เปิดใจ "สัปเหร่อหนุ่ม" เผยถึงแม้รายได้จะน้อยมาก แต่ทำแล้วกลับมีความสุขมาก

  • 2020-02-21 16:52

LIEKR:

นับถือใจพี่เขาเลยค่ะ สุดยอด แอดว่าอาชีพนี้เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่ายกย่องเสียด้วยซ้ำ

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        "นายสุธี ปั่นถา" วัย 30 ปี "สัปเหร่อ" แห่งวัดโสภณาราม จังหวัดปทุมธานี ที่ยึดเป็นอาชีพสร้างรายได้มายาวนานถึง 15 ปี จากเด็กที่เรียนไม่จบ 

        แต่อยากพิสูจน์ตัวตนว่าสามารถหาเงินและเลี้ยงชีพตัวเองได้ ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นได้แค่ผู้ช่วย แต่ก็มีความฝันอยากจะเอื้อมเป็น "เอกสัปเหร่อ" จนสามารถทำตามความฝันที่ตัวเองตั้งเป้าหมายไว้ได้สำเร็จ

        เมื่อนึกถึงคำว่า "สัปเหร่อ" สิ่งที่เป็นของคู่กันคงหนีไม่พ้น "ผี" ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างกลัว การขจัดความกลัวไม่ใช่เรื่องง่าย และการเป็นสัปเหร่อก็ไม่ใช่ใครก็สามารถเป็นได้ด้วยเช่นกัน ต้องบังคับจิตใจให้เข้มแข็ง ตอนคุณสุธีเจอศ พครั้งแรก ก็มีความกลัวเหมือนกับหลายคนทั่วไป แต่ที่ทุกวันนี้ไม่กลัว เพราะรู้จักการฝึกให้ตัวเองชิน

        "เมื่อก่อนผมเป็นคนกลัวผีมาก ตอนทำครั้งแรกมือไม้สั่นไปหมด หัวใจเต้นแรงมาก แต่ทุกวันนี้ผมไม่มีความกลัวแล้ว อยากเจอผีตัวเป็นๆ มาก แต่ก็ไม่เคยได้เจอสักที" คุณสุธี กล่าว

        ทุกอาชีพล้วนมีจรรยาบรรณของตนเอง ไม่เว้นแม้แต่สัปเหร่อ ที่ขณะร่างกายเราเหลือแต่ผงขี้เถ้าถ่าน สัปเหร่อคนนี้ก็ยังคงต้องรักษาผงขี้เถ้าของผู้ที่จากไป ไม่ให้คนอื่นเอาไปใช้ในทางที่ไม่ดี นอกจากญาติพี่น้องผู้ที่จากไปที่มีสิทธิ์นำเถ้ากระดูกกลับไปได้เท่านั้น คุณสุธีนั้นคำนึงในหัวอยู่ตลอดเวลาว่ามันคือ "จรรยาบรรณ"

        "มีคนมาขอขี้เถ้าเพื่อจะไปแก้คุณไสย แต่พอมาถึงวัดแล้วมีการมาถามหาบาตรแตกด้วย ผมเลยไม่เปิดห้องเก็บขี้เถ้าให้เขา เพราะรู้ดีว่าเป็นการทำคุณไสยเอาคืนแน่นอน คนที่มาขอก็ไม่ใช่ญาติของผู้ตาย ผมจึงไม่ให้ขี้เถ้าเขาไป เพราะผมถือว่ามันเป็นจรรยาบรรณของผม" คุณสุธี กล่าว

        รายได้ของสัปเหร่อ บางเดือนน้อยเพียงแค่หยิบมือ บางเดือนก็ได้เยอะหมื่นกว่าบาท บางเดือนไม่ได้เงินเลยก็มี โดยคุณสุธี กล่าวว่า "แต่ละงานไม่เคยขอเงินจากเจ้าภาพเลยสักครั้ง แล้วแต่จิตศรัทธาที่เจ้าภาพจะให้ ไม่เคยเรียกร้อง บางเดือนก็ได้ถึงหมื่นบาท บางเดือนก็ไม่ได้เลยสักบาทก็มี"

        เมื่อถามถึงเรื่องแฟน คุณสุธีก็ได้ตอบว่า "โอ้ย อย่าถามเรื่องนี้ดีกว่าครับ อาชีพอย่างผมใครเขาจะมาเอาครับ แค่รู้ว่าเป็นสัปเหร่อเขาก็กลัวกันหมดแล้ววัยรุ่นสมัยนี้ แล้วผมสักเต็มตัว ผู้หญิงเขาก็ไม่ชอบกันอยู่แล้ว เขาก็จะไปมองกันอย่างนี้ เพราะว่าภาพสังคมเขาก็มองกันแบบนั้นอยู่แล้วสำหรับคนสัก อยู่คนเดียวก็โอเคนะครับ เราเอาตัวเองยังไม่รอดเลย ต้องดูแลแม่ จะเอาเขามาเหนื่อยกับเราก็ใช่ที่ ก็เลยอยากอยู่คนเดียวแบบนี้ดีกว่าครับ สบายใจของเราด้วย เราจะทำอะไรก็ได้ทำ"

        สำหรับสิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นสัปเหร่อก็คือ การรับแรงเหยียดหยามจากสังคม แต่คุณสุธีไม่เคยคิดท้อหรือใส่ใจ แม้ว่ากลุ่มเพื่อนจะไม่เคยชวนคุณสุธีไปกินข้าวด้วยก็ตาม

        "ก็มีหลายคนมาดูถูก แต่ผมไม่เคยคิดใส่ใจอะไร เพราะสุดท้าย ชีวิตคนเราทุกคนก็ต้องมาจบที่ผมอยู่ดี" คุณสุธี กล่าวทิ้งท้าย

ชมคลิป..

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก thairath