ธุรกิจให้เช่าเพื่อนหรือญาติ ช่วยเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปในครอบครัวญี่ปุ่น

        ยูอิจิ อิชิอิ มีรูปร่างที่ผอมเพรียว ดวงตาที่อ่อนโยนของเขากำลังจ้องมองคุณมาจากใบหน้าที่ดูเหนื่อยล้า ไม่ต้องสงสัยเลย ด้วยวัย 38 ปี เขามีลูกมากกว่าคนวัยเดียวกันทุกคนที่เขารู้จัก แต่เขาใช้เวลาเพียงราว 4 ชั่วโมงต่อวันกับลูก ๆ และเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าของเขา

        เมื่อ 10 ปีที่แล้ว อิชิอิ ตั้งบริษัทแฟมิลีโรมานซ์ (Family Romance) ขึ้น บริษัทที่ให้บริการเช่า 'เพื่อนฝูงและญาติมิตร' บริษัทนี้มีพนักงาน 2,200 คน ที่ให้บริการแสร้งทำเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ลุงป้าน้าอา ปู่ย่าตายาย ในครอบครัวที่แตกสลาย

        บริษัทนี้และตัวเจ้าของผู้มากเสน่ห์ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นับจากนั้น ความรุนแรงในครอบครัว : ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิตพ่อแม่อเมริกันที่ล่ามขังลูก 13 คนให้อดโซอยู่ในบ้านนานแรมปี หนุ่มอังกฤษรอพบหน้าลูกที่เพิ่งคลอด ก่อนสิ้นใจด้วยโรคมะเร็ง

        ปัจจุบัน นายอิชิอิ เป็น "พ่อ" ของเด็ก 35 คน และเขาบอกกับ บีบีซี ถึงความรู้สึกของการแสร้งเป็นสมาชิกใน 25 ครอบครัว ทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น

        อิชิอิ บอกว่า บริษัทของเขาให้บริการเช่าคนไปแสร้งเป็นพ่อที่มีบุคลิกลักษณะนิสัยต่าง ๆ ทั้ง เจ้าระเบียบ, อ่อนโยน หรือ ภูมิฐาน

        'ปลอมแต่จริง'

        อิชิอิ บอกว่า แนวคิดของการตั้งบริษัทแฟมิลีโรมานซ์ขึ้นมา เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 14 ปีก่อน ตอนที่เพื่อนคนหนึ่งต้องการส่งลูกชายของเธอเข้าสถานรับเลี้ยงเด็กของเอกชน ซึ่งต้องมีการสัมภาษณ์ทั้งพ่อแม่และตัวเด็ก

        เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เขาจึงไปพร้อมกับเธอ

        "มันไม่ได้ผลอย่างที่เราหวังไว้ เพราะเด็กชายและผมดูไม่เหมือนกับเป็นพ่อลูกกันจริง ๆ แต่ผมคิดว่า น่าจะมีอะไรที่น่าสนใจอยู่ในความต้องการเช่นนี้ของครอบครัวก็ได้"

        เขาบอกว่า แฟมิลี โรมานซ์ "เติมส่วนที่ขาดของคนที่ต้องการความช่วยเหลือ"

        "แม้ผมเป็นตัวปลอม แต่ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงนั้น ผมทำตัวเป็นเพื่อนหรือญาติของเขาจริง ๆ"

        ค่าเช่าคนไปเป็นเพื่อนหรือญาติเป็นเวลา 4 ชั่วโมง อยู่ที่ 180 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 5,600 บาท

        เพื่อนหรือญาติให้เช่า

        ลูกค้าของอิชิอิ มีความต้องการที่หลากหลาย

        บางคนอยากจะได้คนรักเพื่อพาไปพบพ่อกับแม่ เพราะด้วยเหตุผลต่าง ๆ พวกเขาไม่สามารถพาคนรักจริง ๆ ไปรู้จักพ่อกับแม่ได้

        ทางบริษัทจึงพยายามจัดหาญาติให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ทั้งความสูง, ผม และวัยที่เหมาะสม

        "คนที่ประสบความยากลำบากในการหาเพื่อน สามารถเช่าเพื่อนได้" เขากล่าว

        "เราแสดงเหมือนเพื่อนจริง ๆ เราไปซื้อของด้วยกัน เดินเล่น คุยกัน"

