แม่แชร์ประสบการณ์ ในวันที่ลูกก้าวผ่านความ เ จ็ บ ป ว ด ผ่ า ตั ด กระดูกสันหลังคด

LIEKR:

อ่านทุกตัวอักษรและสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของคนเป็นแม่เลยค่ะ

    จากกรณีที่คุณแม่รายหนึ่งได้โพสต์ภาพฟิล์มเอกซเรย์ของลูก หลังพบกระดูกสันหลังคดงอ ซึ่งแพทย์ชี้แจงเกิดจากการแบกของหนัก แม่เชื่อเป็นเพราะกระเป๋านักเรียน เพราะลูกบ่นตลอด วันนี้เราจึงนำเรื่องราวประสบการณ์ของคุณแม่รายหนึ่งที่พาลูกไปรักษาอาการกระดูกสันหลังคดมาฝากเพื่อนๆกัน

    สมาชิกเว็บไซต์พันทิปคุณ pimmyaom ก็ได้มาแชร์ประสบการณ์ การพาลูกเข้ารับการผ่าตัดกระดูกสันหลังคด ซึ่งคุณหมอก็ได้เปิดเผยว่าเด็กสมัยนี้เป็นกันเยอะมาก ในขณะที่มาหาหมอในแต่ละครั้ง เราก็จะพบเด็กที่มาพบคุณหมอด้วยโรคนี้อยู่ตลอด ดังนั้นเธอจีงอยากแชร์ประสบการณ์เผื่อคุณพ่อคุณแม่ท่านใดกำลังหาข้อมูลเพื่อที่จะรักษาหรือเตรียมผ่าตัด ทั้งนี้ คุณ pimmyaom ยังได้บอกอีกว่า เธออาจจะใช้คำศัพท์ทางการแพทย์ไม่ถูกต้อง 100% 

 

Sponsored Ad

 

ย้อนกลับไป 28 มีนาคม 2561

    พาลูกไปพบคุณหมอครั้งแรกที่โรงพยาบาลตากสิน เพราะลูกสาว (ตอนนั้นอายุ 10 ขวบ) ชอบบ่นว่าปวดหลัง ปวดไหล่ แรกๆ เราก็จะนวดๆ ไหล่ให้ลูกบ้างเพราะเข้าใจว่ากระเป๋านักเรียนมันหนักเกินไป (พ่อแม่หลายท่านอาจจะเจอปัญหานี้นะคะ กระเป๋านักเรียนที่ต้องแบกหนังสือเรียนวันละ 6-7 วิชา ที่ผู้ใหญ่อย่างเรายังบ่นหนัก) แต่พอสังเกตุ เราเริ่มเห็นหลังของลูก ช่วงสะบักแขนข้างขวาโค้งออกมา หลังมันไม่เรียบเหมือนหลังปกติ แต่ตอนนั้นถ้าไม่สังเกตก็แทบจะมองไม่เห็นว่าโค้งนะคะ  พอไปพบคุณหมอ เอ็กซเรย์แล้ว ผลออกมา หมอบอกว่า "กระดูกสันหลังของน้องคดนะคุณแม่"

 

Sponsored Ad

 

 

    ได้ยินครั้งแรกคือเครียดนะคะ ตกใจด้วยว่าเกิดขึ้นได้ยังไง หมอวัดออกมาปรากฏว่าคด 20 องศา สำหรับเรา ก็ว่าเยอะแล้ว แต่หมอบอกว่าเด็กสมัยนี้เป็นเยอะมาก บางคนคด 10 หรือ 20 องศา ก็ใช้ชีวิตปกติเยอะแยะไป มันไม่เป็นไร ถ้าองศาที่คดมันไม่เพิ่ม หมอนัดอีก 6 เดือน มาวัดกันใหม่ แม่ใจเย็นๆ นะ ไม่ต้องเครียด หมอบอก (ภาพนี้เอ็กซเรย์ครั้งแรก คด 20 องศาค่ะ)

 

Sponsored Ad

 

    3 ตุลาคม 2561 ไปพบคุณหมอครั้งที่ 2 ตามนัด ผลเอ็กซ์เรย์ หมอบอกว่าคดเพิ่มเป็น 30 องศา หมอขอดูอีก 6 เดือนนะ ว่ามีแนวโน้มจะหยุดคดไหม แม่ใจเย็นๆ นะ อีก 6 เดือนมาวัดกันใหม่ ตอนนั้นฟังแล้วก็ยิ่งเครียด เริ่มกลับมาหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ หมอบอกว่าจะเป็นมากในช่วงที่เด็กเข้าสู่วัยรุ่น ซึ่งหลายๆ ครั้งก็ไม่สามารถบอกสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าเกิดจากอะไร ถามว่าเกี่ยวกับกระเป๋าหนักไหม หรือเป็นเพราะเด็กชอบนั่งงอตัวรึป่าว คุณหมอบอกว่าไม่เกี่ยวกัน

