เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของจีนมีผู้หญิงแกร่งคนหนึ่งที่มีชื่อเสียง นั่นคือคุณหญิงกุ้ยเจินจากตระกูลซ่งนั่นเอง ลูกสาวทั้งสามของเธอต่างสมรสกับบุคคลที่มีชื่อเสียงทุกคน 

        โดยลูกสาวคนแรก ซ่งอ่ายหลิง สมรสกับมหาเศรษฐี ข่งเสียงซี ลูกสาวคนกลางสมรสกับประธานาธิบดีซุนยัดเซ็น ส่วนลูกสาวคนเล็กก็สมรสกับประธานาธิบดี เจียงไคเชค เช่นเดียวกัน

        ถึงแม้ว่าลูกสาวทั้งสามคนจะมีความสามารถ แต่ผู้คนกลับให้ความสนใจกับลูกสาวคนเล็ก ซ่งเหมยหลิง มากกว่า เพราะเธอได้สร้างผลงานด้านการเมืองในช่วงสงครามไว้ไม่น้อย หลายคนต่างยอมรับในความสามารถของเธอ

        เธอเรียนหนังสือที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่วัยเด็ก หลังจากที่เรียนจบกลับประเทศ เธอจึงมีบุคลิกและแนวคิดที่แตกต่างจากคนทั่วไป ในช่วงเกิดสงครามเธอยังได้เข้ารับราชการเป็นผู้สั่งการในกองทัพอากาศอีกด้วย 

        และยังเคยขึ้นกล่าวสุนทรพจน์แก่แฟรงคลิน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาในยุคนั้นอีกด้วย การกล่าวสุนทรพจน์ของเธอดูสง่ามั่นใจ ใช้ภาษาเรียบง่ายชัดเจน ทำให้คณะทูตระดับสูงต่างให้ความสนใจ

        สื่อต่างๆในอเมริกาก็ให้ความสนใจเธอไม่น้อย มีชาวอเมริกันหลายคนต้องการพบเธอ และมีผู้หญิงอเมริกันหลายคนที่แต่งตัวเลียนแบบเธอ ขณะที่เธอพำนักอยู่ในสหรัฐอเมริกา เธอมีความเคยชินที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่งนั่นคือ ทุกวันเธอต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนไม่ต่ำกว่า 3-7 ครั้ง และผ้าปูยังต้องทำจากผ้าไหมแท้เท่านั้นอีกด้วย

        จึงมีสื่อข่าวจากฝ่ายตรงข้ามที่ทำบทความโจมตีเธอ เขียนว่าเธอมีนิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย พิถีพิถันแม้กระทั่งกับผ้าปูที่นอน ทั้งที่ในเวลานั้นประชาชนมีความเป็นอยู่ยากจนมาก และยังบอกว่าเธอไม่ได้เป็นคนดีเหมือนอย่างที่ใครคิด แต่ซ่งเหมยหลิงไม่เคยสนใจคำต่อว่าเหล่านั้นเลย

        ในเวลานั้นผู้คนต่างให้ความสนใจและตำหนิเธอ โดยเฉพาะนักการเมืองและสื่อข่าว มีนักข่าวคนหนึ่งได้เดินทางไปสอบถามเลขาส่วนตัวของเธอที่ชื่อ ขงลิงข่าน

        เลขาส่วนตัวได้แสดงสีหน้าไม่พอใจนักเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องนี้ แต่เขาก็ได้อธิบายถึงเหตุผลว่า อันที่จริง ซ่งเหมยหลิง ป่วยเป็นโรคหัดเรื้อรังชนิดหนึ่ง มักเกิดอาการแพ้ตามผิวหนังร่างกาย หากผิวหนังสัมผัสผ้าฝ้ายก็จะอักเสบ บวมคัน และรู้สึกทรมานมาก ซึ่งโรคนี้รักษาหายได้ยาก แพทย์แนะนำให้ประคองอาการไม่ให้อาการกำเริบ ต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นประจำ และใช้ผ้าปูที่นอนแบบผ้าไหมแท้เท่านั้น

        ด้วยเหตุผลข้อนี้จึงทำให้ผู้คนต่างเลิกสงสัยในตัวเธอ จนในเวลาต่อมาสื่อทั้งหลายก็เลิกสนใจเรื่องนี้ไป ส่วนคนรุ่นหลังก็ได้ยกย่องเธอว่าเป็นวีรสตรีที่เคยสร้างผลงานเพื่อประเทศชาติมาหลายครั้ง

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR