เมื่อไม่นานมานี้ในโลกออนไลน์ได้มีการส่งต่อเรื่องราวชีวิตของ "น้องปั๊ม" ด.ช.ธีรวัฌ ทองมั่น อายุ 14 ปี ที่ต้องหยุดเรียนมาดูแล นายทึม ทองมั่น อายุ 72 ปี และ นางพิม ทองมั่น อายุ 62 ปี ปู่และย่าที่ป่วย

        จากการสอบถาม นายสมาน บุตรทองดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 บ้านศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า นางพิม แขนขาอ่อนแรงตั้งแต่ปี 2557 ส่วนนายทึมหลังค่อม ก่อนหน้านี้ก็จะพาน้องปั๊ม ไปหาปลามาเป็นอาหารกินกันในครัวเรือน จนกระทั่งอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่สามารถลุกเดินไปไหนได้ สำหรับรายได้หลักของครอบครัวนี้ จะมีรายได้จากเงินผู้สูงอายุ ตอนแรกย่าป่วยเพียงคนเดียว น้องปั๊มก็ยังเรียนหนังสือได้ ต่อมาปู่ป่วยอีกคน น้องปั๊ม จึงต้องหยุดเรียน เพื่อมาคอยดูแลปู่และย่า ส่วนบิดาและมารดาของน้องปั๊มแยกทางกัน ยังสามารถติดต่อได้อีก

        นายสมาน กล่าวต่อว่า ทางหมู่บ้านเคยละเลยครอบครัวนี้ ทาง อสม. ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก คอยมาดูแลตลอด ล่าสุด นายพิพัฒน์ เอกพาพันธ์ ผวจ.พิษณุโลก และ นายอัครโชค สุวรรณทอง นายอำเภอบางระกำ ได้เดินทางมาเยี่ยมพร้อมของสิ่งของอุปโภคบริโภคและเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง และได้สั่งการให้หาหนทางช่วยเหลือ รวมทั้งติดต่อกับบิดาของน้องปั๊ม ให้กลับมาทำงานที่ อบต.นิคมพัฒนา เพื่อจะได้คอยดูแลบิดามารดา

        ขณะที่น้องปั๊มนั้นต้องได้รับการศึกษาต่อ เพื่ออนาคตจะได้มีงานทำ และสามารถดำรงชีพต่อไปได้ เบื้องต้น ผวจ.พิษณุโลก ได้ประสานให้น้องปั๊มไปเรียนต่อที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 23 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย และมอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้าน ปลัดอำเภอบางระกำ และนายก อบต.นิคมพัฒนา เปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคเงินช่วยเป็นทุนการศึกษาให้กับน้องปั๊ม

        ส่วนข้าวสารอาหารแห้ง ให้ทางอำเภอบางระกำนำมาช่วยเหลือทุก 10 วัน และให้ อสม.มาคอยดูแลช่วงน้องปั๊มเปลี่ยนผ้าอ้อม เปลี่ยนแพมเพิร์สให้กับนายทึม และนางพิม จนกว่าบิดาของน้องปั๊ม จะเดินทางกลับมาที่บ้าน

        ด้านน้องปั๊มเปิดเผยว่า ตนอยากเรียนหนังสือต่อ หากมีเงินทุนการศึกษาก็คงจะได้เรียนสูงขึ้น ตอนนี้มีวุฒิแต่ชั้น ป.6 เท่านั้น คงทำงานอะไรไม่ได้ ตอนแรกคิดอยากเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์รถไถเดินตาม เพื่อจะได้อยู่บ้านคอยดูแลปู่และย่า แต่ผู้ใหญ่บ้านแนะนำว่า หากเรียนสูงขึ้น อนาคตอาจสอบเข้ารับราชการตำรวจหรือทหารได้ ชีวิตก็จะมีความมั่นคงมากขึ้น

ที่มา : thairath, naewna