(เอ็กซเรย์ครั้งที่ 2 คด 30 องศา) 

 

Sponsored Ad

 

    20 มีนาคม 2562 ครบ 1 ปีเต็มที่พบอาการ วันนี้ถูกส่งไปตรวจกับอาจารย์หมอ หมอบอกว่าวัดอยู่ตั้งนาน ทำไมคดเยอะจัง 40 องศา หมอหันมามองหน้า "เราคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วนะ ว่าจะใส่เสื้อเกราะดามไว้หรือจะผ่าตัด ถ้าใส่เสื้อเกราะดามไว้ ก็ต้องมาเอ็กซเรย์ดู และต้องไม่คดเพิ่มแล้วนะ ถ้าใส่เสื้อเกราะแล้วยังคดเพิ่ม คือเสียเวลา เพราะสุดท้ายยังไงก็ต้องผ่าตัด แต่ถ้าจะผ่าเลย ตอนนี้ยังทำไม่ได้นะ เพราะหมอที่โรงพยาบาลนี้ผ่าไม่ได้ ต้องไปโรงพยาบาลที่เครื่องมือพร้อมกว่านี้ ประเด็นที่สองคือ น้องยังไม่มีประจำเดือน นั่นหมายความว่าร่างกายน้องยังไม่หยุดโต ถ้าผ่าตอนนี้ น้องสูงขึ้น ก็จะมีปัญหาตามมาอยู่ดี แม่ลองคิดดูนะ ว่าจะไปรักษาต่อที่ไหน ต้องเลือกโรงพยาบาลที่ผ่าตัดกระดูกสันหลังได้ และให้หมอที่นั่นวินิจฉัยหาแนวทางรักษาอีกที"

 

Sponsored Ad

 

 

    ฟังแค่นี้ หัวอกแม่ เข่าอ่อนเลย สงสารลูก ถามหมอว่าถ้าจะผ่า ค่าใช้จ่ายเยอะไหมค่ะ หมอบอกแค่ค่าเหล็กก็สองแสน บอกเลยว่าเครียดมากๆ ถ้าผ่าแล้วจบปัญหาทุกอย่าง มันก็ไม่ต้องคิดเยอะ แต่กลัวว่าจะมีอะไรตามมาอีกไหม มันเครียดไปหมด นี่ยิ้มไม่ออกตั้งแต่เดินออกจากโรงพยาบาล จนลูกสาวเอามือมาจบหน้าแล้วบอกว่า "แม่อย่าทำหน้าแบบนี้" ถึงต้องฝืนยิ้มออกมา เพราะแม่จะอ่อนแอไม่ได้ แม่ต้องเข้มแข็ง เพื่อลูกและเราจะผ่านมันไปด้วยกัน....

 

Sponsored Ad

 

    ภาพเอ็กซเรย์ครั้งที่ 3 จำได้ว่าตอนที่เห็นครั้งแรก กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริงๆ ค่ะ แอบหันหน้าหนี้ไปร้องไห้ เพราะสงสารลูก แค่คิดว่าหลังจากนี้ เค้าจะต้องรักษา เค้าจะต้องเจ็บตัว ก็ทำเราเครียดมากๆ 