        มีคนที่ต้องการเช่าคนให้แสดงเป็นคนสำคัญเพื่อร่วมงานเลี้ยง

        บางครั้งผู้สูงอายุเช่าคนมาแสร้งทำเป็นลูกสาว ลูกชาย หรือหลาน ๆ เพื่อทำให้รู้สึกเหมือนกับตอนที่คนเหล่านี้ยังอยู่ หรือความจริงแล้ว พวกเขาไม่เคยมีลูกหลานแต่อยากมี

        อิชิอิ บอกว่า บริการของเขา "ช่วยเติมเต็ม" สังคมที่ทำให้ครอบครัวที่มีพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวรู้สึกว่าไม่สมบูรณ์

พ่อเป็นบทบาทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

        อิชิอิ บอกว่า บทบาทที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด คือ พ่อ

        มีการหย่าร้างราว 200,000 คู่ต่อปีในญี่ปุ่น และหลายครอบครัวมีผู้นำเป็นพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยว

        อิชิอิ บอกว่า เช่นเดียวกับในสังคมอื่น ๆ ครอบครัวพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวเหล่านี้ถูกมองว่าไม่สมบูรณ์ และบริการของเขา "ช่วยเติมเต็ม" ความต้องการของสังคม

        แต่เขากล่าวเพิ่มเติมว่า "ไม่มีนักแสดงคนใดที่แสดงบทนั้นได้กับทุกครอบครัว"

        "[ลูกค้า] บางคน ต้องการพ่อที่อ่อนโยน หลายคนอยากได้พ่อที่เข้มงวด หรือพ่อที่ดูภูมิฐาน เราสามารถจัดให้ได้ ยกตัวอย่าง พ่อที่เข้มงวดอาจจะพูดภาษาถิ่นคันไซ [ซึ่งฟังดูห้วนกว่าภาษาญี่ปุ่นมาตรฐาน]"

        ถ้าลูกยังเล็กอยู่ อาจมีการสร้างเรื่องเพื่อเล่าถึงเหตุผลที่พ่อไม่ได้อยู่กับเขาจนถึงตอนนั้น

        ส่วนที่ยากที่สุดของงานนี้คือตอนที่อิชิอิต้องหาข้ออ้างเพื่อบอกลาเด็กที่เขาแสร้งเป็นพ่อ

        "มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้เด็กเชื่อ มันเศร้าที่ต้องเห็นเด็กร้องไห้ นี่เป็นส่วนที่ยากที่สุด"

        มีการหย่าร้างราว 200,000 คู่ต่อปีในญี่ปุ่น และหลายครอบครัวมีผู้นำเป็นพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยว

ผมต้องเตือนตัวเองเรื่องการมีลูก

        พนักงานของแฟมิลี โรมานซ์ สามารถให้บริการได้เพียง 5 ครอบครัวเท่านั้น แต่นับตั้งแต่อิชิอิก่อตั้งบริษัทของตัวเองมา จนถึงตอนนี้เขาเป็นสมาชิกของครอบครัวต่าง ๆ แล้ว 25 ครอบครัว

        มีเด็กรวม 35 คนที่คิดว่าเขาเป็นพ่อตัวจริง และเขาต้องรักษาสัมพันธ์ที่ไม่ใช่เรื่องจริงนี้อีก 69 ความสัมพันธ์ทั้งในสถานะเพื่อนหรือญาติ

        "ผมต้องมั่นใจว่า ผมได้ตรวจสอบข้อมูลของแต่ละครอบครัว ก่อนที่ผมจะไปถึงบ้านพวกเขาในแต่ละวัน ผมมีสมุดจดชื่อของแต่ละคนและรายละเอียดต่าง ๆ ที่ผมต้องรู้" อิชิอิ กล่าว

        "บางครั้ง ผมลืมชื่อเล่นหรือลืมอะไร ผมต้องเข้าไปในห้องน้ำแล้วดูในสมุดที่จดไว้"

