ย้อนรอยอาถรรพ์ "ตึกร้างย่านสาทร" อนุสรณ์วิกฤตต้มยำกุ้ง กับเรื่องราวสุดหลอนที่รอการเปิดเผย !

LIEKR:

ตึกในตำนานเลยนะคะเนี่ย

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

    หากย้อนไปในปี 2540 ถือเป็นยุคที่หลายคนยังคงจดจำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ทั้งฟังเพลงจากเทปคาสเซต ถ่ายรูปกับตู้สติ๊กเกอร์ยอดฮิต หรือสื่อสารข้อความกันผ่านเพจเจอร์เป็นต้น แต่อีกหนึ่งวาระที่ยากจะลืมเลือนเช่นกัน คือ "วิกฤตต้มยำกุ้ง" ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเป็นวงกว้างมหาศาล ตึกและบ้านช่องถูกทิ้งให้ร้างเพราะประชาชนยุคนั้นต่างมีหนี้สินมากมาย

    หนึ่งในสิ่งที่ชวนให้นึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าวในปัจจุบัน หนีไม่พ้น "ตึกร้างสาทร" อาคารร้างที่ตั้งกลางเมืองอยู่ในย่านธุรกิจ และแม้โดยรอบจะมีผู้คนหรือการสัญจรมากมาย แต่ก็ชวนวังเวงทุกครั้งเมื่อมีโอกาสได้มอง รวมถึงทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า เพราะเหตุใดอาคารดังกล่าวจึงอยู่ในสภาพเช่นนี้

 

Sponsored Ad

 

    จุดเริ่มต้นของตึกร้างสาทร

    ตึกร้างสาทร มีชื่อเต็มคือ สาทร ยูนิค ทาวเวอร์ ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2533 ถูกออกแบบโดย นายรังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดังของไทย ตัวตึกมีความสูง 47 ชั้น สร้างขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจคอนโดหรูใจกลางเมือง และด้วยทำเลที่มีศักยภาพ รวมถึงความมีเอกลักษณ์ที่โดนเด่น ทำให้ สาทร ยูนิค ทาวเวอร์ เป็นที่จับตามองของนักลงทุนและผู้สนใจอย่างมากมาย

 

Sponsored Ad

 


          อย่างไรก็ดี จุดพลิกผันที่ทำให้อาคารที่กำลังไปได้สวย ต้องกลายเป็นตึกร้าง เริ่มจากเมื่อปี 2535 นายรังสรรค์ ถูกจับกุมในข้อหา จ้างวานฆ่าประธานศาลฎีกา ซึ่งต่อมา นายรังสรรค์ ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกในปี 25 ปี และแม้จะยังมีการดำเนินการสร้างต่อไป แต่การมาของวิกฤตต้มยำกุ้ง ในปี 2540 ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้โครงการต้องชะงักไปโดยปริยาย

    ที่มาของเรื่องราวชวนสยองขวัญ

 

Sponsored Ad

 

    ภายหลังจากที่ สาทร ยูนิค ทาวเวอร์ กลายสภาพเป็นตึกร้างนั้น แม้ปัจจัยหลักจะมาจากสภาพเศรษฐกิจ แต่ก็หนีไม่พ้นอีกแง่มุมในเรื่องความเชื่อ ซึ่งคนท้องถิ่นเผยว่า บริเวณที่ตั้งของโครงการ คือสุสานเก่า ที่อาจมีเป็นอาถรรพ์จนทำให้ตึกนี้สร้างไม่เสร็จ และเมื่อบวกกับที่มีผู้คนบางส่วนเห็นสิ่งลึกลับบริเวณดังกล่าว ทำให้ ตึกร้างสาทร กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งความขนลุกใจกลางเมืองไปโดยปริยาย


 

Sponsored Ad

 

    ความเป็นตำนานในเรื่องความน่ากลัวนี้ ไม่ได้อยู่แค่เมืองไทย แต่โด่งดังไปถึงทั่วโลก โดยชาวต่างชาติให้ฉายาตึกนี้ว่า "Ghost tower" หรือตึกผีสิง จนส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่มาไทยบางส่วน แอบบุกรุกเข้าไปในตึกดังกล่าวเพื่อพิสูจน์ความกล้า โดยเก็บบรรยากาศด้านในออกมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ แม้มันจะผิดกฎหมายและสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายไม่น้อย