    ครั้งนี้ คุณหมอที่ตากสินแนะนำว่าให้ไปรักษาต่อที่เลิดสิน หรือไม่ก็ศิริราช แต่เราหาข้อมูลมามีแต่คนบอกว่าหมอกระดูกที่เลิดสินเก่ง และไม่ไกลจากบ้านเรามากนัก คนรู้จักส่วนใหญ่ก็มีประสบการรักษาโรคกระดูกที่เลิดสินค่ะ เราเลยตัดสินใจว่าจะไปรักษาต่อที่เลิดสินค แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่มันเยอะมาก เราเลยวิ่งไปจัดการเรื่องเอกสาร เราใช้สิทธิ์บัตรทองในการรักษา โดยต้องไปติดต่อที่คลินิคที่สิทธิ์เราอยู่ เขาก็ส่งตัวเราไปที่โรงพยาบาลที่สิทธิ์อยู่ แต่ก็เป็นโรงพยาบาลเล็กๆ ไม่สามารถผ่าตัดได้เช่นกัน ทางโรงพยาบาลจึงทำเรื่องส่งต่อ เขาถามเราว่าอยากไปผ่าที่ศิริราชหรือเลิดสิน เราก็เลือกเลิดสินค่ะ นั่นหมายความว่า หลังจากนี้ถ้ามีการนัดหรือจะมารักษาที่เลิดสิน เราต้องวิ่งไปขอใบส่งตัวทุกครั้ง ซึ่งก็วุ่นวายพอสมควร เพราะคลินิคจะทำใบส่งตัวให้แบบวันต่อวัน แต่ถ้าจะนอนโรงพยาบาล ต้องไปเอาใบส่งตัวที่คลินิก ให้ส่งตัวไปโรงพยาบาลต้นสังกัด จากนั้นโรงพยาบาลต้นสังกัดถึงทำใบส่งตัวมาเลิดสิน ซึ่งแค่ใบส่งตัวก็วิ่งวุ่นอยู่หลายรอบกว่าจะได้มา

Sponsored Ad

******************************************************

1 เมษายน 2562 เราได้ใบส่งตัวมาที่เลิดสิน

    วันนี้มาพบอาจารย์หมอสมบัติที่เลิดสินค่ะ หมอให้ลงไปเอ็กซเรย์ใหม่แบบละเอียด จากนั้นก็กลับพบคุณหมอ คุณหมอวัดไป วัดมา 54 องศาค่ะ หมอบอกมันคดเยอะมาก คดเป็นตัว S เลย แบบนี้ต้องผ่าตัดแล้ว แต่เด็กส่วนมากจะมาผ่าช่วงปิดเทอม ซึ่งคิวยาวมาก ต้องรอ เราเลยบอกคุณหมอว่าน้องเพิ่งจบ ป.6 ค่ะ ถ้ามีคิวที่ไม่ตรงกับช่วงปิดเทอมเราก็ยินดีค่ะ เพราะถ้ายิ่งรอ มันก็จะยิ่งคด และโชคดีมาก มีคิวว่าง 1 คิวคือวันที่ 23 พฤษภาคม (เดือนหน้านี้เอง) แม่เอาไหม ถ้าไม่เอาก็รอไปอีก 4-6 เดือน "เอาค่ะหมอ" เรารีบตอบ

    หลังจากที่ตกลงกับคุณหมอได้ว่าจะผ่าตัดเดือนหน้า คุณหมอเลยให้ไปทำเอกสาร ส่งตัวไปทำ MRI ซึ่งต้องไปทำข้างนอก เพราะถ้ารอคิวทำ MRI ที่เลิดสินต้องรออีก 4 เดือน ซึ่งมันไม่ทัน คุณหมอให้รายชื่อสถานที่ ที่สามารถส่งตัวไปทำ MRI ได้ เราเลือกที่คิดว่าใหล้เราที่สุดคือ MRI ประชาชื่น สาขาบางแค ซึ่งเราต้องโทรไปนัดเอง หลังจากได้วันนัดแล้วเราก็แจ้งคุณหมอ เราได้นัดไปทำ MRI วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2562 หมอเลยนัดให้กลับมาเจอกันอีกครั้งก่อนผ่าตัด 2 พฤษภาคม

    เคสเราต้องไปทำ MRI ข้างนอก ดังนั้น สิ่งที่ต้องกลับมาทำคือ กลับไปขอใบส่งตัวที่คลินิกบัตรทองของเรา ซึ่งเราจะมีใบนัดทำ MRI 1 ใบ และใบนัดอ่านผล MRI อีก 1 ใบ คลินิกก็ออกใบส่งตัวให้เรา 2 ใบ ตามวันที่ใบนัดเป๊ะๆ ไม่ขาดไม่เกิน และต้องใช้ตามวันที่นั้นเท่านั้น 

