"เอ็ม บุษราคัม" เปิดใจใช้เงินเกินตัว เป็นหนี้บัตรครึ่งล้าน ต้องขอร้องให้พ่อช่วยปิดหนี้ ซึ้งใจพ่อไม่ด่าสักคำ

LIEKR:

#เอ็มลูกสาวหม่ำ เล่าชีวิตลูกตลกที่ไม่ตลก เหลิงใช้เงินเกินตัว จนเป็นหนี้บัตรครึ่งล้าน ต้องขอให้พ่อช่วย

    เป็นอีกหนึ่งลูกสาวตลกชื่อดังที่ทั้งเก่ง ทั้งสวยมากๆเลยก็ว่าได้ สำหรับ เอ็ม บุษราคัม ลูกสาวของหม่ำ จ๊กมก ที่ล่าสุด ออกมาสารภาพ เป็นคนใช้เงินเก่ง จนเป็นหนี้บัตรเครดิตครึ่งล้าน ใช้หนี้ไม่ไหว จนพ่อหม่ำต้องเข้ามาช่วยเคลียร์บัตรให้

     โดยสาวเอ็มเปิดใจว่า "เอ็มเป็นคนที่ใช้เงินเก่ง และเคยผิดพลาดทางการใช้เงิน ใช้เงินเกินตัว ยอมรับว่าเป็นคนที่เหลิงมาก ด้วยความที่คุณพ่อเป็นดาราได้เงินมาง่าย เราก็ได้รับอิทธิพลส่วนนี้มาว่า เราใช้เงินออกไป เดี้ยวก็เข้ามาใหม่ 

 

Sponsored Ad

 

    มันก็เลยใช้เงินเกินตัว จนเป็นหนี้บัตรเครดิตเยอะมาก 4-5 แสน จนต้องไปขอให้คุณพ่อเคลียร์ให้ แล้วพ่อก็ไม่ด่าสักคำ เราแทบกราบอยากให้พ่อด่าเลย เราอยากให้พ่อด่าเราสักหน่อย เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่าเขาคิดอะไรอยู่ ทำไมเขาไม่ว่า ทำไมเขาไม่สอน เหมือนตลอดระยะเวลาเขาสอนเรามาตลอดแล้วว่าอย่าใช้เงินแบบนี้ ให้สำรองตัวเองไว้ วันนึงไม่สบายเรายังมีเงินไว้รักษา

 

Sponsored Ad

 

    และยุคนี้เราไม่สามารถมีอาชีพเดียวได้ เราต้องมีหลายๆ อาชีพ ต้องทำหลายๆ อย่าง บางครั้งสิ่งที่เราชอบอาจจะไม่ได้ทำเงินให้เรา สิ่งที่ทำเงินให้เราอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ เพราะฉะนั้นแล้วทำควบคู่ไปด้วยจะดีกว่า แล้วก็ถ้าไม่มีก็ใช้อย่างประหยัด ไม่อยากให้ใช้เกินตัว เอ็มเคยเป็นมาแล้ว เอ็มรู้ว่ามันลำบาก"

    นอกจากนี้สาว "เอ็ม บุษราคัม" ยังได้ควงน้องชาย " มิกซ์ เพทาย" เปิดใจชีวิตการเป็นลูกตลก "หม่ำ จ๊กมก" ที่ไม่ตลกรู้สึกเหมือนโดนจับจ้องตลอดเวลา 

 

Sponsored Ad

 

    สาวเอ็มเผยว่า "มันยากมากกับการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเดินไปไหน เหมือนมีไฟมาส่องตลอด ทุกคนรู้จักเรา จะทำอะไรทุกคนจะคอยจ้อง ถูกหรือเปล่า ผิดหรือเปล่า ทำไมลูกพี่หม่ำทำแบบนี้ คือมันเหมือนมีบรรทัดฐานของพ่อ เอาง่ายๆ มีเงาและรอยเท้าของพ่ออยู่แล้ว เราไม่สามารถเหยียบให้มันเท่ารอยเท้าพ่อได้ 

