บอกเลยว่าในปัจจุบันนี้งานดีๆเงินดีๆนั้นก็เริ่มหายากขึ้นทุกวันทุกวัน แต่วันนี้เราก็จะมีข่าวดีมาฝากกันค่ะซึ่งตอนนี้ในสหภาพแรงงานในประเทศสวีเดนก็ได้มีประกันรายได้ให้กับผู้ที่เดินทางมาเก็บผลไม้ ซึ่งจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 80,000 บาทเลยทีเดียวและได้มีการจัดเตรียมที่พักข้าวของไว้สำหรับแรงงานไทยเป็นที่เรียบร้อยโดยจะมีที่พักจัดแยกเป็นหลายแคมป์ไม่แออัดอย่างเช่นปีที่ผ่านมาอีกด้วย

    และในทางด้านของประเทศฟินแลนด์ก็จะมีโควต้าให้แรงงานไทยไปเก็บผลไม้ประมาณ 2,000 คนซึ่งอธิบดีกรมการจัดหาแรงงานก็ได้มีการกล่าวว่าในขณะนี้ก็ได้มีแรงงานไทยมาลงทะเบียนเพื่อไปเดินทางเก็บผลไม้ในประเทศสวีเดนและฟินแลนด์ประมาณทั้งหมด 6 พันคน

โดยมีการเดินทางไปได้ทั้ง 2 รูปแบบนั้นก็คือ...
    1. การแจ้งการเดินทางผ่านบริษัทจัดหางาน
    2. เดินทางไปด้วยตัวเองและออกค่าใช้จ่ายด้วยตัวเองคนละประมาณ 7.5 100 บาท

คิดสักนิดก่อนจะตัดสินใจเดินทางไปเก็บผลไม้ป่า
    1.ควรคำนึงถึงความคุ้มค่า ในเรื่องของการเดินทางไปเก็บผลไม้บอกเลยว่ามีรายได้ที่ไม่แน่นอนแต่ก็ต้องคำนวณให้คุ้มทุน แรงงานนั้นจะต้อง จะต้องเสียค่าเดินทางค่านายหน้าและเมื่อไปต่างประเทศแล้วก็จะต้องเสียค่าน้ำมันค่าอาหารค่าที่อยู่อาศัยต่างๆอีกมากมาย..

    2. ทุกการทำงาน น้ำมีความเสี่ยงสำหรับการเดินทางแล้วถือว่าความเสี่ยงกับจำนวนเงินที่ได้นั้นก็มีหากพบสภาพอากาศแปรปรวนผลไม้ก็จะออกผลน้อยทำให้เก็บผลไม่ได้ทำให้รายได้ไม่พอแต่รายจ่ายจะนั้นจะต้องศึกษาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ในการเก็บผลไม้ป่าให้แน่ชัดเสียก่อนและประเมินความเสี่ยงเรื่องการขาดทุนซึ่งอาจจะไม่คุ้มเสียเท่าไหร่ในบางครั้ง

    3. การตัดสินใจโปรดศึกษาและพิจารณา ให้มีความละเอียดรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องดำเนินการทางด้านเอกสารและอ่านสัญญาให้ดีได้รายจ่ายเท่าไหร่ก็จะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง ควรมีการคำนวณทุกอย่างให้เรียบร้อยด้วยตัวเองเสียก่อน

ข้อควรรู้ :
    1. ตามปรกติแล้ว แรงงานเก็บผลไม้ป่าต้องอาศัยในต่างประเทศเพื่อเก็บผลไม้ระยะเวลาประมาณ 60 – 70 วันและต้องจ่ายค่าเช่าบ้านประมาณ 1,000 ยูโร (40,000 – 50,000 บาท)
    2. ค่าเช่าต่างๆ ที่ต้องจ่ายเป็นปรกติ ได้แก่ ที่พัก อาหาร อุปกรณ์เก็บผลไม้ ค่ารถ และค่าน้ำมันนอกจากนี้ ยังต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าการเดินทาง เช่น วีซ่า ประมาณ 1,500 ยูโร
    3.แรงงานเก็บผลไม้ป่าต้องเก็บผลไม้ประมาณ 15 – 20 กิโลกรัมต่อวัน และหากต้องการได้กำไรต้องเก็บผลไม้ป่าให้ได้อย่างน้อย 50 กิโลกรัมต่อวัน
    4.ลักษณะการทำงาน และจะต้องทำงานในสภาพอากาศหนาวจัด ระหว่างตีสามถึงหกโมงเย็น (03.00 – 18.00 น.) และอาจต้องแข่งขันกันเองในการเก็บเพื่อให้ได้ค่าจ้างมากขึ้น นอกจากนี้ หากอากาศเปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้จำนวนผลไม้ป่าน้อยลงด้วย

    หากมีข้อสงสัยหรือต้องการขอคำแนะนำและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการเก็บผลไม้ป่าสามารถติดต่อได้ที่ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน Hotline 1694, 1506 หรือที่เว็บไซต์ www.doe.go.th หรือ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ หมายเลขโทรศัพท์ 02981 7200 หรือที่เว็บไซต์ www.consular.go.th 

.

 *****   คำเตือน หากใครสนใจกรุณาศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพราะหลายๆ ความเห็นในเว็บไซต์ต่างกล่าวว่า การทำงานไม่ได้สบายอย่างที่คิด *****   

ข้อมูลและภาพจาก mthai