    28 เมษายน เราเดินทางไปทำ MRI ที่ MRI ประชาชื่น บางแค คุณหมอที่นั่นบอกว่าน้องต้องทำทั้งหลัง ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง เขาก็ให้ลูกสาวเราเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วขึ้นนอนบนเตียงที่เป็นแบบอุโมงค์ ต้องถอดทุกอย่างที่เป็นโลหะออก โดยให้แม่เข้าไปนั่งอยู่ในห้องด้วยได้ เครื่องทำ MRI จะเสียงดังมากๆ เจ้าหน้าที่เขาจะให้เราและลูกสาวใส่ที่ปิดหู มีผ้าห่มให้เพราะในห้องนั้นหนาวมาก เครื่องก็จะเลื่อนไปเลื่อนมา คนนั่งรอก็นั่งนับเลขในใจไป เพราะต้องนั่งเฉยๆ ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีนาฬิกาดูเวลา ได้แต่นั่งจับขาลูกให้เขารู้ว่าแม่อยู่ตรงนี้นะ ส่วนลูกก็หลับบ้างตื่นบ้าง บางช่วงได้ยินเสียงหายใจแรงๆ เหมือนหลับไป บางช่วงก็ตื่นลืมตา ทำหน้าเหมือนไม่สบายตัว จนมาถึงช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลูกสาวเรากดปุ่มขอหยุด เจ้าหน้าที่เข้ามา น้องบอกว่าไม่ไหวแล้ว ปวดหลังไปหมดเพราะนอนท่าเดียวนาน จนต้องปลอบกันพักนึง น้องยอมทำต่อ อีกประมาณ 10 นาทีก็เสร็จค่ะ 

    หลังจากทำ MRI เสร็จแล้ว ต้องรอผลอีกประมาณ 2 ชั่วโมง เราเลยไปเดินเล่น ทานข้าวกันในห้างใกล้ๆ พอผล MRI ออก จะมีเจ้าหน้าที่โทรตามให้เข้ามารับค่ะ ซึ่งเราจะได้เป็นฟิล์มเอ็กซเรย์มาปึกนึง แล้วก็มีเอกสารที่เขียนสรุปผลเอ็กซเรย์และแผ่นซีดี ซึ่งเราต้องถือผลทั้งหมดนี้กลับไปให้คุณหมอที่เลิดสิน ค่าใช้จ่ายในการทำ MRI ครั้งนี้อยู่ที่ 15,500 บาท ทางศูนย์ MRI จะให้เอกสารใบแจ้งหนี้ ให้เราถือกลับไปยื่นที่เลิดสินด้วยค่ะ ซึ่งเค้าจะไปเคลียร์กันเอง เราไม่ต้องจ่ายค่ะ

2 พฤษภาคม 2562

    กลับมาพบคุณหมอพร้อมผล MRI เพื่อคอนเฟิร์มการผ่าตัดวันที่ 23 และออกใบนัดมานอนโรงพยาบาล คุณหมอแจ้งว่าในการผ่าตัดจะมีการใช้เครื่องมือตัวนึงช่วย เป็นเครื่องเอ็กซเรย์ไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัด เครื่องนี้จะใช้ตอนผ่าตัดค่ะ แต่ค่าใช้จ่ายคือเบิกไม่ได้ทุกกรณี ถ้าจ่ายไหวก็อยากให้ใช้ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 35,000 บาท ซึ่งเราตกลงใช้ค่ะ จากนั้นคุณหมอให้เอาซีดี MRI ไปลงที่ห้องเอ็กซเรย์ และให้ไปทำใบนัดทำ CT Scan ทางห้องเอ็กซเรย์ให้เรามาทำ CT Scan วันที่ 23 เลย หาหมอที่เลิดสินเสร็จก็วิ่งกลับไปเอาใบส่งตัวที่คลินิคบัตรทอง 

    23 พฤษภาคม 2562 วันนี้ก็มาถึง เรามาโรงพยาบาลกันแต่เช้า เช็คสิทธิ์ที่ห้องสิทธิ์ ผลปรากฏว่าเรายังทำ CT Scan ไม่ได้ ต้องทำเรื่องนอนโรงพยาบาลก่อนไม่งั้นต้องจ่ายค่า CT Scan เอง ก็เลยต้องไปรอคิวพบคุณหมอ คุณพระช่วย ได้คิว 233 ค่ะ พยาบาลบอกว่าน่าจะได้เจอหมอช่วงบ่ายเลยค่ะ

    รอไปจนเกือบๆ เที่ยง ได้เจอหมอ คุณหมอก็ทำเอกสารให้นอนโรงพยาบาล และให้เอ็กซเรย์เพิ่ม จากนั้นก็ลงไปที่ห้อง 107 เพื่อทำเรื่องนอน เราอยากจองห้องพิเศษ แต่วันนั้นห้องเต็มหมด เลยลงชื่อจองไว้ แล้วต้องไปแอดมิดที่ห้องรวมก่อนค่ะ ทำเรื่องนอนโรงพยาบาลเสร็จก็ไปรอทำเอ็กซเรย์และ CT Scan หลังจากนั้นขึ้นไปที่ชั้น 16 ตึกกาญจนาภิเษก ศัยลกรรมกระดูกเด็ก

