เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับการถงเถียงและวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก หลัง เจ้าชายแฮร์รี่ และดัชเชสเมแกน ประกาศขอลดบทบาทการเป็นสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูง และขออิสระในการทำงานหาเงินเองโดยไม่ต้องพึ่งเงินหลวง จนควีนเอลิซาเบธที่ 2 ต้องเรียกประชุมพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อหารือในเรื่องนี้ เรียกได้ว่าอาจพลิกหน้าประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษเลยทีเดียว

        แต่ในความเป็นจริงแล้ว ราชวงศ์อังกฤษไม่ใช่ที่แรกที่ถูกตั้งคำถามเรื่องการที่สมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงจะออกมาทำงานหาเงินเอง และในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา สมาชิกราชวงศ์ในยุโรปบางคนสามารถเปลี่ยนผ่าน จากการใช้ชีวิตแบบในรั้วในวังไปสู่ชีวิตทำงานแบบคนยุคใหม่ได้สำเร็จ แม้บางรายจะไม่ราบรื่นนักก็ตาม

1. เจ้าชายคอนสแตนติน และเจ้าหญิงลอเรนทีน แห่งเนเธอร์แลนด์

        เจ้าชายคอนสแตนติน พระอนุชาในสมเด็จพระราชาวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ กับพระชายาคือ เจ้าหญิงลอเรนทีน ถูกยกให้เป็นตัวอย่างของสมาชิกชั้นสูงในราชวงศ์ ที่ประสบความสำเร็จในการทรงงานหาเงินเยี่ยงสามัญชน โดยทั้งสองพระองค์ต่างทรงงานด้วยกันทั้งคู่ แม้ว่าการที่สมาชิกราชวงศ์เนเธอร์แลนด์ทรงงานเอกชนและหารายได้ด้วยพระองค์เอง เป็นเรื่องที่ไม่ได้รับอนุญาตตามรัฐธรรมนูญ

        แต่ตามการเปิดเผยของนายริค เอเวอร์ส ผู้สื่อข่าวในพระราชสำนักเนเธอร์แลนด์ ทั้งสองพระองค์ได้ทรงงานหลังจากยอมตกลงเงื่อนไขบางประการคือ แม้จะใช้ชีวิตห่างจากราชบัลลังก์ แต่ก็ต้องพร้อมที่จะกลับมาเมื่อบังลังก์ต้องการ ทั้งสองพระองค์ต้องวางเรื่องอื่นทุกอย่าง และเมื่อทำงาน ให้ติดต่อกับรัฐบาลและสมเด็จพระราชาธิบดี และราชวงศ์ เพื่อบอกกล่าวว่าทั้งคู่มีแผนอย่างไรด้วย

เจ้าหญิงลอเรนทีน และ เจ้าชายคอนสแตนติน แห่งเนเธอร์แลนด์

        เจ้าชายคอนสแตนตินและเจ้าหญิงลอเรนทีน ทรงงานให้กับคณะวิจัยนโยบายต่างประเทศ และทรงงานแบบไม่เต็มเวลากับกระทรวงต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ด้วย โดยเจ้าชายคอนสแตนตินแทบไม่เคยปรากฏพระองค์ในงานสาธารณะในฐานะสมาชิกราชวงศ์เลย

        นอกจากนี้ เจ้าชาย ฟริโซ พระเชษฐาในเจ้าชายคอนสแตนติน ก็ทรงงานกับเอกชนเช่นกัน หลังจากทรงได้รับปริญญาวิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศ พระองค์ก็ได้ทำงานกับบริษัทเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม แต่น่าเศร้าที่เจ้าชายฟริโซ สิ้ น พ ร ะ ช น ม์ ในปี 2555 หลัง ป ร ะ ส บ อุ บั ติ เ ห ตุ ระหว่างทรงสกีบนเทือกเขาแอลป์ และถูก หิ ม ะ ถ ล่ ม ทั บ

เจ้าหญิงมาร์ธา หลุยส์ แห่งนอร์เวย์ กับนาย ดูเรค แวร์เรตต์ เพื่อนชายคนสนิท

2. เจ้าหญิงมาร์ธา หลุยส์ แห่งนอร์เวย์

        เจ้าหญิงมาร์ธา เป็นพระราชธิดาองค์โตในสมเด็จพระราชาธิบดี แฮรัลด์ ที่ 5 ทรงสละฐานันดรศักดิ์หลังเสกสมรสในปี 2545 เพื่อทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม เธอกลับถูกครหาว่า ใช้ประโยชน์จากตำแหน่งเดิมของตัวเองในการแสวงหากำไร โดยเมื่อปีก่อน เธอกับเพื่อนชายคนสนิทคือ ดูเรค แวร์เรตต์ ซึ่งเป็นคนทรงเจ้า จัดงานสัมนาภายใต้ชื่อว่า “เจ้าหญิงและคนทรง” (The Princess and the Shaman) จนเธอต้องออกมาขอโทษ และสัญญาว่า จะไม่ใช้ตำแหน่งเจ้าหญิงในงานต่อๆ ไปอีก

