หลังจากรัฐบาลออกมาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปี ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 500 บาทต่อคน ให้กับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และยังมีเงินช่วยเหลือมอบให้กับผู้สูงอายุ ช่วยเหลือค่าเช่าบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย เพื่อบรรเทาภาระค่าเช่าที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้สูงอายุ 400 บาทต่อคน ต่อเดือน

        แต่มีสองตายายปลูกกระท่อมอยู่ตามลำพัง ริมคลองชลประทาน บ้านไร่เก่า ม.3 ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไม่มีแม้แต่บัตรประชาชน ไม่มีเอกสาร และข้อมูลยืนยันการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่เคยได้รับเงินผู้สูงอายุ และไม่เคยถูกช่วยเหลือใดๆ

        ล่าสุด ร.ต.สันติ หอมตลบ หัวหน้าชุดรักษาความสงบเรียบร้อย สามร้อยยอด สำรวจ หลังผู้บังคับบัญชามอบหมาย พร้อมด้วย นายธงชัย ธนสมบัติ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม. 3 พบว่า ที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นกระท่อมขนาดเล็ก สภาพทรุดโทรม จำนวน 2 หลัง มีสะพานไม้เก่า เริ่มผุพัง พาดทางเดินข้ามคลองชลประทานเข้ากระท่อม โดยกระท่อมหลังแรกเป็นของตาหนู โยธา อายุ 90 ปี อีกหลังเป็นของยายอัด สิงห์ทอง อายุ 80 ปี ภรรยา

        โดยเจ้าหน้าที่สอบถามความเป็นอยู่ของตายายทั้งคู่ ทราบว่า เคยรับจ้างทำงานในไร่ ที่ อ.ปราณบุรี และตัดสินใจหลังชีวิตอยู่กิน จนมีลูก ต่อมาลูกของทั้งคู่บางคนเสียชีวิตลง ส่วนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ย้ายตามครอบครัวไปอยู่จังหวัดอื่น เหลือเพียงลูกติดของตาหนู กับภรรยาเก่า ที่อยู่ใกล้ ๆ กัน ยังคอยมาดูแลอยู่บ้าง แต่ลูกก็เป็นคนพิการขาขาด มีฐานะยากจน

        ส่วนสองตายายเมื่ออายุมากขึ้น ก็ไม่ได้ไปรับจ้างเช่นเดิม จึงออกจากไร่นายจ้าง มาปลูกกระท่อมอยู่ริมคลอง อาศัยเก็บไม้แถวริมคลองเผาถ่านขายประทังชีวิต แต่ปัจจุบันเริ่มทำไม่ไหว ตอนนี้ได้แต่อาศัยข้าวปลาอาหาร จากผู้ใจบุญ และจากลูกชายของตาหนู ที่แบ่งปันมาให้เป็นครั้งคราว

        คุณยายอัด เล่าว่า ตนเองไม่เคยรู้เรื่องว่าทางภาครัฐมีการทำบัตรสวัสดิการให้กับผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากตนเองอยู่แต่ที่นี่ ไม่เคยออกไปไหน และก็ไม่เคยมีหน่วยงานภาครัฐมาช่วยเหลือ เรื่องการทำบัตรประชาชนให้แต่อย่างใด ช่วงนี้ไม่มีเรี่ยวแรงเผาถ่าน ก็อาศัยกินอยู่จากอาหารที่ได้รับบริจาคมา

บัตรจำตัวประชาชนของตาหนู โยธา

บัตรจำตัวประชาชนของยายอัด สิงห์ทอง

        เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่าสองตายายมีบัตรประชาชนอยู่ติดตัวคนละใบ ซึ่งเป็นบัตรรุ่นเก่า รูปถ่ายขาว-ดำ โดยตาหนู มีภูมิลำเนาตามบัตรอยู่ที่ จ.นครปฐม ออกให้เมื่อ พ.ศ.2514 ส่วนยายอัด อยู่ที่ จ.พิจิตร ออกให้เมื่อ พ.ศ. 2507 ซึ่งบัตรหมดอายุแล้วทั้งคู่ และสองตายายไม่ได้มีการย้ายภูมิลำเนามาอยู่ที่สามร้อยยอดแต่อย่างใด ทำให้ที่ผ่านมา จึงไม่เคยได้รับสวัสดิการใด ๆ จากทางรัฐ

        ด้าน ร.ต.สันติ หอมตลบ หัวหน้าชุดที่มาสำรวจพื้นที่ เผยว่า ปัญหาดังกล่าวน่าจะแก้ไขได้ไม่ยาก เพราะทั้งคู่เป็นคนไทย มีบัตรประชาชนมาก่อน อย่างของตาหนูพบว่ามีชื่อทะเบียนราษฎร์ เพียงแต่ยายอัดคงต้องตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง คาดว่าข้อมูลน่าจะตกหล่นจากระบบ และในสัปดาห์หน้า จะเร่งดำเนินการให้สองตายายได้มีบัตรประชาชน และช่วยเหลือให้ได้รับสวัสดิการจากรัฐ ตามสิทธิที่ควรจะได้โดยเร็ว

        หลังจากการตรวจสอบได้ประสานกับปลัดอาวุโสอำเภอสามร้อยยอด ซึ่งทางด้านปลัดอาวุโสอำเภอสามร้อยยอด ยินดีที่จะช่วยเหลือให้สองตายายได้มีบัตร โดยจะทำการย้ายปลายทางให้กับตาหนูก่อน ส่วนยายอัด ก็จะร่วมหารือกับทุกฝ่าย เพื่อหาทางแก้ไข และเร่งให้ยายอัด ได้มีข้อมูลทะเบียราษฎร์ และได้รับสวัสดิการจากรัฐจนครบถ้วน

ข้อมูลและภาพจาก amarintv