ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกระแสโลกโซเชียลที่ชื่นชมสาวจิตอาสาชาวราชบุรี ที่รู้จักกันในนาม สนุ๊ก สะพานบุญ จาการเข้าไปช่วยแต่งหน้าศพ เป็นชายรายหนึ่ง ทราบชื่อว่า น้องโอม อายุ 20 ปี ประสบอุบัติเหตุ รถเก๋งชนเสาไฟฟ้า เวลา 01.45 น. เมื่อปีก่อน ในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดหวัดราชบุรี 

        เรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2560 ผ่านเฟสบุ๊ก ชื่อ สนุ๊ก สะพานบุญ มีข้อความว่า #เตรียมเงินจัดงานบวชต้องมาใช้จัดงานศพ

        คุณแม่เล่าทั้งน้ำตา4 วันก่อน น้องเพิ่งคุยกับคุณแม่ เรื่องบวชเพื่อทดแทนพระคุณ งานบวชลูกชาย ต้องกลายเป็นงานศพ หญิงสาวเผยว่า ได้คุยกับ แอน พี่สาวของน้องโอม ซึ่งอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจมาก ระหว่างที่สระผม–แต่งหน้าน้องโอม ทำเพื่อน้องชายครั้งสุดท้ายพี่สาวยังคงร้องไห้ตลอดเวลา ส่วนคุณแม่ร้องไห้โฮเสียใจมากเช่นกัน ก่อนจะกลับ แม่และพี่สาวมาขอบคุณสาวนุกที่พยายามปลอบใจคนทั้งสอง

        จากนั้นสาวนุ๊กจึงโพสต์ภาพและเรื่องราวเผยแพร่ในเชิงวิทยาทานการแต่งหน้าศพเท่านั้น โดยได้รับการอนุญาตจากญาติผู้วายชนม์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเรื่องราวนี้เผยแพร่และแชร์ต่อๆ กันไป ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์น้องสนุ๊ก หรือ คุณวรางค์อร เดชรชตะ อายุ 32 ปี เป็นชาวจังหวัดราชบุรี

        ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวและจำหน่ายยาสีฟันออนไลน์ และเป็นจิตอาสาที่คอยเป็นกระบอกเสียงหรือสะพานบุญเพื่อบอกต่อเพื่อเข้าส่วนเหลือกับผู้ยากไร้ ผู้พิการและถูกทอดทิ้ง โดยที่ไม่หวังรายได้-ผลประโยชน์หรือหน้าตา 

        สนุ๊กเล่าว่า เป็นจิตอาสามากว่า 7 ปีแล้ว เริ่มจากการทำบุญในจุดเล็กๆ การออกโรงทาน เหมือนคนทั่วๆไป และเริ่มมองเห็นปัญหาทางสังคมที่มีคนตกทุกได้อยาก คนแก่ถูกทอดทิ้ง ผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาที่ดีเนื่องจากมีความเป็นอยู่ที่ยากไร้

        บางรายไม่มีเงิน จึงเป็นอาสาบอกบุญผ่านทางหน้าเฟสบุ๊กของตนเอง จนมีผู้ที่หยิบยื่นน้ำใจคนละเล็กละน้อย จนมีคนแชร์เรื่องราวออกไปจำนวนมาก นอกจากนี้ตนเองยังได้ออกไปช่วยล้างป่าช้าและได้คุ้นเคยกับศพ 

        ในปี 2557 มามากมายจนทำให้เกิดความเคยชินและไม่กลัวกับศพ หรือการเห็นสภาพศพ 

        จนเข้ามาปี 2558 ได้เริ่มสนใจที่จะมาแต่งหน้าศ พก็ได้ไปเรียนรู้การแต่งหน้าศพ ได้มีอากาศรู้จักกับ พี่ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการแต่งหน้าศพได้เข้าไปเรียนรู้ และได้ทดลองในการแต่งหน้าจริง จากลูกมือจนมาเริ่มแต่งด้วยตนเอง ยอมรับแรกยังเกร็ง เพราะเวลาที่ลงแพงไปบนใบหน้านั้นต้องมีบ้างที่จะต้องเจอ เลือด หนอง และน้ำเหลือง 

        แต่สิ่งที่ต้องเจอในความแตกต่างและเป็นเรื่องที่ยากที่จะต้องพยายามและเรียนรู้ที่จะแก้ไขให้ได้คือ รอยแผล รอยแตกของกะโหลก รอยเย็บ ที่เกิดจากอุบัติเหตุต่างๆ เช่น ตาเปิด ปากเปิด จมูกเปิด ทำให้เรามีความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน

        อีกอย่างคือความสะเทือนใจของญาติด้วย ญาติบางรายจะมีความเสียใจอย่างมากและจะส่งผลมาทำให้เรามีความสะเทือนใจไปด้วย 

        อย่างเรื่องราวที่ตนเองโพสต์ออกไปนั้นตนเองอยากบอกสังคมว่า หลายๆคนอาจจะไม่มีความเข้าใจว่า ทำไมต้องมีการโพสต์รูปศพก่อนแต่งกับหลังแต่ง มันดูเหมือนว่าอนาจารศพหรือเปล่า ดูเหมือนไม่ให้เกียรติหรือเปล่า การที่ตนเองโพสต์ได้คุยกับทางญาติแล้วว่าเราขอเผยแพร่ในทางเชิงวิทยาทานการแต่งหน้าศพเท่านั้น