    แต่พอโตขึ้นมา เอ็มเปลี่ยนมุมมอง คนจะมองว่าเราจะต้องเหมือนพ่อ ต้องตลกเหมือนพ่อ แต่ธรรมชาติแล้วไม่มีใครเก่งเหมือนกันหรอก ออกมาจากท้องพ่อ ท้องแม่ ไม่ได้หมายความว่าเอ็มต้องเป็นตลกเอ็มอาจจะถนัดทางอื่นก็ได้ เอ็มอยากให้มองที่ความสามารถของแต่ละคน อย่างเอ็มชอบพูด เอ็มอยากเป็นพิธีกร น้องชอบร้องเพลง ซึ่งอย่างเมื่อก่อนจะโดนดูถูกเยอะ"

 

Sponsored Ad

 

    "โดยเฉพาะช่วงที่เอ็มเข้ามาทำหนังเรื่องแรก แรงกดดันก็จะเยอะมากว่าจะ 100 ล้านเท่าพ่อหรือเปล่า จะทำได้เท่าพ่อไหม ไปเรียนมาต้องดีกว่าพ่อสิอะไรอย่างนี้ ซึ่งมันกดดันมาก ทุกครั้งที่เอ็มไปออกกอง เอ็มร้องไห้ตลอด ไม่เอ็นจอย รู้สึกว่ามันกดดันมากเลย มันเหมือนเราไม่ได้เป็นตัวเอง เหมือนเราต้องเป็นเอ็มลูกหม่ำ มันไม่ใช่เอ็ม บุษราคัม แค่ตอนนี้ดีเพราะทุกคนสามารถรู้จักเอ็ม บุษราคัม ได้แล้ว ไม่มีลูกหม่ำมาต่อท้ายแล้ว"

 

Sponsored Ad

 

เมื่อพิธีกรถาม สรุปดีไหมนะ ได้เกิดเป็นลูกพี่หม่ำ? 

    เอ็มบอกเลย "ดีทุกตรง..อาจจะมีบ้างตอนเด็กๆ โดนล้อ แต่พอเราโตมา ดีทุกตรง ภูมิใจในความเป็นพ่อ เพราะคนรักพ่อเยอะมาก ทำให้พลังรักที่คนส่งมาให้พ่อ ส่งต่อมาถึงเอ็ม ถึงน้อง ไม่ว่าจะหยิบจับอะไร ยอมรับเลยว่ามีคนสนับสนุน เพราะเขารักพ่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หลายคนจะอิจฉาว่าเราสองคนไม่ได้เริ่มจากศูนย์ เก่งจริงต้องเริ่มจากศูนย์สิ ซึ่งจริงๆ แล้วเอ็มมองว่านี่เป็นข้อดีของเอ็ม แล้วเอ็มต้องมองเห็นข้อดีของเอ็มให้ได้ เพื่อที่จะเอาต้นทุนชีวิตที่ดี ไปทำให้กำไรชีวิตเอ็มดีด้วย"

 

Sponsored Ad

 

    เรื่องคนที่คิดจะเขามาหาผลประโยชน์เอ็มบอก "เยอะมาก มาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน อยากจะมาเป็นแฟน อยากมาทำธุรกิจด้วย ทุกคนล้วนมีอะไรในใจทุกคน อยากได้อะไรจากพ่อเรานี่แหละ อยากให้พ่อเอาเขาไปเล่นหนัง หรืออยากจะเข้ามาถ่ายอะไรกับพ่อ แต่ส่วนใหญ่จะมาหาเรา เพราะอยากพุ่งไปหาพ่อ แต่เอ็มบอกตรงๆ ว่าเอ็มเป็นคนทันคน เอ็มเป็นห่วงน้องมากกว่า"

Sponsored Ad

    ขณะที่น้องชายอย่างมิกซ์ ก็เปิดเผยว่า "บางทีก็มีคนเข้ามาทางพ่อ ทางแม่ แล้วมาทำดีกับเรา แต่เราก็มองเห็นและดูออก แต่ก็ไม่บอกพ่อ แค่มองหน้าเฉยๆ"

    สาวเอ็มยังตบท้ายอีกว่า บางคนน่ากลัวมาก จู่ๆเดินมาขอเงินก็เคย โดยเอ็มเล่าว่าครั้งหนึ่งมีคนไม่รู่จัก มากดออกตอนเที่ยงคืน เพื่อขอยืมเงิน 10,000 บาท ขณะที่มิกซ์บอกเคยเจอคนมาที่บ้านเหมือนกัน บอกมาหาหม่ำ อยากมาทำด้วย น่ากลัวมาก บางทีก็หาที่อยู่เราเจอได้ไงก็ไม่รู้

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : คุยแซ่บโชว์

บทความที่คุณอาจสนใจ