    3 ทุ่มครึ่ง Ward ปิดไฟแล้วคร่าาา พรุ่งนี้หมอมาประเมินความพร้อมเตรียมผ่าตัด ถ้าผลเลือดปกติ หมอให้ลากลับไปนอนที่บ้านได้ แล้วค่อยมาลุ้นอีกที ว่าวันอาทิตย์ จะได้ห้องพิเศษไหม เพิ่งรู้นะเนี่ย ห้องรวมที่นี่ ไม่ได้แย่อย่างที่คิด แต่.... No air con, No Hot Water ค่ะ  นอนที่โรงพยาบาล 5.30 น. พยาบาลจะมาปลุก วัดไข้ วัดความดัน แฟ้มคนไข้มารอปลายเตียงล่ะ อาจารย์หมอมาก่อน 8 โมง ซึ่งคุณหมอ ให้ลากลับบ้านได้ กลับมาอีกที บ่ายวันอาทิตย์ ผ่าตัดเช้าวันอังคาร ตัดยอดค่าใช้จ่าย มีค่าเจาะเลือด, ค่าวินิจฉัยโรค, ค่าเอกซเรย์, ค่าทำ CT Scan, ค่าห้องพักและค่าบริการอื่นๆ 2 วันกับ 1 คืน 31,750 บาท พยาบาลให้เราถือบิลไปจ่ายที่การเงินชั้น 8 แต่เราจ่ายจริงแค่ 200 บาท ค่ะ

    26 พฤษภาคม 2562 Welcome back to hospital  โชคดีจังจ้า วันนี้เราได้ห้องพิเศษแล้ว เป็นพิเศษคู่นะคะ (เราต้องจ่ายค่าห้องเองวันละ 850 บาทค่ะ) 

    27 พฤษภาคม 2562 การผ่าตัดกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว วันนี้ไปถ่ายรูปหลังมาค่ะ คุณหมอมาร์คจุด "แผลยาวหน่อยนะคะ แม่ไม่ต้องตกใจนะ" หมอพูดมาแค่นี้ แม่ก็ตกใจแล้วค่ะ พรุ่งนี้ 7:30 น.ไปห้องผ่าตัด คืนนี้งดน้ำ งดอาหาร 

.

.

28 พฤษภาคม 2562 
    พยาบาลปลุก วัดไข้วัดความดัน ตั้งแต่ 05:30 น อาบน้ำรอคุณพยาบาล มาเจาะเลือด ใส่สายน้ำเกลือ กลัวจนเส้นเลือดหด พยาบาลหาเส้นไม่เจอ ใส่ท่อฉี่ น้ำตาตกอีก น่าสงสารมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็มาเข็นลงไปที่ห้องผ่าตัด เขาไม่ให้ญาติเข้าไป เราเลยส่งได้แค่หน้าห้อง ตอนถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด ร้องจ๊ากตะโกนเรียกแม่  ไอ้ลิงของแม่ สู้ๆนะลูกนะ อีก 3 ชั่วโมงเจอกัน 

28 พ.ค 62 11.40น. 
    3 ชั่วโมงครึ่งที่นั่งเฝ้าหน้าห้องผ่าตัด ยิ่งนั่งนาน ยิ่งร้อนรน เดินไปถามจนท. น้องออกจากห้องผ่าตัดรึยังค่ะ จนท.ที่เข็นเปลช่วยเข้าไปดูให้
"หมอเย็บแผลอยู่นะ รอ เดี๋ยวก็ออกมา"
    1 ประโยค แค่ให้รู้ว่าลูกเป็นยังไง ช่วยเพิ่มพลังให้คนเป็นแม่อีกเยอะเลยค่ะ ❤

    13.00 น. ลูกสาวออกจากห้องผ่าตัดแล้วค่ะ หมอบอกเสียเลือดไป 3-400 cc ต้องคอยเจาะเกร็ดเลืดตรวจ ถ้าเลือดจาง ต้องให้เลือด ตอนนี้ย้ายมาอยู่พิเศษรวม เพราะต้องสังเกตอาการ น้องบ่นปวดหลังตลอด หมอสั่งยาแก้ปวดทางสายน้ำเกลือเป็นพวกมอร์ฟีนอ่ะคะ ผลข้างเคียงคือจะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน

    17.00 น. อาการเริ่มดีขึ้น จากที่บ่นปวด บ่นเมื่อย หมอให้ยาแก้ปวด ตอนนี้ บ่นหิวน้ำหิวข้าวแทน พยาบาลให้ทานได้ ทานข้าวเย็นเสร็จปุ๊บ หลับปั๊บ ตัวรุมๆ ลุ้นว่าจะมีไข้ไหม แต่หลังจากหลับไปได้ 1 ตื่น น้องตื่นมาอาเจียน 2 รอบค่ะ ผลมาจากยาแก้ปวด จนสุดท้ายพยาบาลมาฉัดยาแก้อาเจียนให้อีกค่ะ 

    29 พ.ค. 62 เวลา 5.58 น. วันที่ 1 หลังผ่าตัด หลังจากที่เมื่อคืนไข้ขึ้น ต้องคอยเช็ดตัว พยาบาลก็แวะมาวัดไข้ วัดความดัน ฉีดยาให้เป็นระยะ น้องยังต้องให้ออกซิเจน เพราะเสียเลือดมาก แขนซ้ายเจาะสายน้ำเกลือ แขนขวา เจาะสายยาแก้ปวด ข้างหลังมีสายเดรนระบายเลือด ยังใส่ท่อฉี่ น่าสงสารสุดๆเวลาพยาบาลจะเจาะเลือดเอาไปตรวจ หาเส้นยากมาก ตอนนี้โดนเจาะพรุนไปหมดแล้วทั้งข้อพับแขนสองข้าง หลังมือ หน้าขา มีแต่รอยเข็ม 

ภาพขวดเดรนของน้องค่ะ 2 ขวดแรก เต็มเร็วมากค่ะ

    12.36 น. พยาบาลมาบอกว่าน้องเกร็ดเลือดต่ำ สรุปน้องต้องให้เลือด ขอบคุณเจ้าของเลือดด้วยนะคะ ที่มีส่วนช่วยให้หนูดีขึ้น 🙏🙏 ขอบคุณเลือดจากธนาคารเลือดโรงพยาบาลเลิดสินค่ะ

    29 พ.ค. 62 หนึ่งวันหลังผ่าตัด ลูกสาวของแม่ เก่งที่สุดแล้วสำหรับแม่ เพราะลูกได้ก้าวผ่านความกลัวและความเจ็บปวดครั้งนี้มาแล้ว ❤ วันนี้หมอเปิดแผล แผลดี แผลสวย ไม่บวม ไม่มีเลือดซึม ตอนนี้ก็ต้องประคองให้แผลดีแบบนี้ไปเรื่อยๆ วันเสาร์น่าจะเอาสาย drain ออกได้ วันจันทร์จะได้ไปตัดเสื้อเกราะ ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น และต่อไปนี้ จะมีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับลูก สู้ๆ ลูกรัก

    30 พ.ค 62 วันที่ 2 หลังผ่าตัด เช้านี้ดูสดใสขึ้น ทานข้าวได้เยอะขึ้น ขยับคอ หมุนหน้าซ้ายขวาได้ กระดกเท้าได้ ยกขาชันเข่าได้เอง อาการดีขึ้นบ่นปวดหลังน้อยลง แต่ยังกลับห้องพิเศษไม่ได้ ยังต้องอยู่ห้องสังเกตอาการต่อ เพราะเลือดยังออกอยู่เป็นระยะ วันนี้ เส้นที่แขนบวม น้ำเกลือ ไหลย้อน จนต้องเจาะใหม่ น่าสงสาร โดนเจาะจนพรุนหมดแล้วลูกเอ้ย ร้องไห้จนตาบวม 

    วันนี้ได้น้ำเกลือเป็นขวดที่ 5 ยาแก้ปวดชนิดรุนแรงขวดที่ 6 ทานข้าวได้ดีขึ้น มีแนวโน้มว่าจะหยุดน้ำเกลือได้พรุ่งนี้ วันนี้เลือดเสียน้อยลง และเป็นวันแรกที่ลูกบอกว่าไม่ปวดหลัง
    31 พ.ค. 2562 วันที่ 3 หลังผ่าตัด วันนี้ยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล แต่ตัดยอดค่าใช้จ่าย บิลมาวางที่เตียงเช้าวันนี้ แทบเป็นลม 224,xxx ยังดีที่ไม่ต้องจ่ายเองทั้งหมด จ่ายเองรอบนี้ 5,314 บาท กับอีกยอดคือค่าใช้เครื่อง Scan ไฟฟ้า 35,000 บาท อันนี้ต้องโอนเข้าบัญชีตามบิลที่ได้มาค่ะ

