LIEKR:
หลังจากที่โลกออนไลน์พากันชื่อชมบัณฑิตสาวตามองไม่เห็น แต่มุมานะใช้เวลา 14 ปี ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยจนคว้าปริญญา สมหวังตามตั้งใจ ทำให้รู้ว่า ล้มได้ก็ลุกได้ ไม่มีอะไรที่สำเร็จไม่ได้ถ้ามีความพยายามและอดทน (อ่านเพิ่มเติม : บัณฑิตสาว "ตามองไม่เห็น" ต้องทำงานด้วยเรียนไปด้วย ใช้เวลา 14 ปี จนได้รับพระราชทานปริญญาบัตร)
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่มีหลายคนเข้ามาแสดงความยินดีและชื่นชมอย่างมาก โดยเพจเฟซบุ๊ก "PR Ramkhamhaeng University" ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่าปลื้มปีติเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเช้านี้ บัณฑิตมเหศักดิ์ ความพิการไม่ใช่อุปสรรค คว้าปริญญากฏหมาย ภายใน 4 ปี
Sponsored Ad
นายมเหศักดิ์ วงษ์นอก บัณฑิตนิติศาสตร์ อายุ 40 ปี “จากคนตาดี แต่กลับ แ พ้ ย า จนตามองไม่เห็นตั้งแต่อายุ 12 ปี ทำให้เรียนไม่จบ ป.6 ต้องหยุดเรียนเพื่อรักษาตัว จนอายุ 19 ปีที่ตาบอดสนิท ท้อแท้ที่สุดในชีวิตจนคิดสั้น มีเชือกที่อยู่ในมือกำลังมัดปมด้วยความสิ้นหวัง
แต่ขณะที่กำลังจะตัดสินใจลาโลกก็คิดขึ้นมาได้ว่าหากเรามีชีวิตอยู่ต่อไป อาจจะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้เรามองเห็นอีกครั้งก็ได้ และครอบครัวก็จะได้ไม่มาเสียใจมากๆ ทั้งที่ทุกคนต่างช่วยกันดูแลรักษาเราตลอดมา” หากชีวิตยังมีวันพรุ่งนี้ เราทุกคนก็สามารถทำสิ่งต่างๆ ที่เรามุ่งหวังไว้ให้สำเร็จได้
Sponsored Ad
จากนั้นจึงตัดสินใจไปเรียนที่ศูนย์ส่งเสริมอาชีพคน พิ ก า ร ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อปรับทัศนคติตนเองและเรียนอาชีพนวดแผนไทย เพื่อให้ตนเองได้มีอาชีพไม่เป็นภาระของครอบครัวและสังคม ซึ่งที่ศูนย์แห่งนี้เปิดให้เรียน กศน. ด้วย ตนเองก็เริ่มเรียน กศน. ตั้งแต่ประถมต้นจนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย และก็สำเร็จการศึกษานวดแผนไทย จึงได้มาเปิดร้านนวดแผนไทยเป็นของตนเอง ..จากนั้นก็มุ่งเรียนต่อระดับปริญญาตรี โดยเลือกมาเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้โอกาสทางการศึกษากับคนทุกเพศทุกวัย รวมทั้งคนพิการอย่างผม
Sponsored Ad
ผมเลือกเรียนทางด้านกฎหมาย (นิติศาสตร์) เพราะตั้งใจนำความรู้มาประยุกต์ใช้กับงานที่ทำ แต่ยอมรับว่าคนพิการทางสายตากับการเรียนกฎหมาย เป็นอะไรที่ยากมาก ทั้งต้องท่องตัวบท ประมวลกฎหมาย และอื่นๆ ซึ่งการท่องจำหรือการอ่าน นั้นผมต้องอาศัยซื้อหนังสือมาและให้เพื่อนๆ ช่วยอ่านบันทึกเสียงเพื่อนนำกลับมาฟัง พร้อมกับการดาวน์โหลดคำบรรยายย้อนหลังของอาจารย์แต่ละวิชามาฟังเพิ่มเติมด้วย
ผมใช้เวลาเรียนปี 2558-2561 เรียนอย่างเต็มที่โดยแบ่งเวลาการทำงาน และการเรียน การทบทวน และฝึกทำข้อสอบอย่างสม่ำเสมอตลอดมา แม้จะยากแค่ไหนผมไม่เคยท้อถอยต่ออุปสรรคต่างๆ และจะตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้เสมอว่าปีนี้ผมต้องทำอะไรให้สำเร็จบ้าง เพราะผมเคยผ่านจุดที่แย่ที่สุดมาแล้ว ผมเชื่อว่าหากชีวิตยังมีวันพรุ่งนี้ เราทุกคนก็สามารถทำสิ่งต่างๆ ที่เรามุ่งหวังไว้ให้สำเร็จได้ครับ
Sponsored Ad
.
เช้านี้มีความปลาบปลื้มและภาคภูมิใจ ที่กำลังจะได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะจดจำความรู้สึกปีตินี้ไว้ และจะมุ่งมั่นพยายามดำรงชีวิตให้ดีและทำประโยชน์กับส่วนรวม และขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตทุกท่านที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร เช่นกัน
โพสต์ดังกล่าว
ข้อมูลและภาพจาก เฟซบุ๊ก PR Ramkhamhaeng University