        เขาบอกว่า เขาต้องทำหน้าที่ต่าง ๆ ของคนเป็นพ่อแม่ อย่างเช่น การส่งลูกไปโรงเรียนในช่วงเช้า การพบกันบ้างบางโอกาส เล่นกีฬาด้วยกันในช่วงบ่าย และรับประทานอาหารเย็นด้วยกันในตอนค่ำ

        "มีงานหลายอย่าง และผมไม่มีวันหยุดเลย" เขากล่าว

        "ผมกำหนดเวลาส่วนตัวให้ตัวเองช่วงระหว่างเที่ยงคืนถึงตี 3 ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ผมดูหนัง วาดภาพ นั่นคือการพักผ่อนของผม ผมนอนราว 3 ชั่วโมงต่อวัน"

        อิชิอิ บอกว่า ลูกค้าและผู้แสดงจำเป็นต้องรู้วิธีในการแยกเรื่องจริงออกจากเรื่องแต่ง

ธุรกิจและความรู้สึก

        อิชิอิ ไม่ได้แต่งงาน และยังไม่มีลูกของตัวเองจริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ได้อยากมีด้วย

        เขาคิดว่า ถ้าเรามีครอบครัวของตัวเอง เขาคงไม่สามารถตัดสัมพันธ์กับอีก 25 ครอบครัวของเขาได้

        "พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร ถ้าผมแต่งงานกับใครสักคนจริง ๆ" อิชิอิ กล่าว

        "ถ้าผมมีลูกจริง ๆ ผมคงกลัวที่จะเห็นพวกเขาเป็นเหมือนอีกครอบครัวหนึ่งที่รับบทบาท และคงสับสนไปหมด"

        อิชิอิกล่าวว่า แม้ว่าบทบาทที่เขารับจะต้องมีความผูกพันกับครอบครัวและเพื่อน แต่ธุรกิจนี้ก็อยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจร่วมกันระหว่างนักแสดงและลูกค้าถึงข้อจำกัดของความสัมพันธ์ของพวกเขา

        ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาไม่สามารถจูบหรือมีเพศสัมพันธ์กันได้ ทำได้แค่เพียงจับมือ ทางบริษัทเสนอบริการ 30 ประเภท แต่ละประเภทก็มีกฎเกณฑ์ของตัวเอง

        ลูกค้าต้องจ่ายราว 20,000 เยน (ราว 5,600 บาท) ต่อการให้บริการ 4 ชั่วโมง และยังต้องจ่ายค่าเดินทางและอาหารด้วย "มันไม่ถูกเลยสำหรับแม่เลี้ยงเดี่ยว" อิชิอิ กล่าว

        อิชิอิ บอกว่า คนญี่ปุ่น ยังคงให้ความสำคัญกับความคิดของคนอื่นที่มีต่อตัวพวกเขา

ความจริงที่ยากจะยอมรับ

        คำขวัญของแฟมิลี โรมานซ์คือ "ความสุขอยู่เหนือความจริง" แต่ในระยะยาว การปิดบังความจริงเป็นเรื่องยาก

        อิชิอิเล่าเรื่องลูกสาวคนหนึ่งของเขา ซึ่งมีอายุ 20 ปีแล้ว และยังคงเชื่อว่า เขาเป็นพ่อจริง ๆ ของเธอ

        อิชิอิ คิดว่า พ่อแม่ควรเปิดเผยความจริงกับลูกเมื่อถึงเวลาหนึ่ง "แต่ผมไม่สามารถตัดสินใจให้ได้" เขากล่าวด้วยความรู้สึกเสียใจ

        เขาเชื่อว่า สังคมที่ยังคำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่นมากเกินไป "จำเป็นต้องใช้" บริการของเขา

        "วัฒนธรรมญี่ปุ่นมีความโอบอ้อมอารีย์ มีความเคารพ และให้ความสำคัญกับคนอื่น ส่วนที่แย่คือ เรากังวัลมากเกินไปเกี่ยวกับการทำผิดศีลธรรม หรือสิ่งที่คนอื่นจะคิดเกี่ยวกับเรา" เขากล่าว

        "เป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะเป็นในสิ่งที่เราอยากเป็น และแสดงออกในแบบของเรา"

        "คงจะดีกว่านี้ ถ้าสังคมของเราไม่จำเป็นต้องมีบริการแบบนี้ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น"

ข้อมูลและภาพ จาก bbcthai