        เพราะว่าถ้าเราไม่มีการโพสต์บอกคนจะไม่มีความเข้าใจเลยไม่มีใครรู้แน่นอนว่าก่อนการแต่งหน้าศพคืออะไร หลายคนเข้าใจว่าการแต่งหน้าศพคือการแต่งหน้าให้เหมือนลิเก แต่งหน้าให้เหมือนตุ๊กตาจีน ตุ๊กตาญี่ปุ่นหน้าจัดๆ มีสีสัน แต่คือจริงๆไม่ใช่ การที่ตนเองแต่งหน้าศพ จะแต่งให้สวยเหมือนจริง เราต้องทำการบ้านก่อน 

        ก่อนที่จะลงมือทำเราต้องดูรูปภาพหน้าศพหรือรูปภาพที่เข้ายังมีชีวิตอยู่ และสอบถามกับทางญาติของคนตายว่าปกติตนตายนั้นชอบแต่งหน้าหรือไม่ แต่งแบบไหน แต่งแบบหน้าจัดๆหรือแบบเรียบๆ เราก็จะแต่งให้เหมือนจริง 

        ส่วนเครื่องสำอางตนเองจะใช้แบบที่มียี่ห้อทุกชิ้น ใช้ของแบรนด์ของแท้ ราคาที่ซื้อรวมๆกัน2 หมื่นกว่าบ้าน เราใช้ของที่มีคุณภาพ เสมือนกับที่คนที่มีชีวิตอยู่ใช้กัน เพราะจะทำให้เกาะผิวหน้าดี ไม่ลอกหลุดหรือไหลเยิ้ม ถ้าเราใช้ของที่ดีมีคุณภาพ ใบหน้ายังคงความสวยอยู่ ทั้งหมดก็ใช้เงินส่วนตัวในการซื้อเราไม่ไปเบียดเบียนใคร

        เพราะเราให้บริการฟรีขับรถไปก็เติมน้ำมันรถเองไม่ให้เดือดร้อนคนอื่น สิ่งเหล่านี้หลายคนมองไม่เห็นหลายคนยังไม่เข้าใจว่าการแต่งหน้าศพคืออะไร ทำเพื่ออะไร ซึ่งมันเป็น “ภาพความทรงจำที่สวยงาม” ให้ญาติมีความทรงจำและมีความรู้สึกดีๆ กับการสูญเสียเท่านั้นเองส่วนประเด็นที่หลายคนมองว่าตนเองทำเพื่อเอาหน้านั้น ตนเองอยากฝากบอกว่า ได้มองข้ามสิ่งพวกนั้นไปแล้ว จริงๆ

        อยากเชิญชวน ถ้าใครอยากจะมาเอาหน้าอยากจะให้มาร่วมกันทำบุญทำความดีมาเอาหน้ากันเยอะๆ เลยอยากได้จิตอาสาแต่งหน้าศพ ทำดีเอาหน้ากันเยอะๆเลยก็จะได้มีจิตอาสาหลายๆท่าน ถ้าเรามัวแต่ไปกลัวว่าทำดีแล้วคนนั้นจะว่าคนนี้จะมองยังไงทำดีเพื่อสร้างภาพเลยหรือเปล่า มันก็จะไม่มีใครกล้ามาทำดี จึงอยากจะเชิญชวนทุกคนมาสร้างภาพดีๆ เพื่อสังคมให้น่าอยู่ ที่ผ่านมา

        สนุ๊กแต่งหน้าศพมาแล้วกว่า 24 ราย โดยได้เข้าไปร่วมทีมกับแนนนี่ในการแต่งหน้าให้นางสาวเทียมใจ วงษ์คำเหลา หรือ แวว จ๊กมก น้องสาวคุณหม่ำ จ๊กมก มีโอกาสแต่งหน้าให้กับคุณพ่อของคุณไพโรจน์ สังวริบุตร ศิลปินและนักแสดงชื่อดัง เมื่อวันที่5 กันยายน 2560 ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม เขตพระนครด้วย

        "ไม่ใช่ว่าเป็นสะพานบุญแล้วต้องใส่ชุดขาว ถือศีลเคร่งครัด ตื่นมาปฏิบัติธรรม จริงๆ เราเหมือนคนทั่วไปเลย  เที่ยวผับดื่มแอลกอฮอล์ปกติ"

        จากเด็กอายุ 17 ปีกินยาล้างห้องน้ำ วันนี้สนุ๊กอายุ 32 ปีแล้ว ผ่านบทเรียนและประสบการณ์มากมาย เธอยืนยันว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต คือการทำให้แม่มีความสุข

        “พยายามทำให้แม่มีความสุขมากที่สุด ไม่เคยเลยรู้ว่าเขารักเรา จนเราแย่และเกือบตายนั่นแหละ ความเจ็บป่วยวันนั้นทำให้มีสนุ๊ก สะพานบุญวันนี้” หญิงสาวทิ้งท้าย

ข้อมูลและภาพ จาก posttoday