    อาการวันนี้ ดีเป็นพักๆ 555 ช่วงบ่ายบ่นปวดหลัง จนนอนร้องไห้ แม่ลงไปซื้อข้าวแปปเดียว ร้องไห้เป็นเถาเต่าเลย จนต้องขอพาราคุณพยาบาล สักพักยาออกฤทธิ์ หรือแม่ยอมให้จับมือถือไม่รู้ นอนเล่นเกมเฉย พรุ่งนี้เอาน้ำเกลือออกแล้ว แผลดีงามมาก เลือดไม่ซึมเลย อาจารย์หมอบอกเดี๋ยวตัดเสื้อเกราะเสร็จ จะให้ลุกเดินล่ะนะ น่าจะอีกสองสามวัน ❤

2 มิถุนายน 2562
    วันที่ 5 หลังผ่าตัด เมื่อวานเอาน้ำเกลือออก ตกดึก คุณพยาบาล เอายาแก้ปวดที่เป็นมอร์ฟีนออก ลดปริมาณยาลง เมื่อคืนเลยบ่นปวดหลังทั้งคืน ปวดนอนน้ำตาไหล ให้ยาพาราช่วย ก็ไม่ค่อยดีขึ้น ตื่นเช้านี้ คุณพยาบาล ต้องฉีดมอร์ฟีนให้ 1 เข็ม เลยพอยิ้มได้ ลุ้นกันวันต่อวัน ต่อไปสาย drain ลุ้นว่าจะเอาออกวันไหน
    เวลา 10.45 น. วันที่ 5 หลังผ่าตัด เช้านี้คุณหมอมาเปิดแผลดู เอาสายระบายเลือดออก เรียบร้อยแล้ว Step ต่อไป รอวันอังคาร #วันจันทร์เป็นวันหยุด ให้ไปตัดเสื้อเกราะ ตัดแล้วได้เสื้อเลย ได้แล้วก็มาหัดนั่ง หัดเดินกัน หมอบอกว่า น่าจะออกจากโรงพยาบาล ได้ประมาณวันพฤหัสบดีหรือไม่ก็วันศุกร์ วันนี้มีข่าวดี แม่ชื่นใจจัง ❤ #ลูกแม่หายแล้ว
    ปล.ไหมที่หลังของน้องเป็นไหมละลาย ไม่ต้องนัดมาตัดไหมนะคะ #ร้องไห้ทุกครั้งที่เจอเข็ม 

3 มิถุนายน 2562
    วันที่ 6 หลังผ่าตัด น้องยังลุกไม่ได้ แม่เลยยังต้องคอยช่วยทุกอย่างทั้งเช็ดตัว เปลี่ยนผ้า แปรงฟัน ป้อนข้าว พลิกตัว เวลาเช็ดก้นให้ น้องจะถามว่า "แม่ไม่รังเกียจหรอ"  เราจะตอบลูกด้วยคำตอบเดิมๆ ด้วยการยิ้ม แล้วบอกว่า "จำไว้ว่า แม่รักลูกของแม่มากนะลูก"  ลูกคือรักที่มันไม่เคยมีเงื่อนไขสำหรับแม่ ก็ไม่เคยคิดว่าจะรักใครได้มากขนาดนี้เหมือนกัน หลายวันมานี้เหนื่อยมากๆ นอนแบบนับชั่วโมงได้ แต่เราจะสู้ไปด้วยกัน ก็มีกันสองคนแบบนี้มา 11 ปีแล้วนี่เนอะ ❤ #ลูกแม่จะหายแล้ว #ยังปวดหลังเป็นระยะ #ปวดทีน้ำตาไหลที #เด็กน้อยทำไม่ต้องเจ็บปวดแบบนี้ #ฉีดมอร์ฟีน #สู้ต่อไปลูกสาว 

