หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        เรียกได้ว่าเป็นคู่รักที่ทำเอาทุกคนต่างอิจฉากันทั่วบ้านทั่วเมืองสำหรับ "มัม ลาโคนิคส์" ที่ล่าสุดออกมาเปิดตัวหนุ่มคนรู้ใจ ที่มีอายุห่างกันถึง 30 ปี 

        โดยล่าสุด "มัม ลาโคนิคส์" ก็ได้มีโอกาสควง "น้องท็อป" หนุ่มข้างกายวัยละอ่อนมาเปิดความสัมพันธ์ครั้งแรก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow หลังมีข่าวเปิดตัวคบหากับแฟนหนุ่มรุ่นลูก งานนี้จะคบกันจริงหรือสร้างกระแส โดยมัมก็ได้เล่าว่า วันนั้นตนไปช้อปปิ้ง แล้วน้องท็อปก็ไปช้อปปิ้งเช่นกัน โดยน้องท็อปก็เป็นฝ่ายเข้าไปทักพี่มัมก่อน เพราะน้องท็อปเป็นแฟนคลับมัมมานานแล้ว หลังจากน้องท็อปขอถ่ายรูปด้วย มัมก็คิดว่าจะจบไปแค่นั้น ก็พูดคุยกันก่อนที่มัมจะเป็นฝ่ายถามน้องท็อปไปว่า "ตอนนี้น้องทำอะไรอยู่ ถ้าเกิดทำงานเงินเดือนนิดหน่อย ถ้าว่างก็มาทำงานกับพี่ เพราะช่วงนั้นผู้จัดการส่วนตัวลาออกไปพอดี" มัม ลาโคนิคส์ เล่า

        โดย มัม ได้เผยต่อว่า ตนอยากได้น้องท็อปเข้ามาช่วยทำงาน เนื่องจากตนเป็นคนรุ่นเก่าแล้ว ไม่เก่งเรื่องโซเชียล เลยอยากมีเด็กรุ่นใหม่เข้ามาช่วยทำตรงจุดนี้

        และเมื่อถามน้องท็อปว่าพอมาเจอพี่มัมครั้งแรก ความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง เจ้าตัวก็ได้เผยว่า "เราก็ตื่นเต้น เวลาที่เราได้เห็นดาราที่เราชื่นชอบ ตอนแรกเราก็แนะนำว่าเราชอบทำทางด้านนี้ด้วยนะ เราเคยทำเบื้องหลังมาก่อน ทำหนังสั้นมาก่อน แล้วด้วยความที่พี่มัมเป็นผู้ใหญ่ที่โอเพ่นในเรื่องความคิด เขาก็จะยอม เพราะค่อนข้างตามไม่ทันเด็กสมัยใหม่ ก็เลยอยากได้เรามาช่วยเพื่อให้ความต่างระหว่างวัยมันเข้ากัน เดี๋ยวนี้เขาทำอะไรยังไงบ้าง" หนุ่มท็อป กล่าว พร้อมกับเผยอีกว่า ดีใจมากที่ได้มาทำงานร่วมกับพี่มัม เหมือนเป็นโอกาสอย่างหนึ่งที่ตนอยากทำมาตลอด

        อย่างไรก็ตาม หนุ่มท็อปได้อธิบายต่อว่า ตนมีงานประจำทำอยู่แล้ว ซึ่งรับราชการครู สอนภาษาอังกฤษ ซึ่งตนก็จะทำงานประจำทุกวัน ส่วนเสาร์-อาทิตย์ก็จะมาช่วยดูแลคิว ดูแลเรื่องส่วนตัวทั้งหมด เรื่องการกินของพี่มัม

        นอกจากนี้เมื่อถูกถามว่าที่ดึงน้องท็อปเข้ามาทำงานด้วยเพราะน้องหน้าตาดี อย่างนี้เรียกว่าซื้อผู้ชายไหม โดย มัม ก็ได้เผยว่า "ไม่ได้ซื้อนะคะ เพราะเขาทำงานแลกเงิน คือน้องมาทำงาน เราอยากช่วยเขาด้วย เขาก็อยากช่วยเราด้วย เพราะฉะนั้นมันก็แลกกัน เขามาทำงานดูแลเป็นจ๊อบ ๆ ไป เป็นเดือนยังไม่สามารถทำได้ เพราะว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด" มัม ลาโคนิคส์ กล่าว

