หนุ่มโร่หาหมอ นอนเล่นมือถือผิดท่า รู้ตัวอีกทีอาการหนัก กระดูกสันหลังได้รับความเสียหาย

LIEKR:

ใครที่ติดโทรศัพท์ นอนเล่นนานๆต้องดูไว้นะคะ

    เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ รายงานว่า ชายชาวจีนแซ่หลี่ (ไม่เปิดเผยนาม) วัย 39 ปี ผู้อาศัยอยู่ในมณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของประเทศจีน เร่งเดินทางไปโรงพยาบาล หลังจากตื่นนอนขึ้นมาแล้วพบว่าหายใจลำบากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 

    โดยแพทย์ได้ตรวจร่างกายของหลี่อย่างละเอียด จนพบว่าเขามีอาการกระดูกทับเส้น อันเนื่องมาจากนั่งเอนหลังเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา ในท่าที่ไม่เหมาะสม ติดต่อกันวันละหลายชั่วโมง จนหมอนรองกระดูกบริเวณกระดูกสันหลังได้รับความเสียหาย

 

Sponsored Ad

 

ภาพจาก guangming.com

    รายงานระบุว่า หลี่เป็นคนที่ติดโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างมาก เขามักจะเอนหลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนโซฟาอยู่เป็นประจำ ด้วยท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน และอยู่ในท่านั้นติดต่อกันหลายชั่วโมงโดยไม่ได้ลุกไปไหน เป็นแบบนี้ติดต่อกันทุกวัน ในบางครั้ง หลี่เล่นโทรศัพท์ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนถึงตอนเข้านอน เอนหลังจิ้มหน้าจออยู่บนโซฟาแบบนั้นมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน จนมันส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของเขา โดยที่เขาไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ 


 

Sponsored Ad

 

    แพทย์เจ้าของไข้ผู้ดูแลหลี่ เปิดเผยว่า แม้ว่าอาการของหลี่จะน่ากังวล แต่เขาก็มาพบแพทย์ได้ทันท่วงที ยังสามารถรักษาให้หายได้ แต่ถ้าเขาปล่อยให้แบบนี้ต่อไป เขาอาจกลายเป็นอัมพาตได้ในระยะเวลาไม่นาน และเมื่อถึงตอนนั้นทุกอย่างก็สายเกินแก้ โอกาสที่จะกลับมาเป็นปกตินั้นยากมาก แพทย์ยังกล่าวอีกว่า ในทุกวันนี้ผู้คนติดการเล่นสมาร์ตโฟนมากขึ้น และมักจะก้มหน้าเล่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อพวกเขาก้มหน้าในระดับที่ต่ำกว่า 60 องศา ต้นคอก็จะตึง ราวกับว่านำน้ำหนัก 27 กิโลกรัมมาถ่วงเอาไว้ ส่งผลให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ

 

Sponsored Ad

 

ภาพจาก guangming.com

    แพทย์กล่าวว่า เวลาเล่นโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต ไม่ว่าจะเป็นการแชต ดูหนัง ดูคลิป อ่านข่าว เล่นเกม หรืออื่น ๆ แนะนำให้ยกหน้าจอให้สูงขึ้นมาในระดับสายตา เพื่อไม่ให้ศีรษะก้มลงต่ำเกินไปจนได้รับความเมื่อยล้า และไม่ควรนั่ง หรือนอนเล่นโทรศัพท์มือถือในท่าเดียวตลอดเวลา โดยไม่ได้ขยับร่างกาย นอกจากนี้แล้ว แพทย์ยังแนะนำให้เปิดโหมดกลางคืนบนโทรศัพท์มือถือ ปรับแสงหน้าจอลง หรือลดความสว่างไม่ให้มากเกินไป เพื่อเป็นการถนอมสายตา ไม่ให้สายตาล้าจากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน 

ข้อมูลและภาพจาก worldofbuzz, kapook

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