หนุ่มหันหลังจากงานรายได้ดี มาปลูกผักดูแลครอบครัว ทำเงินกว่า 400,000 ในไม่กี่เดือน!

LIEKR:

เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนที่อยากกลับบ้านเกิดค่ะ!

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    คนส่วนใหญ่ที่ยังอยู่ในพื้นที่ชนบทตอนนี้มักเป็นผู้สูงอายุหรือวัยกลางคน แต่ทว่าในเมืองอังคัง หมู่บ้านม้ายผิง มีวัยรุ่นวัย 20 กว่าปี เหมยเซาซง และภรรยาที่รัก อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กกับลูกชายวัย 3 ปีของพวกเขา ชาวบ้านเปิดเผยว่า: "ปัจจุบันพบน้อยมากที่จะมีวัยรุ่นปักหลักทำไร่ทำสวนที่ชนบท" 

    ที่แท้เมื่อตอนที่เหมยเซาซงอายุได้ 2 ขวบพ่อแม่ ห ย่ า ร้ า ง ทำให้ภาระในการเลี้ยงดูตกอยู่ที่คุณย่าของเขา เขาเล่าว่าเมื่อก่อนเคยออกไปทำงานที่มณฑลเจ้อเจียง แต่เนื่องจากพ่อล้ ม ป่ ว ย ไม่สบายจากไปกระทันหัน เหลือเพียงคุณย่าที่ชรามากแล้ว ทำให้เซาซงเป็นห่วงคุณย่ามาก จึงกลับบ้านมาดูแลคุณย่า เพราะคุณย่ามีบุณคุณกับเขามาก

 

Sponsored Ad

 

    ทว่าลูกของเขายังเล็กมาก ต้องการการดูแลจากพ่อแม่ หลังจากที่ปรึกษากับภ ร ร ย าแล้ว ก็ตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ในชนบทกับคุณย่า อาศัยการทำไร่ทำสวนเลี้ยงดูครอบครัว การทำไร่ทำสวนแตกต่างกับการทำงานมาก 

 

Sponsored Ad

 

    ปัจจุบันชีวิตการเป็นอยู่ก็สบายๆมาก เป็นอิสระ เพราะหน้าบ้านก็คือสวนของพวกเขา การดำเนินชีวิตค่อนข้างเรียบง่ายไม่เหมือนชีวิตการทำงานในเมือง ที่ต้องกังวลใจว่าคนชราที่บ้านจะเป็นอย่างไรบ้าง

    พื้นที่ชนบทนั้นอุดมไปด้วยใ บ ย า สู บ เพราะทั้งหมู่บ้านก็ปลูกเช่นกัน กลายเป็นพืชเศรษฐีของหมู่บ้านไปแล้ว เหมยเซาซงเป็นวัยรุ่นที่กล้าคิด กล้าทำ จากเริ่มต้นมีแค่  10 เอเคอร์ (ราว 25.3 ไร่ ) พัฒนาไปถึง 60 เอเคอร์ (ราว 151.8 ไร่) ปัจจุบันเหมยเซาซงกลายเป็นเถ้าแก่วัยรุ่นรายใหญ่ของหมู่บ้านไปแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นผู้ปลูก ใ บ ย า สู บ รายใหญ่ที่สุดและมีอายุน้อยที่สุดของหมู่บ้านในระแวกนั้น

 

Sponsored Ad

 

    เหมยเซาซงเปิดเผยว่า “เมื่อถึงช่วงที่ต้องหว่านและเก็บเกี่ยว สามีและภ ร ร ย า ก็จะยุ่งมากจนทำเองไม่ไหว จึงจ้างคนมาช่วยเหลือเก็บและอบใบยาสูบประมาณ 2.53 ไร่ หลังจากหักต้นทุน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว พวกเขามีกำไรสุทธิ 6,500 ถึง 8,700 บาท ฉะนั้นสวนใ บ ย า สู บ  60 เอเคอร์ ทำรายได้ต่อปีประมาณ 430,000 บาทอย่างไม่มีปัญหา เขาคิดว่าในอนาคตเขาจะทำการเกษตรปลูกพืชผักมากกว่านี้ เพราะจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น และเนื่องจากอยู่ห่างไกลจากเมืองทำให้มีค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก ซึ่งหากอยู่ในเมืองก็จะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆมากมายให้กังวลใจ”

 

Sponsored Ad

 

    บ้านสำหรับ อบ ใ บ ย า สู บ ให้แห้งก่อนถึงจะออกจำหน่ายได้ และเนื่องจากมีการปลูกมากขึ้น ทำให้ต้องขยายห้องอบใ บ ย า สู บ ให้ใหญ่มากขึ้นเพื่อรองรับใ บ ย า สู บ ที่มากขึ้น เหมยเซาซงได้จ้างผู้ช่วยมาช่วยงานทำให้ตนเองเบาแรงไปมาก เขาสร้างห้อง ย า สู บที่ใหญ่กว่าเดิม และรองรับการอบได้มากขึ้น 

 

Sponsored Ad

 

.

    นอกจากการทำสวน ใ บ ย า สู บ แล้ว เขายังเลี้ยงผึ้งไว้ที่บนต้นไม้หน้าบ้านอีกด้วย เขาบอกว่าการเลี้ยงผึ้งนั้นไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องดูแลมากมาย และไม่ต้องเสียเงินไปซื้อน้ำผึ้งอีกต่อไป สามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกปีเพียงพอสำหรับครอบครัวที่จะกิน น้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย  

 

Sponsored Ad

 

    ช่วงพักกลางวันก็เก็บของกลับบ้าน เหมยเซาซงก็พาลูกเล่นสนามในบ้าน ส่วนภ ร ร ย า ก็เข้าครัวทำกับข้าวให้คนในครอบครัวกิน เมื่อว่างจากการทำสวนในบางวันก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณย่า พูดคุยกับเธอ ไม่มีความเครียดเหมือนในเมือง

     เหมยเซาซงกล่าวว่า "ไม่ว่าจะทำงานได้เงินเท่าไหร่ แต่ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ให้เราใช้ชีวิตกับคนในครอบครัวอย่างมีความสุข มีชีวิตเรียบง่าย อยู่อย่างพอเพียง"

Sponsored Ad

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ที่มา:nocancers

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