แพทย์ชี้! เลี่ยงดื่มน้ำ "สัมผัสปากขวด" เพราะมันสกปรกยิ่งกว่าชักโครก 8,000 เท่า

LIEKR:

สกปรกขนาดนี้ต่อไปไม่ทำแล้ว

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้การพูดคุยถึงเกี่ยวกับ “การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย” ในเครื่องดื่มแต่ละชนิด ซึ่งในรายการของญี่ปุ่นที่ชื่อ《月曜 から夜ふかし》 ได้นำเครื่องดื่ม 6 ชนิดมาทำการทดสอบพบว่า “หลังจากเปิดขวดดื่มแล้วทิ้งไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิ 28 องศา ความชื้น 70% นาน  24 ชม. พบว่าแบคทีเรียจะเพิ่มขึ้นมหาศาล”

    และด้านศาสตราจารย์แผนกศัลยกรรมโรงพยาบาล Chang Gung,เมืองจีหลง ไต้หวัน นายแพทย์ชื่อดังของไต้หวัน “เจียงคุนจวิน”  ก็ทำการวิจัยและทดสอบจากเครื่องดื่ม 5 ชนิด น้ำเปล่า ,ชาข้าวบาร์เลย์,โค้ก,น้ำส้ม,กาแฟ หลังจากเปิดขวดดื่มโดนปากแล้ว ทิ้งไว้ในห้องอุณภูมิทั่วไปประมาณ 24 ชม. โดยพวกเขาควบคุมแบคทีเรียให้อยู่ในระดับประมาณ 600 พบว่า 

 

Sponsored Ad

 

น้ำเปล่า :           จาก 600 เพิ่มถึง 1,100 

ชาข้าวบาร์เลย์: จาก 600 เพิ่มถึง 3,700 

โค้ก:                  จาก 600 เพิ่มถึง 2,493,800

 

Sponsored Ad

 

น้ําส้ม:                จาก 600 เพิ่มถึง 2,503,900

กาแฟ(ผสมนม): จาก 600 เพิ่มถึง 5,175,900

    เมื่อผลการทดสอบออกมาก็ทำให้หลายคนถึงกับตกใจว่าทำไมมันสกปรกขนาดนี้เลยหรอ?  แต่มีเครื่องดื่มชนิดหนึ่งคือ

 

Sponsored Ad

 

    ชาเขียว :  จาก 600 ตกลงเหลือเพียง 490 เท่านั้น  เนื่องจากชาเขียวยังมี “คาเทชิน” อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปริมาณแบคทีเรียลดลงเหลือ 490

 

Sponsored Ad

 

    นายแพทย์ยังออกมาแนะนำว่า หากเทใส่แก้วดื่มจะปลอดภัยกว่า เนื่องจากหากเครื่องดื่มสัมผัสปากของเราโดยตรง แบคทีเรียก็จะติดต่อไปยังเครื่องดื่ม  และเมื่อเราวางเครื่องดื่มไว้บนโต๊ะ ก็จะทำให้แบคทีเรียเติบโตได้มากขึ้นถึง 8,000 เท่า สกปรกยิ่งกว่าชักโครกเสียอีก เพราะชักโครกจะเติบโตประมาณ 400 เท่า

.

     และหากแบคทีเรียมีมากกว่า 100,000 เท่า ก็จะส่งผลต่อระบบลำไส้ได้ จนทำให้ท้องเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ “โปรตีนและน้ำตาล” เพราะนั้นคือสิ่งแวดล้อมที่แบคทีเรียชอบ

 

Sponsored Ad

 

    โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน!!

    ชมคลิป รายการไต้หวัน

    คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<


    ชมคลิป รายการญี่ปุ่น

    คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ที่มา:news.tvbs

แปลและเรียบเรียงโดย Liekr

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