        แน่นอนว่าการชวนชายหนุ่มมาร่วมงาน มันต้องมีคำครหาต่าง ๆ รู้อยู่แล้วไหมว่าต้องเกิด โดย มัม ก็ได้เผยว่า ตนไม่คิดถึงเรื่องตรงนั้นเลย มันไม่แปลกที่เราจะหาใครสักคนมาอยู่ข้าง ๆ เรา แล้วหน้าตาดี ตนก็อยากหาคนหน้าตาดีมาอยู่ข้าง ๆ แล้วมาร่วมทำงานกับตนด้วย เพราะว่าไปไหนมันก็ดูดี ซึ่งตนไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก แล้วไม่มายด์ด้วยกับคำครหานินทา เพราะว่าตนบริสุทธิ์ใจ ถ้าเกิดคนจะเมาท์ก็เรื่องของเขา มีหลายคนคอมเมนต์มาแรงมากก็มี ซึ่งตนอ่านแล้วปล่อยผ่าน และเมื่อถามด้านหนุ่มท็อปว่ารับได้ไหม เจ้าตัวก็ได้เผยว่า ตอนแรกที่เป็นข่าว ตนก็ไม่เคยเจอ แต่ตนก็ไม่อะไร ศิลปินเป็นข่าวก็คงจะเป็นเรื่องปกติ แต่ก็มีคนเข้ามาถามเยอะ จนตนตอบไม่ไหว แต่สุดท้ายแล้วกำลังใจก็มาจากครอบครัว เพราะว่าครอบครัวตนเข้าใจ ครอบครัวตนรู้ว่าตนทำอะไรอยู่ แล้วพี่มัมก็รู้จักกับครอบครัวตนด้วย

        โดย มัม เล่าต่อว่า ตนก็รู้จักกับครอบครัวน้องท็อปด้วย คุณแม่น้องท็อปให้กำลังใจตลอด ข่าวก็คือข่าว ไม่ต้องคิดมาก ซึ่งจริง ๆ ตนคิดมากหลายเรื่อง คิดแทนน้องท็อปด้วย เพราะน้องท็อปได้รับผลกระทบบ้างบางอย่าง แล้วมันมีอะไรที่ตลกมาก อย่างพวกเรื่องไสยศาสตร์ ถูกกล่าวหาว่าทำมนตร์ดำใส่น้องท็อป และเมื่อถามว่าแล้วทำไหม มัม ก็รีบตอบว่า ทำเป็นที่ไหนล่ะ ทุกวันนี้ธรรมชาติจะตาย ได้มาเพราะความสวยชัด ๆ ไม่เห็นต้องทำของใครเลย

        และเมื่อถูกถามว่า ที่บอกว่าท็อปเป็นแฟนเด็กของพี่มัมจริงหรือไม่จริง มัม ก็ได้ยืนยันว่า "ไม่จริงค่ะ เขาเป็นแค่น้องทีมงานที่เข้ามาช่วยพี่มัมทำงาน" และเมื่อถามหนุ่มท็อปว่า สำหรับท็อปเอง พี่มัมเป็นอะไร โดยเจ้าตัวก็ได้เผยว่า "พี่มัมเป็นศิลปินครับ แล้วตอนนี้ท็อปก็ทำงาน เรียกว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัว" หนุ่มท็อปกล่าว

        และเมื่อถามว่า ออกรายการด้วยกันแบบนี้แกล้งโกหกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันก็ได้ โดย มัม ก็ได้ตอบว่า "อันนี้สัจจะ สัญญาเลยว่าไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ มันมีรูปคู่กับท็อป ตรงกับที่พี่สัมภาษณ์ไป น้องเขาอายุห่างกับพี่ 30 ปี แล้วจริง ๆ พี่ก็มีอีกคนหนึ่งที่เป็นแฟนจริง ๆ แต่มันถ่ายรูปเอาไว้ลึกมากในไอจี แล้วนักข่าวหยิบเอารูปท็อปขึ้นมา มันก็เลยกลายเป็นประเด็น เขาได้รับผลกระทบ" และเมื่อถามว่าแล้วมันกระทบกับงานของท็อปที่เป็นครูอยู่ด้วยไหม เจ้าตัวก็ได้เผยว่า ก็มีกระทบบ้างนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ท้อขนาดนั้น