    ภาพแขนเวลาที่พยาบาลมาฉีดมอร์ฟีนให้ค่ะ จะมีผื่นขึ้นเหมือนจะแพ้ แต่ไม่แพ้นะคะ อาการข้างเคียงเวลาฉีดคือจะมึนหัวด้วยค่ะ เหมือนน้องเค้าเกร็ง ต้องช่วยนวดหัวกับไหล่ให้เค้าผ่อนคลายค่ะ 
    ปล.วันนี้แม่ต้องแว็บออกไปทำงาน อยู่คนเดียวแปปนึงนะลูกนะ
4 มิ.ย. 62 ^^ 7 วันหลังผ่าตัด วันนี้หนูไปตัดเสื้อมาค่ะ แม่เสียตังแต่ Happy มาก สำหรับค่าเสื้อเกราะ เราใช้สิทธิ์บัตรทองต่างโรงพยาบาลค่ะ ต้องจ่ายเองค่ะ 1,100 บาท อันนี้เบิกไม่ได้ทุกกรณีค่ะ และการลุกนั่งครั้งแรกในรอบ 7 วันของหนูก็มาถึง แต่ทำไมตัวมันเอียงๆ หัวมันหมุนๆ ต้องลุกช้าๆ นั่งช้าๆ แต่หนูสู้ใช่ม่ะ ดูจากหน้าก็รู้  เห็นหน้าสดใส แม่ดีใจที่สุดเลย ❤

.

    คุณหมอบอกว่าช่วง 3 เดือนแรกหลังผ่าตัด จะต้องใส่เสื้อเกราะประคองไว้ตลอดค่ะ ยกเว้นตอนนอนไม่ต้องใส่ค่ะ 

    5 มิ.ย. 62 และวันนี้ วันที่ 8 หลังผ่าตัดค่ะ เช้านี้คุณหมอมาดูอาการแล้ว เดี๋ยวรอไปเอ็กซเรย์เพื่อดูผลการผ่าตัด หมอบอกว่าถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ วันนี้หนูจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้วค่ะ ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่พารับไปเอ็กซเรย์ เราก็เลยเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาค่ะ รออยู่ทั้งวันเลย ไม่กล้าไปไหน จนประมาณบ่าย 3 พยาบาลเอาบิลค่าใช้จ่ายมาให้อีก แล้วสักพักก็มีเจ้าหน้าที่มาพาไปเอ็กซเรย์ พอเอ็กซเรย์เสร็จ จ่ายเงิน จากนั้นก็เตรียมตัวกลับบ้านค่ะ หมอนัดอีก 5 วันกลับมาพบคุณหมอเพื่อดูแผลค่ะ
    ซึ่งหลังจากนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ ไว้จะมาอัพเดตเพิ่มเติมนะคะ แต่โดยรวมอาการน้องดีขึ้นเป็นลำดับ แผลดีไม่บวม เลือดไม่ซึม ทีมแพทย์ที่นี่เก่งมากค่ะ มีทีมแพทย์มาดูน้องทุกวันตอนเช้า คอยให้คำปรึกษาดีค่ะ และหวังว่าหลังจากนี้จะไม่มีอะไรให้เป็นกังวลอีกค่ะ 
    สรุปยอดค่าใช้จ่ายอีกครั้งนะคะ อ่อ อธิบายเพิ่มนิดนึงค่ะ ที่เลิดสิน ลูกสาวเข้าแอทมิทวันอังคารค่ะ เพราะฉะนั้นทุกวันอังคาร เขาจะตัดยอดแล้วเอาบิลมาให้เราไปจ่ายเงินค่ะ แบบแบ่งให้จ่ายเป็นงวดๆ อ่ะคะ ของเรานะคะ
    ค่าทำ MRI 15,500 บาท ส่วนนี้เราไม่ต้องจ่ายค่ะ จากนั้นเราจะได้บิลจากทางโรงพยาบาลซึ่งมียอดรวมทั้งหมด 241,230 บาท 

    แต่เราจ่ายจริง 200 + 5,314 + 35,000 + 1,100 + 6,722 = 48,336 บาท
    ส่วนต่างที่ต้องจ่ายเพิ่มจะเป็นค่าห้องพิเศษค่ะ ซึ่งเรานอนพิเศษคู่ 11 คืน คืนละ 850 บาท และพวกยานอกบัญชีกับค่า Scan ไฟฟ้าค่ะ
    หวังว่าสิ่งที่นำมาแชร์ครั้งนี้จะพอเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ที่ลูกอยู่ในภาวะกระดูกสันหลังคดบ้างนะคะ เพราะตอนนี้เราเพิ่งรู้จักอาการนี้ ก็คอยหาข้อมูลแบบประติดประต่อเอง ถ้าท่านใดมีคำถามอะไร ส่งมาถามได้นะคะ ยินดีตอบในส่วนที่ทราบค่ะ  

ข้อมูลและภาพจาก pantip

บทความที่คุณอาจสนใจ