพอในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ความผิดพลาด-ปัญหาจึงตามมาบ่อยครั้ง คือช่วยไม่ถูกวิธี และเพื่อให้ความผิดพลาดในการช่วยเหลือผู้อื่นลดความสูญเสียในการเกิดเหตุเบื้องต้น จึงมีความตั้งใจที่จะส่งมอบความรู้และประสบการณ์ที่ทำงานด้านนี้มา 19 ปีให้อาสาสมัครในรุ่นต่อๆไป เพื่อให้เขาเหล่านั้นออกปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้อง และปลอดภัยทั้งตัวเขาเอง และผู้ประสบเหตุประสบภัย”

        หลวงพี่ชลอ บอกอีกว่า การเป็นอาสาสมัครกู้ภัยนั้นไม่มีวันหยุด ไม่มีหยุดเทศกาล ยิ่งเทศกาลยิ่งต้องพร้อมทำงานให้สังคม อาตมาก็มีครอบครัว ยอมรับว่าให้เวลากับสังคมมากกว่าคนในครอบครัวด้วยซ้ำ แต่ด้วยเรารักในวิชาชีพด้านนี้ ครอบครัวก็เข้าใจในตัวเราจึงเป็นที่มาของคำว่าอาสาสมัคร

        “พงศ์เทพ สาคร” เจ้าหน้าที่กู้ภัยข่าวภาพสุโขทัย 201 กล่าว่า พระชลอนอกจากท่านอุทิศตนเป็นคนของสังคมในภาคเจ้าหน้าที่กู้ภัยแล้ว เมื่อออกบวชท่านใช้เวลาที่เกิดประโยชน์จากการปฏิบัติธรรมแล้ว เมื่อมีเวลาก็ยังมา “อบรมความรู้-ทักษะ” ในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุที่ถูกต้องให้กับเพื่อนร่วมวิชาชีพกู้ภัย และอาสาสมัครที่ต้องการเข้ามาทำงานให้สังคม ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะว่าท่านมาบวชยังไม่ทิ้งหน้าที่ที่เคยทำกลับนำมาถ่ายทอดได้เป็นอย่างดี

        จากที่ได้อบรมบอกได้คำเดียวว่าได้ความรู้มาก เป็นความรู้ที่ได้มาตรฐาน รหัสโค๊ชสากลที่เขาใช้กันเมื่อเกิดเหตุใหญ่ที่ต้องอาศัยกู้ภัยต่างชาติมาช่วยก็จะมีรหัส ที่ไม่เคยรู้มาก่อน หรืออุบัติเหตุหมู่ว่าเมื่อไปถึง เราต้องทำอย่างไรก่อน ต้องสแกนเหตุผู้ได้รับบาดเจ็บให้ได้ว่าเป็นสีแดง สีเหลือง สีเขียวมีจำนวนเท่าไหร่

        ทุกคนคงเคยเห็นภาพคนกู้ภัยฯเฝ้าระวังเหตุอยู่ตามจุดต่าง ๆช่วงเทศกาลหรือไม่มีเทศกาลก็ตาม...ไม่มีวันหยุดเขาทำด้วยใจ ขณะที่เรา ๆ ท่าน ๆ เที่ยวกันอย่างสนุกสบายใจ...แต่หากเกิดเหตุร้ายเมื่อไหร่ คนเหล่านี้จะเป็นคนกลุ่มแรกที่เขาไปช่วยเหลือโดยตลอด...สอดคล้องกับคำพูดที่หลวงพี่บอกว่า “ให้เวลากับสังคมมากกว่าคนในครอบครัวด้วยซ้ำ” ...แม้กระทั่งมาบวชก็ยังใช้วิชาความรู้ความชำนาญเปิดฝึกอบรมให้กับกู้ภัยมือใหม่ จุดประสงค์เดียวคือ เพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์

ข้อมูลและภาพจาก dailynews