        และเมื่อถามว่าพอเห็นคอมเมนต์ลบ ๆ น้องเดือดร้อนเพราะเรา รู้สึกผิดไหม มัม ก็ได้เผยว่า ตนรู้สึกผิด เหมือนตนให้น้องเขาเดือดร้อน ตนก็ร้องไห้อยู่วันสองวัน แต่ก็บอกน้องเขานะว่าเสียใจ ร้องไห้ เขาก็บอกว่าอย่าคิดมาก เขาก็ชิล ๆ ไป

        ซึ่งหลายคนก็มองว่ามัมตั้งใจจะดันท็อปเข้าสู่วงการบันเทิง ซึ่ง มัม ก็เผยว่า ไม่ได้ดัน และการที่พาน้องเข้ามาดูแลตน มันเป็นการให้โอกาสมากกว่า ให้โอกาสให้น้องมีรายได้เพิ่ม ไม่มีเรื่องดันเรื่องอะไรเลย แต่ถ้าเกิดน้องเขาสนใจวงการนี้ น้องก็ต้องดิ้นรนด้วยตัวเขาเอง ตนจะไม่ผลักดันอะไรทั้งสิน

        โดย มัม ยืนยันว่า ตนกับน้องท็อป ไม่มีทางพัฒนาเป็นแฟนได้ โดยมัมเผยว่า "ไม่ได้อะ มันรุ่นลูก" แต่เมื่อถามว่าอย่างท็อปใช่สเปกพี่ไหม มัม ก็ได้เผยว่า "ถามกะเทยทั่วโลกใครไม่สเปกบ้าง เขาเป็นที่หมายปอง เขาเนื้อหอมมาก"

        และเมื่อถามว่าท็อปมีสเปกเป็นยังไง เจ้าตัวก็ได้เผยว่า ตนมีความรักไม่เป็น เพราะช่วงนี้ทำแต่งาน งานก็ค่อนข้างหนัก เป็นข้าราชการครู 2 ปี ปีแรกยังไม่ผ่านโปร ซึ่งตนทำงานหนักมาก ไปเช้ากลับเย็น อยู่ในเมืองที่รถติด ใช้เวลาเดินทางไปโรงเรียนก็ค่อนข้างนาน ก็ค่อนข้างเหนื่อย กลับมาก็หลับ ตอนนี้โสด ทุ่มเทให้กับงาน

        สุดท้ายหนุ่มท็อปก็ได้กล่าวถึงพี่มัมว่า ขอบคุณที่ให้โอกาส ที่ให้ตนได้มาทำงานในจุดจุดนี้ มันอาจไม่เต็มเวลา การเป็นผู้จัดการต้องเต็มเวลาจริง ๆ แต่พี่มัมก็ให้โอกาสตน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนใฝ่ฝันมาตั้งแต่มัธยม ตนพยายามทำยังไงก็ได้ให้มาทำงานสายนี้ แต่ทางด้านครอบครัวตนก็รัก ตนทำงานทางด้านราชการมาเพื่อครอบครัว จนตนได้มาถึงจุดบาลานซ์ในจุดนี้ มันทำให้ตนรู้สึกว่าชีวิตมีค่ามากขึ้น โดย มัม ก็ได้กล่าวถึงน้องท็อปว่า สิ่งที่ท็อปทำอยู่ทุกวันนี้ดีแล้ว อยากให้ท็อปเป็นคนดีอย่างนี้ของครอบครัว เพราะว่าพ่อแม่รักท็อปมาก แล้วท็อปก็รักครอบครัวมาก ขอให้ท็อปได้ทำงานที่ดี แล้วขอให้มีสิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิต แล้วขอให้ทำงานกับตนด้วยความราบรื่นไม่มีอุปสรรคใด ๆ

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ที่มา : รายการ คุยแซ่บ Show, Instagram mumlaconics, Instagram topous