ปริศนาท่านั่ง "สมเด็จโต" มือขวากำอยู่บน มือซ้ายกลางทรวงอก ท่านั่งกรรมฐาน ที่มีมากว่าร้อยปี !

LIEKR:

ปริศนาท่านั่ง "สมเด็จโต" มือขวากำอยู่บน มือซ้ายกลางทรวงอก ท่านั่งกรรมฐาน ที่มีมากว่าร้อยปี !

     เนื่องในวันที่ ๑๗ เมษายน เป็นวันคล้ายวันเกิดของ สมเด็จโต พระมหาเถราจารย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ท่านเป็นพระมหาเถระรูปสำคัญที่ได้รับความนิยมนับถืออย่างมากในประเทศไทย ท่านเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารในสมัยรัชกาลที่ ๔-๕ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) 

    นับเป็นพระเถราจารย์ผู้มีปฏิปทาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส เป็นที่เคารพนับถือทั่วไปมาตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชน ด้วยปฏิปทาจริยาวัตรความสมถะอันโดดเด่นของท่านและคุณวิเศษอัศจรรย์ของท่านแล้วจึงทำให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยเคารพนับถือว่าท่านเป็นอมตะเถราจารย์รูปหนึ่งของเมืองไทย และมีผู้นับถือจำนวนมากในปัจจุบัน

 

Sponsored Ad

 

    สำหรับคนทั่วไปก็จะตีความหมายตามภูมิรู้ ภูมิธรรม ตามความหมายข้างต้น แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าองค์หลวงปู่ท่านมีปัญญาเลิศล้นกว่าหมู่คนทั้งปวง เราจึงได้รับรู้เรื่องราวเรื่องเล่าต่างๆเกี่ยวกับองค์ท่าน ในความปราดเปรื่องทางปัญญาอยู่เสมอๆ

    หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน ท่าทางองค์หลวงปู่เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี กำลังนั่งเหมือนท่าบริกรรม,เข้าฌาณสมาบัติหรือเหมือนชักรูปประคำ โดยมีมือขวากำอยู่บนมือซ้าย ส่วนมือซ้ายนั้นกำอยู่ด้านล่างมือขวา หากพิจารณาดีๆก็เหมือนท่านั่งสมาธิโดยเอามือขวาวางทับมือซ้ายแล้วตั้งกายให้ตรงดำรงมั่นฯ เพียงแต่องค์ท่านยกมือขึ้นมาแล้วทำท่าทางกำมืออยู่ระหว่าง "กลางทรวงอก" 

 

Sponsored Ad

 

    องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ท่านเมตตาไขข้อสงสัยนี้ให้เหล่านักรบธรรมแห่งภูดานไหฟังว่า เมื่อเราประสพเรื่องราว เครื่องหมาย นิมิตใดๆ ให้ตีความหมายไปใน "ทางธรรม" เสมอ ครูบาอาจารย์ระดับนี้ ท่านไม่สื่ออะไรออกมาเป็นของง่ายของธรรมดาเป็นแน่ ความหมายพอสังเขปมีดังนี้

    ๑. มือขวาที่กำอยู่เบื้องบนมือซ้ายท่านเรียกว่า "กรรมบน" เปรียบเหมือน "ปาก"
    ๒. มือซ้ายที่กำอยู่ด้านล่างมือขวาท่านเรียกว่า "กรรมล่าง" เปรียบเหมือน "ท้อง"
    ๓. (ขออนุญาตเสริม) ท่าทางที่องค์ท่านยกมือทั้งสองขึ้นมาระหว่างกลางทรวงอกนั้น..
ขออนุญาตเรียกว่า "กรรมทั้งมวล" นั้นรวมสู่ที่ "ใจ"

 

Sponsored Ad

 

     สรุปว่า อันคนเราจะคิดจะทำสิ่งใดๆ ก็คิด ก็ทำไป "เพื่อปากเพื่อท้อง" ของตนเสมอกรรมทั้งมวลส่วนใหญ่จึงเกิดจากปากจากท้องของบุคคลนั้นๆจะต่อสู้ดิ้นรนแสวงหาทรัพย์สินเงินทองหน้าตายศฐาบรรดาศักดิ์ก็ทำไป "เพื่อปากเพื่อท้อง" จะโกงบ้านจะกินเมือง "ก็เพื่อปากเพื่อท้อง" องค์ครูบาอาจารย์ท่านว่ามาประมาณนี้

ข้อมูลและภาพจาก tnews

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