แพทย์หญิง เล่าประสบการณ์ "เอาชนะ โควิด-19" หลังพบว่าตัวเองติด ชี้เจ็บคอราวถูกมีดปาด

LIEKR:

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ ตอนนี้ดูแลตัวเองกันด้วยนะลูกเพจ

    เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์เดลี่เมล และเดอะซัน รายงานว่า แพทย์หญิง แคลร์ เกราดา แพทย์หญิงรักษาอาการเจ็บป่วยเฉียบพลัน หรือแพทย์ GP อายุ 60 ปี อดีตประธาน Royal College of GPs เล่าถึงอาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่เธอประสบมาด้วยตนเอง และสามารถต่อสู้จนหายได้

    แพทย์หญิงเกราดา ซึ่งพำนักอยู่ที่บ้านในกรุงลอนดอน เล่าถึงอาการป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ว่า ไม่เหมือนกับอาการป่วยไข้หวัดใหญ่ ซึ่งตอนแรกเธอคิดว่าเป็นอาการจากเจ็ตแลค จากการเดินทางข้ามเขตเวลา เพราะเธอเพิ่งเดินทางกลับจากไปประชุมที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ 3 วันก่อนจะรู้สึกไม่สบาย โดยตอนที่เธอออกจากนิวยอร์กกลับมาลอนดอนนั้น เธอยังรู้สึกโล่งอกที่หนีไวรัสโควิด-19 มาได้ เพราะทางการนิวยอร์กได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรับมือโควิด-19 พอดี

 

Sponsored Ad

 

    เมื่อกลับมาถึงเช้าวันอาทิตย์ รุ่งขึ้นไปทำงานในวันจันทร์ พอเช้าวันอังคาร แพทย์หญิงเกราดาบอกว่า เธอรู้สึกค่อนข้างเหนื่อย เริ่มมีอาการไอแห้งๆ ซึ่งตอนแรกเธอคิดว่าเป็นอาการของเจ็ตแลค แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอมีอาการเจ็บคออย่างรุนแรง ราวกับมีคนเอามีดมาปาดคอก็ไม่ปาน จากนั้นไข้ขึ้นสูงจนร่างกายสั่นสะท้าน ปวดเมื่อยตามข้อ ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอกจากการไอ อีกทั้งยังหมดแรง ถึงขนาดไม่มีแรงพอจะเก็บธนบัตร 50 ปอนด์ ที่ตกลงบนพื้นต่อหน้าได้ เธอนอนบนเตียงนานถึง 6 วัน จะลุกจากเตียงก็ต่อเมื่อต้องเข้าห้องน้ำเท่านั้น

 

Sponsored Ad

 

    ‘ตอนเริ่มเจ็บคออย่างหนักและมีไข้สูง ฉันเริ่มฉุกคิดว่า หรือฉันอาจติดไวรัสโคโรนา? แต่น่าแปลกใจที่ฉันไม่รู้สึกกลัว ขณะที่ตัวเองไม่มีประวัติมีปัญหาสุขภาพมาก่อน ฉันแข็งแรงและเป็นคนเดินเยอะ’ แพทย์หญิงเกราดาเล่า พร้อมบอกว่า เธอไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง โดยเธอป่วยหนักไข้สูงต้องนอนอยู่บนเตียงถึง 6 วัน แต่เธอไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยงเลย

 

Sponsored Ad

 

    ‘ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของฉันกำลังทำในสิ่งที่สามารถต่อสู้กับเชื้อได้ และเข้าใจดีว่าทำไมคนถึงกังวลกับโควิด-19 แต่คนติดเชื้อส่วนใหญ่ จะรอดอย่างฉัน’ แพทย์หญิงเกราดา กล่าว พร้อมกับบอกวิธีที่เธอใช้ต่อสู้กับโควิด-19 คือการกินยาพาราเซตามอลทุก 8 ชั่วโมง ซุปไก่ และน้ำมะนาว โดยตอนที่โรงพยาบาลโทรศัพท์มาแจ้งผลการตรวจว่าเธอติดเชื้อโควิด-19 นั้น ไข้ได้เริ่มลดลงแล้ว อาการไอหายไป เริ่มรู้สึกดีขึ้น และไม่ต้องกินยาพาราเซตามอลอีก เธอเริ่มทานอาหารได้อีกครั้ง แม้จะกินได้ไม่มาก

 

Sponsored Ad

 

    แพทย์เกราดา เล่าว่า ตอนเธอป่วยจากเชื้อโควิด-19 เธอและสามี เซอร์ ไซมอน เวสซีลีย์ อดีตประธาน Royal College of Psychiatrists ได้ใช้วิธีป้องกันการติดเชื้อด้วยการแยกห้องนอน ไม่ใช้ห้องน้ำร่วมกัน และถ้วยชามที่เธอใช้ทานอาหารก็นำไปล้างในเครื่องล้างจานทันที ซึ่งจนถึงขณะนี้สามีของเธอไม่ได้แสดงอาการป่วย ถึงแม้อยู่ในบ้านเดียวกับเธอ และเขาใช้เพียงผ้าพันคอของทีมฟุตบอลที่เขาชอบพันรอบใบหน้า ปิดปากปิดจมูกเท่านั้น

 

Sponsored Ad

 

    แพทย์หญิงเกราดา กล่าวว่า ในฐานะที่เธอเป็นแพทย์มา 35 ปี ได้เห็นเรื่องราวที่น่ากลัวบางอย่าง รวมทั้งการระบาดของเชื้อโรคที่ทำให้เกิดอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบและผู้ป่วยติดเชื้อซาร์ส แต่ไวรัสโคโรนาได้สร้างความหวั่นวิตกให้แก่คนในสังคมมากกว่า และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่า

    การที่เธอออกมาเล่าประสบการณ์ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ก็เพราะต้องการให้ผู้คนลดความตื่นตระหนกและโควิด-19 ไม่ใช่สิ่งที่เราจำเป็นต้องกลัวมากที่สุด

ข้อมูลและภาพจาก thairath

บทความที่คุณอาจสนใจ