"น้องแพรพาเพลิน" อดีตเด็กที่โดนมองว่า "แก่แดด" สู่การเป็นช่างแต่งหน้าในงานแฟชั่นลอนดอน!

LIEKR:

เป็นเด็กที่ใฝ่ดีไม่ย้อท้อต่อคำดูถูกจริงๆ ค่ะ

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปที่เกี่ยวข้องได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        หลายคนคงได้ยินข่าวที่น่าภาคภูมิใจว่ามีเด็กไทยอายุแค่ 10 ขวบคนนึงได้รับเกียรติให้ไปเป็นช่างแต่งหน้า หรือ Make-up Artist ในงาน London Fashion Week ครั้งล่าสุดประจำปี 2018 ซึ่งเธอคนนั้นก็คือน้องแพร ณัฏฐนันท์ หรือ น้องแพรพาเพลิน บิวตี้บล็อกเกอร์ตัวจิ๋ว นั่นเอง!

        ณัฎฐนันท์ สนุ่นรัตน์ หรือชื่อเล่น "แพร" อายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนสฤษดิเดช จ.จันทบุรี น้องแพรเล่าเหตุการณืที่ทำให้ได้ไปเข้าร่วมงาน London Fashion Week 2018 ว่า

 

Sponsored Ad

 

        “ตอนแรกครูสอนแต่งหน้าที่กรุงเทพฯ ได้ไปเรียนที่อเมริกาค่ะ คุณแม่เลยอยากให้เราไปเรียนที่นั่นบ้าง ครูพิเศษที่สอนอังกฤษก็สนับสนุนและหาโรงเรียนสอนแต่งหน้าให้ สรุปว่าแพรได้ไปเทกคอร์สสั้นๆ ที่อังกฤษ พอเรียนได้สองวัน ทีชเชอร์ก็ถามเราว่า กำลังจะมีงานแฟชั่นวีก เราอยากไปร่วมด้วยมั้ย?”


        “แพรตื่นเต้นตั้งแต่ทีชเชอร์บอกว่ามีงานนี้แล้วค่ะ 555 พอไปถึงก่อนเข้างานก็มีกลัวๆ บ้าง เพราะเราไม่เคยแต่งหน้าให้นางแบบฝรั่ง กลัวไม่ชินมือ กลัวทำไม่ได้ แต่พอแต่งคนแรกเสร็จก็กลับรู้สึกสนุกแทน (แพรแต่งแค่คิ้วกับตา) บรรยากาศในห้องแต่งหน้าอบอุ่นมากค่ะ ทีชเชอร์แนะนำแพรให้รู้จักพี่ๆ เมกอัพอาร์ติสคนอื่นๆ เขาก็เอ็นดูเรามาก แพรไม่คิดเลยว่าเค้าจะเฟรนด์ลี่ขนาดนี้ คุยกันเล่นกันตลอดเลย” ตอนนั้นมีคนเด็กกว่าเรามั้ย? "แพรเด็กสุดในทีมช่างแต่งหน้าค่ะ แต่นางแบบจะมีคนที่เด็กกว่าแพร"

 

Sponsored Ad

 

        อ่านเพิ่มเติม : ผงาดเวทีโลก! "น้องแพรพาเพลิน" เป็นเมคอัพบนรันเวย์โลกให้แบรนด์ดัง กับสกิลภาษาอังกฤษขั้นเทพ!

 

Sponsored Ad

 

        แพรเล่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตนมาเดินเส้นทางสายเมคอัพให้ฟังว่า “แพรชอบระบายสีอยู่แล้วค่ะ พอมาเจอเกมแต่งหน้าก็เล่น ถึงได้รู้ว่าตัวเองชอบแต่งอะไรบนหน้า จากนั้นก็เปลี่ยนไปดูยูทูบ เลยได้เจอคลิปแต่งหน้ามากขึ้น และมีไอดอลเป็นพี่ๆ บิวตี้บล็อกเกอร์ค่ะ แพรเห็นเค้าแต่งหน้าสวย พูดเก่ง นำเสนอดี พอโตมาเลยรู้ว่าเค้ามีเทคนิคด้วย เราดูแล้วสนุก รู้สึกเพลินไปหมดเลย วันนึงก็เกิดอยากมีช่องทางแชร์เป็นของตัวเองบ้างค่ะ”


        เริ่มแต่งหน้าครั้งแรกตอน 3 ขวบ และจริงจังตอน 7 ขวบ

 

Sponsored Ad

 

        “แพรแต่งหน้าครั้งแรกตอน 3 ขวบ เริ่มจากใช้เครื่องสำอางของคุณป้าค่ะ เพราะคุณแม่ไม่ชอบแต่งหน้า แรกๆ ยังแต่งไปเรื่อย คิดจะแต่งอะไรก็แต่ง แต่มาตั้งใจและเป็นการเป็นงานมากขึ้นตอน 7 ขวบ เพราะได้ไปเรียนแต่งหน้า ทำให้เขียนคิ้วสวยขึ้น แต่งตาเท่ากันมากขึ้น เรียนรู้อะไรอีกเยอะมาก ไปอังกฤษด้วย ไปแฟชั่นวีกด้วย เก็บเทคนิคมาฝึกฝนเรื่อยๆ ค่ะ”

        แพรเล่าต่อว่า “ตอนนี้แพรใช้เวลาแต่งหน้าน้อยลงเยอะเลยค่ะ ตอนรับจ้างแต่งหน้าครั้งแรก ตอนนั้นเขาไปงานแต่ง เราใช้เวลาชั่วโมงกว่า พอมา 9 ขวบเหลือชั่วโมงนึง จนตอนนี้แต่งรับปริญญา 4 คน ตกคนละ 40 นาที เพราะเรารวบวิธีการย่อยๆ ให้เร็วขึ้น”

 

Sponsored Ad

 


        “ถ้าเป็นตอน 7 ขวบ แพรจะบอกว่าเรื่องคิ้วยากสุด เพราะทรงคิ้วตัวเองไม่เท่ากัน แต่พอได้รู้จักคิ้วหลายๆ แบบแล้วฝึกมาเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ดีขึ้นค่ะ ส่วนถ้าถามตอนนี้แพรว่าการกรีดอายไลเนอร์กับติดขนตาปลอมยากที่สุด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเมื่อก่อนมือถึงนิ่งกว่า5555”

        “แพรได้แต่งแนวบิวตี้บ่อยจนชินค่ะ อย่างเช่นแต่งให้คนรับปริญญา งานแต่ง งานจบอนุบาล งานกีฬา เดินพาเหรด แต่ถ้าแต่งแนวเอฟเฟกต์กับแฟนตาซี ยังท้าทายเราอยู่มาก แพรเลยอยากเรียนส่วนนี้เพิ่มอีกเยอะๆ เลย"

 

Sponsored Ad

 

        ถึงจะเก่งขนาดนี้ แต่เมื่ออายุ 4 ขวบ น้องแพรทำคลิปแต่งหน้า ตอนนั้นโดนคนด่าว่าแก่แดด แต่งก็ไม่สวย ตาสีเขียวฟ้าดูตลก 

        “ถ้าในยูทูบช่วงแรกๆ จะมีกระแสดราม่าเยอะมากก เยอะกว่าคนชมค่ะ แบบถึงขั้นมีคนต่อว่า 99 คน คนชม 1 คนเลย แต่ในจำนวนนั้นก็มีทั้งคนที่เตือนว่าเดี๋ยวหน้าแก่นะ และคนที่มาต่อว่าว่า 'แก่แดด' 'เกินวัย'  บางคนว่าถึงพ่อแม่ บางคนบอกว่า 'ไปไม่ได้ไกลหรอก' 'ฝันไปเหอะ' 'เป็นไปไม่ได้อะ' แรกๆ มีเยอะมากค่ะ แต่ตอนนี้อ่านจนรู้สึกเฉยๆ ไม่รู้จะสนใจทำไม”

Sponsored Ad

        “แต่ถ้าเป็นในเพจจะไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่แล้ว เค้าติดตามเพราะรักเรา ในเฟซบุ๊กไลฟ์ยิ่งไม่ค่อยเห็น เพราะแพรไปอ่านมาแล้วพยายามอธิบายให้เค้าเข้าใจว่า เปอร์เซนต์ที่การแต่งหน้าจะทำให้หน้าแก่เกินวัยมีแค่ 1% พี่ๆ เค้าก็เข้าใจ”

        “เมื่อก่อนเราเป็นเด็กอาจยังไม่รู้เรื่องค่ะ แต่พอโตมาย้อนไปอ่านก็งงว่าเค้าจะว่าเราทำไม เราทำอะไรผิด เราไม่เห็นจะแก่แดดตรงไหน แค่พูดตามที่พี่ๆ พูดกันเอง"

        เธอเล่าถึงช่วงที่แย่ที่สุดให้ฟังว่า “ตอนนอยด์นี่นอยด์มาก ถึงกับหายไปช่วงนึงเลย ไม่โพสต์ไม่ไลฟ์ ไม่อัดคลิป ไม่แต่งหน้า ไม่ซื้อเครื่องสำอาง ถึงกับเดินผ่านร้านเครื่องสำอางเลยแหละ แต่มีช่วงนึงแพรได้ลงข่าวและออกรายการเพิ่มค่ะ ปรากฏว่ามีคนชมและให้กำลังใจเรา เลยรู้ว่ามีคนที่รักเราเหมือนกันนะ จากตอนที่ลังเลว่าจะทิ้งดีมั้ย ก็กลายเป็นเราได้กลับมาทำ แพรจัดการทุกอย่างให้ดีขึ้น ซื้อกล้องและรีโนเวตห้องเก็บของมาเป็นห้องตัวเอง ก่อนหน้านั้นไลฟ์มีคนดูมากสุด 500 คน พอกลับมาอีกครั้งก็เพิ่มเป็น 10,000 เลยค่ะ”

        พอมองย้อนไปวันแรก แพรได้บอกความรู้สึกไว้ว่า “รู้สึกงงๆ ว่าเร็วไปมั้ย ทำไมเวลาผ่านไปเร็วจัง จำได้ว่าเพิ่งจะเรียนแต่งหน้าอยู่เลย 555 ดีใจมากๆ ค่ะ ประทับใจทุกคนสนับสนุนเรามาตลอด”

        “การแต่งหน้าช่วยฝึกสมาธิได้มากเลยค่ะ โดยเฉพาะตอนเขียนคิ้วกับอายไลเนอร์ และทำให้ได้ฝึกจินตนาการ ครีเอตว่าอะไรควรแมทช์กับอะไร อย่างถ้าเป็นในคลิปสอนแต่งหน้า แพรจะดูตามเทรนด์ แล้วลองฝึกกับพี่ๆ บิวตี้บล็อกเกอร์ค่ะ เทรนด์ไหนกำลังมาพวกเค้าจะรู้หมด เราก็ไปดูเป็นแนวทาง” 

        แพรพูดถึงความฝันของตัวเองว่า “อยากไปแต่งหน้าที่ฮอลลีวูดค่ะ แต่ก่อนจะไปถึง แพรต้องทบทวน เรียนเพิ่ม เรียนให้ดีที่สุด เพราะประสบการณ์ยังน้อยอยู่ ยังไม่เก่งขนาดนั้น”

        สุดท้ายนี้ น้องแพรขอทิ้งท้ายถึงผู้อ่านไว้ว่า “ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและให้กำลังใจน้องแพรอยู่ตลอด อยากให้ติดตามไปนานๆ ค่ะ อยากให้เห็นพัฒนาการของน้องแพรไปเรื่อยๆ ส่วนแพรเองก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด"


        ถือเป็นแรงบันดาลใจของทุกคนที่มีความฝันเลยค่ะ เพราะน้องแพรมีใจรักมาตั้งแต่ต้น ถึงแม้จะล้มไปบ้าง แต่แรงใจจากตัวเองและคนรอบข้างก็พยุงเธอให้ลุกขึ้นมาสู้ใหม่อีกครั้ง สำหรับใครที่อยากติดตามให้กำลังใจเด็กสาวตัวน้อยคนนี้ ตามไปได้ที่เพจ "น้องแพรพาเพลิน" ได้เลยค่ะ

ชมคลิป...

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก น้องแพรพาเพลิน

บทความที่คุณอาจสนใจ