    ขณะเดียวกัน ชื่อเสียงในแง่ความน่ากลัวของตึกร้างสาธรยิ่งกลายเป็นที่ถูกพูดถึงมากขึ้นในปี 2557 เมื่อช่างภาพหนุ่มชาวไทยได้ขึ้นไปเก็บบรรยากาศด้านใน แต่ต้องผวา เมื่อได้เจอศพปริศนาผูกคอตายในตึก ทำเอาเรื่องนี้กลายเป็นที่โด่งดังอย่างมาในโลกออนไลน์ ภายหลังทราบว่าศพดังกล่าว คือนักท่องเที่ยวชาวสวีเดน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นข่าวที่ครึกโครมในหน้าสื่ออย่างมากในช่วงนั้น

 

Sponsored Ad

 

    อีกแง่มุมเหนือความน่ากลัว

    หากมองแต่ผิวเผิน ตึกร้างสาทร อาจจะดูวังเวงและชวนขนลุก โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่มืดสนิทไร้แสงไฟ แต่อีกมุมหนึ่งนั้น ด้วยความที่เป็นตึกที่ถูกออกแบบมาได้อย่างสวยงาม บรรยากาศด้านใน โดยเฉพาะวิวจากด้านบนซึ่งมองเห็นย่านสาทร และแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างชัดเจน ก็ถือว่าเป็นภาพหายากที่แทบไม่ได้เห็นกันง่าย ๆ และถือเป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้คนที่แอบเข้ามาถ่ายภาพอย่างยิ่ง

    นอกจากนี้ ด้วยความที่เป็นตึกร้างไร้การดูแล รวมถึงยังมีพื้นที่กำแพงปูนว่าง ๆ อยู่มากมาย จึงทำให้ ตึกสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ กลายเป็นลานแสดงศิลปะของเหล่าศิลปินนักพ่นสี ที่แอบเข้ามาพ่นลวดลายตามสไตล์ของตัวเอง จนกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตึก แต่แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เพราะพื้นที่เหล่านี้ไม่ได้อนุญาตให้คนนอกเข้าไปแต่อย่างใด

 

Sponsored Ad

 


     มุมมองจากเจ้าของตึกร้าง

    เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ เจ้าของตึก สาทร ยูนิค ทาวเวอร์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตึกนี้กลายเป็นจุดหมายของผู้มาถ่ายภาพ ตนก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากบอกว่าผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่ได้หวงที่จะมีผู้คนขึ้นมาถ่ายภาพ แต่ห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะหากเกิดอันตรายขึ้นมา ตนก็จะต้องมีส่วนรับผิดชอบ ทั้งในด้านกฎหมายและสังคม เพราะตึกนี้สร้างไม่เสร็จ จึงไม่สามารถรับประกันเรื่องความปลอดภัยได้

Sponsored Ad

    นายพรรษิษฐ์ เล่าอีกว่า ตึกนี้คือความฝันของคุณพ่อ ที่ต้องการเนรมิตรความทันสมัยแก่ย่านการค้าเก่าอย่างเจริญกรุง โดยโครงการไม่ได้มีปัญหาใด ๆ แต่ภายหลังจากที่ก่อสร้างนั้น คุณพ่อได้ถูกดำเนินคดี และเมื่อถูกปล่อยตัว ทางไฟแนนซ์ก็ได้ปล่อยกู้ต่อ ทำให้มีผู้จองซื้อก็นำเงินมาลงทุนต่อ จนตึกสร้างเสร็จเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดี เมื่อเจอกับวิกฤตต้มยำกุ้ง ทางไฟแนนซ์ก็ล้ม ทำให้ตึกไม่สามารถสร้างได้สำเร็จ

    เจ้าของตึกสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ ระบุว่า ที่ผ่านมามีคนสนใจจะซื้อตึกนี้มากมายทั้งจากไทยและจากต่างประเทศ แต่จุดที่ตึกนี้ยังไม่ถูกขายหรือต่อเติมจนเสร็จ มาจากการที่ต้องการให้ผู้ที่ร่วมลงทุนในตอนนั้นให้ได้รับเงินเยียวยาครบ ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขที่ยาก ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างแก้ปัญหาต่อไป

ชมคลิป 1...

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ชมคลิป 2...

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก kapook

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