        แต่ถึงแม้จะสูญเสียฐานันดรศักดิ์ไปแล้ว นักข่าวในพระราชสำนักนอร์เวย์ เจมส์ เทย์เลอร์ เผยว่า มาร์ธายังคงปรากฏตัวในงานสาธารณะของสมาชิกราชวงศ์บางงานด้วย

เจ้าหญิงมาเดลีน แห่งสวีเดน, นายคริสโตเฟอร์ โอนีล สามี และเจ้าหญิงเลโอนอร์ พระธิดา

3. คริสโตเฟอร์ โอนีล สามีเจ้าหญิงมาเดลีน แห่งสวีเดน

        นายคริสโตเฟอร์ โอนีล สามีชาวอเมริกันเชื้อสายอังกฤษ ของเจ้าหญิงมาเดลีน พระราชธิดาองค์เล็กในสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ แห่งสวีเดน เลือกที่จะไม่รับตำแหน่งในราชสำนัก หลังทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2556 เพราะเขาต้องการใช้ชีวิตแยกเป็นอิสระจากราชวงศ์ และทำงานหารายได้ด้วยตัวเอง

        ปัจจุบัน คริสโตเฟอร์ยังคงทำงานเป็นนักจัดหาเงินทุน ขณะที่เจ้าหญิงมาเดลีนทรงพระกรณียกิจของสมาชิกราชวงศ์ตามเดิม รวมทั้งทำงานในองค์กรไม่แสวงกำไรต่างๆ โดยที่นายคริสโตเฟอร์ได้ไปปรากฏตัวในงานใหญ่ๆ ของราชวงศ์สวีเดนหลายครั้ง

        โรเจอร์ ลุนด์เกรน ผู้เชี่ยวชาญด้านราชสำนักสวีเดน ระบุว่า นายคริสโตเฟอร์ไม่ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่ทำงานหาเงินเองทั้งที่เป็นสมาชิกราชวงศ์ เนื่องจากเขาปฏิเสธตำแหน่งในราชสำนัก ขณะที่คาดว่า ลูกของทั้งคู่จะมีอิสระในการทำงานหาเงินเลี้ยงชีพเองเช่นกัน หลังจากสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ ประกาศถอดฐานันดรศักดิ์ของพระราชนัดดา 5 พระองค์ของพระองค์ไปเมื่อปีก่อน

เจ้าหญิงคริสตินา แห่งสเปน

4. เจ้าหญิงคริสตินา แห่งสเปน

        เจ้าหญิงคริสตินาแห่งสเปน เป็นสมาชิกราชวงศ์สเปนิชพระองค์แรกที่ทำงานหาเงินเอง โดยพระบิดาของพระองค์คือ สมเด็จพระราชาธิบดี ฮวน คาร์ลอส ที่ 1 พระราชทานตำแหน่ง ดัชเชสแห่งปัลมา เด มายอร์กา แด่เจ้าหญิงคริสตินา หลังพระองค์เสกสมรสกับอดีตนักแฮนด์บอลโอลิมปิก อินากี อูร์ดานการิน ในปี 2540

        แต่ในปี 2558 สมเด็จพระราชาธิบดี เฟลิเป ที่ 6 ซึ่งขึ้นครองราชย์ต่อจากคิง ฮวน คาร์ลอส ที่ 1 ถอดถอนตำแหน่งดัชเชสของเจ้าหญิงคริสตินา เนื่องจากพระองค์จะต้องขึ้นศาลไต่สวนในข้อหา ยั ก ย อ ก เงินที่เกี่ยวข้องกับสามีของพระองค์ ซึ่งเจ้าหญิงคริสตินาสามารถยืนยันได้ว่าพระองค์ไม่เกี่ยวข้อง

        อย่างไรก็ตาม 2 ปีหลังจากนั้น นายอูร์ดานการินถูกตัดสินว่ามีความผิด ฐานใช้สถาบัน ‘นูส’ ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงกำไรของเขา ในการ ยั ก ย อ ก เอาเงินมาใช้จ่ายส่วนตัวมูลค่าหลายล้านยูโร ทำให้เขากลายเป็นสมาชิกราชวงศ์สเปนคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูก ตั ด สิ น จำ คุ ก

ข้อมูลและภาพจาก thairath