ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์ เสนอขั้วที่ 3 "ตั้งรัฐบาล" ขอเก้าอี้ 6 กระทรวงหลัก ส่อหนุนบิ๊กตู่เป็นนายกต่อ!

LIEKR:

ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย ขอเก้าอี้ 6 กระทรวงหลัก ร่วมรัฐบาลพลังประชารัฐ

        เมื่อวานนี้ นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การหารือระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคพรรคภูมิใจไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และตน ที่ร้านทีเฮ้าต์ ย่านถนนพระรามที่ 6 เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นการไปพูดคุยว่าเราต้องการทำงานอะไรด้านไหน

        ซึ่งแกนนำทั้งสองพรรคต่างยืนยันที่จะจับมือเดินไปด้วยกัน ไม่มีแตกแยกหรือปล่อยมือทิ้งกัน ถ้าข้อเสนอที่บอกไปได้รับการตอบรับ 

 

Sponsored Ad

 

        โดยพรรคภูมิใจไทยนั้น สื่อก็ทราบมาแล้วว่าต้องการบริหารงานต่อยอดจากนโยบายที่หาเสียงไว้คือ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุขเพื่อปลดล็อคกัญชาเป็นยารักษาโรค และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อต่อยอดทั้งงานด้านกีฬาและบูมจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว  

        ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ขอดูแลกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาพืชผลการเกษตรตกต่ำ และกระทรวงพลังงาน แต่ถ้าไม่ได้ตามนี้ เราก็ยืนยันว่าจะจับมือกัน ส่วนจะพิจารณาเป็นขั้วที่สามหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบ

 

Sponsored Ad

 

        ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการหารือดังกล่าว ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐเสนอโควตาตำแหน่งมาให้ทั้งสองพรรค พรรคละ 7 ตำแหน่ง แบ่งเป็น รมว. 3 กระทรวงหลักเกรดเอ บวก 4 รมช. หรืออาจเป็น รมว. 3 กระทรวงหลัก บวก 1 รองนายกฯ และบวก 3 รมช.

 

Sponsored Ad

 

        นอกจากกระทรวงหลักที่ทั้งสองพรรคระบุไปแล้ว ไม่มีการระบุขอตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการแต่อย่างใด แต่หากข้อเสนอร่วมดังกล่าวของทั้งสองพรรคไม่ได้รับการตอบสนอง ทั้งสองพรรคอาจพิจารณาเป็นขั้วที่ 3 โดยมีการประสานกับพรรคขนาดเล็กอีก 2 พรรค คือ ชาติไทยพัฒนาที่มี 10 ส.ส. และชาติพัฒนาอีก 3 ส.ส. รวมเป็น 116 ส.ส. เพราะเห็นว่าพรรคหลักทั้งสองขั้วมีจุดยืนที่ต่างกันมาก ไม่ว่าขั้วใดตั้งรัฐบาลได้ก็จะเป็นเสียงปริ่มน้ำ หรืออาจเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่จะมีปัญหาในการบริหารราชการ กระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลและอาจเป็นรัฐบาลที่อายุสั้นมาก

 

Sponsored Ad

 

        ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ทั้ง 2 ฝ่ายหารือ คือ พรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอขั้วที่ 3 หากพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 52 เสียง และพรรคภูมิใจไทย จำนวน 51 เสียง รวมกันจะได้ ส.ส. 103 เสียง ที่สามารถไปเชื้อเชิญพรรคการเมืองต่างๆ มาร่วมรัฐบาล เพื่อเป็นทางออกของประเทศในเวลานี้ เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ขั้วที่ 1 และขั้วที่ 2 ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ โดยเฉพาะคนในพรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นไปหลายทิศทาง อาทิ ไม่สามารถไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้ บางกลุ่มก็ไม่สามารถสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ รวมทั้งบางคนยังสนับสนุนให้เป็น ฝ่ายค้านอิสระ

 

Sponsored Ad

 

        ขณะที่ทางฝั่งพรรคภูมิใจไทย ก็พบปัญหาหลากหลายไม่ต่างกัน หลังจากการรับฟังความคิดเห็นของส.ส. ระหว่างการประชุมที่จังหวัดบุรีรัมย์เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยพบว่า ส.ส.บางคนเกรงว่าไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ก็จะมีปัญหาในพื้นที่เพราะมีกระแสต่อต้านทหาร หรือบางคนก็บอกว่าไปร่วมรัฐบาลกับฝ่ายไหนก็ได้แต่ขอให้สามารถผลักดันนโยบายแก้ปัญหาปากท้อง และทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบได้ก็พอ

 

Sponsored Ad

 

        รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ทั้งนี้การหารือเรื่องขั้วที่ 3 ดังกล่าวนี้ นายอนุทิน และนายเฉลิมชัย จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับพรรคของตัวเอง ว่าเห็นด้วยกับแนวทางนี้หรือไม่ พร้อมทั้งรับฟังกระแสสังคมควบคู่กันไปในช่วงนี้ ว่าจะขานรับแนวทางขั้วที่ 3 ด้วยหรือไม่ 

        หากประชาชนเห็นด้วยและสนับสนุนไปให้ตลอดรอดฝั่ง ก็เชื่อว่าโอกาสของขั้วที่ 3 ด้วยจำนวนตั้งต้น 103 เสียง จะมีโอกาสเดินหน้าไปได้ที่จะชักชวนพรรคการเมืองต่างๆ มาจัดตั้งรัฐบาล แต่หากสังคมไม่เห็นด้วย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ก็แยกย้ายไปตามแนวทางของตัวเองหรือเงื่อนไขที่เปิดรับในการร่วมรัฐบาลหรือสุดท้ายต้องเป็นฝ่ายค้าน

ข้อมูลและภาพ จาก thairath / sanook

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