ไม่ใช่แค่มวยดี แต่เรียนเก่งมาก! เปิดประวัติการศึกษา "บัวขาว บัญชาเมฆ" จบป.เอก ตั้งแต่ 35ปี!

LIEKR:

อีกเรื่องที่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับ "บัวขาว บัญชาเมฆ" ถึงจะโด่งดังขนาดไหน เขาก็ไม่เคยทิ้งการเรียน!

        ถ้าเราจะกล่าวถึงสายชกที่เรียกว่าเป็นตัวท็อปของประเทศไทยแล้ว แน่นอนว่าชื่อ "บัวขาว บัญชาเมฆ" คือยืนหนึ่งมาตั้งแต่ไกลเลยจริงๆ และนอกจากเรื่องสังเวียนที่เขาช่ำชองแล้ว อีกเรื่องที่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับ เจ้าของฉายา "ดำดอทคอม" คนนี้ก็คือไม่เคยทิ้งเรื่องการเรียนเลยนั่นเอง

        ในครั้งนี้ เราก็เลยจะพาทุกคนมาดูอีกมุมของ บัวขาว บัญชาเมฆ ในมุมมองเรื่องการเรียนของเขากันสักหน่อย ต่อยเก่งแบบนี้ ก็ถอยใบปริญญามาแล้วทั้ง ป.ตรี ป.โท ป.เอก เลยทีเดียว!

 

Sponsored Ad

 

        ประวัติ การศึกษา บัวขาว บัญชาเมฆ

        ร้อยตรี สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ เกิดวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 เป็นชาวไทย เชื้อสายกูย เขาเกิดที่อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ จากนั้น เขาได้เข้ากรุงเทพ เมื่ออายุ 15 ปี โดยนอกจากการขึ้นชกแล้วเขาก็ยังใช้เวลาที่เหลือในการศึกษา หาความรู้ใส่ตัว 

 

Sponsored Ad

 

        โดยในปี 2556 นั้น เขาได้เข้ารับปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาโท) สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เป็นผู้พระราชทานปริญญาบัตร

        ถัดมาในปี 2557 เขาได้เข้ารับ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอก) สาขาวิชายุทธศาสตร์ การพัฒนาภูมิภาค (กลุ่มการศึกษาและจัดการภูมิปัญญา) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ โดย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นผู้พระราชทานปริญญาบัตร

 

Sponsored Ad

 

        และในปี 2560 ที่ผ่านมา เขาได้เข้ารับ ปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิต (ปริญญาตรี) : บธ.บ. คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต โดย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นผู้พระราชทานปริญญาบัตร

 

Sponsored Ad

 

        นอกจากนั้นเขายังเป็น อาจารย์พิเศษ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และยังเป็น อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ อีกด้วย

        ซึ่งเราต้องบอกเลยว่า บัวขาว บัญชาเมฆ เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรื่องการทำให้สิ่งที่ตัวเองถนัดและชอบ และยังเป็นตัวอย่างที่ดีต่อเยาวชน เรื่องการนำความสามารถที่มีมาใช้และผลักดันตัวเองเรื่องการเรียนจนสามารถคว้า ใบปริญญาทั้ง ตรี โท และ เอก มาได้ภายในอายุ 35 ปีนั่นเอง


ข้อมูลและภาพจาก sanook

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