"เอ๋ ปารีณา" เปิดชีวิตหมดเปลือก อีก 6 ปีอยากมีแฟนใหม่ ยอมรับทำอะไรก็ดัง ลั่นช่วยไม่ได้

LIEKR:

"สมัยไม่ดังก็มีคนจีบค่ะ แต่พอดังไม่มีคนจีบแล้วค่ะ ดังปุ๊บคนไม่จีบเลย เพราะภาพมันเหมือนเราแรง คนก็จะกลัว คิดว่าแบบนั้นนะคะ" #เอ๋ปารีณา กล่าวกลางรายการ

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        เมื่อเร็ว ๆ นี้นักการเมืองดาวสภาในปี 2563 อย่าง "เอ๋ ปารีณา" ส.ส. จังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้มาเปิดใจถึงชีวิตผ่านรายการ ถามสุดซอย โดย เอ๋ ปารีณา ได้เผยว่า ตนเป็น ส.ส. มามากกว่า 15 ปีแล้ว เป็น ส.ส. สมัยแรก อายุ 28 ปี ซึ่งเหตุผลที่ก้าวเข้ามาเล่นการเมืองก็เพราะว่าตนตั้งใจอยากเป็นนักการเมืองเหมือนคุณพ่อ โดยเธอได้เผยว่า จริง ๆ แล้วคุณพ่ออยากให้พี่ชายเป็น ส.ส. แต่พี่ชายไม่เอา ส่วนน้องชายอายุไม่ถึง ตนจึงไปขอเขาสมัครเอง

 

Sponsored Ad

 

        ก่อนจะเล่าถึงชีวิตวัยเด็ก โดย เอ๋ ปารีณา ได้เผยว่าตอนเด็ก ๆ ตนไปอยู่อเมริกา ไปทำผม ก็มีคนชวนไปประกวดนางนพมาศตามวัดก็มี ใครเจอก็ชวนไปประกวด ตอนเด็ก ๆ หน้าตาดี พอโตขึ้นใครชวนประกวดก็ไป ไปเล่น ๆ เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก

 

Sponsored Ad

 

        และเมื่อถูกถามว่าไม่ได้อยากเข้าสู่นางงามหรือบันเทิง เจ้าตัวก็ได้เผยว่า "จริง ๆ ชอบทุกวงการ ทุกวงการมีเสน่ห์ และได้เข้ามาสัมผัสทุกวงการ ตอนเป็นนางงามไปไหนได้ตังค์ ได้เดินแฟชั่นโชว์ เพราะเป็นคนตัวสูง แต่เป็นคนไม่ขึ้นกล้อง แต่ถ้าการเมืองไปไหนจะมีแต่ค่าใช้จ่ายและเสียตังค์ นี่คือข้อแตกต่าง" เอ๋ ปารีณา กล่าว และเมื่อถูกถามว่าได้ตังค์แล้วทำไมไม่อยู่วงการ เอ๋ ปารีณา ก็มองว่าอายุปูนนี้แล้วอยู่ไม่ไหว เพราะปัจจุบันเด็กรุ่นใหม่ ๆ เยอะมาก สวยมาก 

        อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อก้าวเข้าสู่วงการการเมืองแล้วจะต้องโดนวิพากษ์วิจารณ์ และงานค่อนข้างหนัก ซึ่ง เอ๋ ปารีณา ก็เผยว่าตนก็เข้าใจ และยิ่งตนเป็นผู้หญิงด้วยและมาเล่นการเมืองด้วย จะยิ่งโดนโจมตีหนักหน่อย ถ้าเราไปยึดติดกับสังคมและเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากก็คงไม่ต้องทำอะไร เพราะมันต้องโดนอยู่แล้ว ตอนสมัยไม่ดังในการเมืองท้องถิ่นเล็ก ๆ ในจังหวัดตน แม้แต่นายก อบต. เวลาเขาแข่งขันกันก็สาดโคลนกันเรื่องปกติ ขนาดผู้ใหญ่บ้านยังสาดกันเลย ขุดขึ้นมา จริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่ด้วยระบบประชาธิปไตย ประชาชนจะเป็นคนชี้ขาดว่าเขาจะเอาใครเป็นผู้แทนราษฎรของเขา ตรงนี้เป็นอรรถรสและสีสันของการเมือง 

 

Sponsored Ad

 

        พร้อมกับบอกอีกว่า ถ้าใครที่ไปอินและเศร้าใจ เสียใจ ซีเรียส โมโหโทโสต่าง ๆ ก็ไม่ต้องเล่น แต่ถ้าเราคิดมาทำตรงนี้ คิดเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนในสภา ก็ต้องรับสภาพว่านี่คือการเมือง และการเมืองก็ต้องยอมรับว่ามันไม่สะอาด มันสกปรก แม้แต่ทุกวันนี้่ก็ยังมีคนส่งรูปตัดต่อมาให้ดู ซึ่งตนก็พยายามอธิบายคนสำคัญที่สุดในชีวิตคือ "ลูกชาย" ตนถามลูกชายว่าเชื่อไหมว่าเป็นรูปแม่ เขาก็หัวเราะ และบอกว่าแม่ไม่มีทางทำแบบนั้น "สิ่งสำคัญที่สุดคือลูกชาย แต่โชคดีดิฉันโตมาในสังคมแวดวงการเมือง เรื่องใส่ร้ายป้ายสีเกิดมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ" เอ๋ ปารีณา กล่าว

 

Sponsored Ad

 

