หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร แต่ก็ไม่ใช่สำหรับทุกคนเสมอไป เช่นเดียวกับสาวช่างแต่งหน้าคนนี้ ที่เธอตั้งใจทำงานแต่งหน้าทำผมให้กับเจ้าสาวรายหนึ่งในวันแต่งงาน ภายหลังทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่จู่ๆ กลับโดนกล่าวหาเป็น โ จ ร ข โ ม ย เงินสินสอด แถมโดนขูว่าจะเอาเรื่องถึงที่สุด หากไม่เอาเงินไปคืน แต่เธอจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อไม่ได้เอาเงินดังกล่าวไป

        โดยเมื่อเร็วๆ นี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Oum Pathiyaphon ได้โพสต์เล่าเรื่องราวอุทาหรณ์สำหรับช่างแต่งหน้าว่า ในช่วงเช้า ตนกับช่างแต่งหน้าอีกคนได้ไปแต่งหน้าให้เจ้าสาวคนหนึ่ง เมื่อทำงานเสร็จก็กลับมาพัก พอเที่ยงก็ไปแต่งหน้าอีกครั้งให้ทันงานเลี้ยงช่วงเย็น เมื่อทำงานเสร็จก็กลับตามปกติ

        วันรุ่งขึ้น เจ้าาสาวได้โทรมาบอกว่าเงินสินสอดหายไป 1 แสนบาท ใครเอาไปให้เอามาคืนแล้วจะไม่ทำอะไร และยังบอกอีกว่าที่บ้านมีกล้องวงจรปิด มีพ่อเป็นตำรวจยศผู้กำกับและเจ้าบ่าวก็เป็นทนาย

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

        ต่อมาวันที่ 2 เจ้าบ่าวโทรมาบอกว่า ดูกล้องวงจรปิดแล้วบอกว่าตนเป็นคนเอาเงินไป ให้เอาเงินมาคืน ถ้าไม่เอามาคืนจะดำเนินคดี ตนก็ตกใจมากและบอกไปว่า "ไม่ได้เอาไป จะทำอะไรก็เรื่องของพี่"

        ต่อมาวันที่ 3 เจ้าบ่าวโทรมาขอโทษบอกว่าเจอเงินแล้ว ตนก็งง ก่อนหน้านี้ขู่ให้เอาเงินไปคืน บอกมีกล้องวงจรปิดเห็นตนเอาเงินไป พอมาอีกวันบอกเจอเงินแล้ว ส่วนตัวคิดว่าเขาขอโทษแล้วก็โอเค แต่ความรู้สึกพังมากๆ เพราะด้วยอาชีพช่างอย่างเรา ไม่ทำให้เสียชื่อเสียงหรอก จึงฝากเตือนคนที่ทำอาชีพเดียวกัน และฝากถึงลูกค้าด้วยว่าห้องแต่งหน้าทำผมไม่ควรเอาของมีค่าวางไว้

โพสต์ดังกล่าว

        นอกจากนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ สัมภาษณ์สาวช่างแต่งหน้า เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตอนแรกตั้งใจจะฟ้องกลับ แต่พี่เขาโทร. มาขอโทษ บอกไม่ตั้งใจ เงินที่หายไปเจอหล่นอยู่ในบ้านเขาเอง ตนก็เลยปล่อยไป แต่อยากฝากเตือนคนทำอาชีพเดียวกัน วิธีการป้องกันตัวคือ ควรบอกลูกค้าก่อนเลยว่า ห้องที่ใช้แต่งหน้าทำผมไม่ควรมีของมีค่า เพราะถ้าหายช่างจะไม่รับผิดชอบ จะได้ไม่เสียความรู้สึกต่อกัน เพราะบางทีห้องนั้น ไม่ได้มีแค่เรากับเจ้าสาวเจ้าบ่าว แต่มีญาติพี่น้อง และเพื่อนคนอื่นๆ อยู่ด้วย

ชมคลิป..

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เฟซบุ๊ก Oum Pathiyaphon, เดลินิวส์ออนไลน์, ทุบโต๊ะข่าว