        ซึ่งปัจจุบันตนรับได้และตนก็อยากให้ลูกรับได้ อย่างตอนที่ตนเป็นเด็ก ตนเห็นภาพคนโทรศัพท์มาขู่คุณพ่อ สมัยก่อนไม่มีโทรศัพท์มือถือ แม่รับโทรศัพท์บ้าน คุณแม่ก็บอกคุณพ่อว่าเขาจะไม่ให้เห็นหน้าลูกและเมียภายใน 7 วัน วันนี้มาหลายสายเลย ซึ่งแม่ตนชิลมาก ตนเติบโตมาเห็นการข่มขู่ใส่ร้ายป้ายสี สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อ แต่ตนก็ยึดมั่นว่าคุณพ่อเป็นคนดี เดินหน้าปราบคอร์รัปชันต่าง ๆ และปัจจุบันลูกชายตนอายุ 10 ขวบ ก็พยายามให้เขาเข้าใจว่าคุณแม่อยู่ในจุดที่ทำงานและต้องถูกอะไรต่ออะไรเยอะ เขาก็เข้าใจ

 

Sponsored Ad

 

เราเห็นธรรมเนียมแบบนี้จนปรับสภาพได้และเข้าใจแล้ว ด้านครอบครัวก่อนหน้านี้แต่งงาน มีครอบครัวก่อนมีลูกชาย ตอนนั้นครอบครัวรับได้ เข้าใจไหม ?

        เอ๋ ปารีณา : "ก็ไม่ค่อยเข้าใจ ตอนนั้นโซเชียลไม่แรงขนาดนี้ก็ยังมีปัญหา สามีเก่าไปอ่านเจอคอมเมนต์ แต่งงานกับไอ้เตี้ยที่เชียงใหม่อะไรแบบนี้ เขาก็โกรธดิฉันมาก ทั้งที่ดิฉันไม่ได้เป็นคนคอมเมนต์ เราก็พยายามอธิบายว่าการอยู่จุดนี้จะถูกวิจารณ์ทุกเรื่อง มันเป็นเรื่องปกติ ก็พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจเหมือนกัน เขาหงุดหงิดมาก แต่ก็ดีค่ะ วันนี้ก็เลิกกันไปแล้ว เขาก็ไปกับคนอื่นแล้ว เขาก็มีความสุขของเขา"

 

Sponsored Ad

 

จุดนี้ไหมเป็นสาเหตุของการหย่าร้าง ?

        เอ๋ ปารีณา : "ไม่น่าใช่นะคะ ดิฉันมีปัญหากับสามีมาโดยตลอด ในที่สุดก่อนดิฉันเซ็นใบหย่า มีการคลอดลูกกับคนอื่น 3 เดือนก่อนหย่ากัน ก็เป็นหลายสาเหตุที่ผู้หญิงประสบอยู่ มีปัญหาระหองระแหงกันตลอด ทะเลาะกันเยอะ ส่วนปัจจุบันนี้ไม่ได้คุยกันแล้ว แต่เห็นเขามีความสุขกับครอบครัวใหม่ก็ดีใจกับเขา"

ตอนนี้โสด ?

Sponsored Ad

        เอ๋ ปารีณา : "โสดและมีลูกชายค่ะ คิดว่าอีก 5-6 ปี อยากมีแฟน ตอนนี้งานเยอะ พยายามเตรียมหาซื้อที่ดินทำฟาร์มไก่ใหม่ด้วย ชอบเลี้ยงไก่"

มีคนเข้ามาจีบไหม ?

        เอ๋ ปารีณา : "สมัยไม่ดังก็มีคนจีบค่ะ แต่พอดังไม่มีคนจีบแล้วค่ะ ดังปุ๊บคนไม่จีบเลย เพราะภาพมันเหมือนเราแรง คนก็จะกลัว คิดว่าแบบนั้นนะคะ"

อะไรเป็นสาเหตุทำให้เราดัง ?

        เอ๋ ปารีณา : "วันนี้มีพื้นที่โซเชียลมีเดีย ซึ่งสมัยก่อนไม่มี พอมีโซเชียลขึ้นมาและเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงออกความคิดเห็นต่าง ๆ และการแสดงออกของดิฉันไปถูกใจคนเยอะ และไม่ถูกใจคนเยอะ ก็เกิดกระแสขึ้นมา อย่างทุกครั้งที่ไปออกรายการจะมียอดวิวสูงมาก มันเกิดจากการที่ดิฉันตอบคำถามเท่านั้นเอง"

ทุกครั้งการออกความคิดเห็น มันออกมาจากความต้องการของเราโดยตรงไหม ?

        เอ๋ ปารีณา : "ถามมาตอบไปค่ะ ไม่ได้คิดอะไรเลย แต่พอเราพูดหรือโพสต์อะไรออกไป ทำให้มีคนชอบมากและเกลียดมากเท่านั้นเอง"

แต่มีกระแสว่าคุณเอ๋ไม่ได้จบเมืองนอก ?

        เอ๋ ปารีณา : "เป็นกระแสโจมตีค่ะ ทุกวันนี้ยังถูกโจมตีอยู่ แต่เชื่อว่า ณ วันนั้นที่มาใหม่ ๆ คนเชื่อเยอะ ดูถูก ดูหมิ่นดูแคลนกัน ลดศักดิ์ศรี ดิสเครดิตทุกอย่าง แต่คิดว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนเริ่มแยกแยะออกแล้วว่าอะไรคือโซเชียลมีเดีย อะไรคือความบันเทิง อะไรคือเกรียนสนุกกัน และเชื่อว่าอาจมีกระบวนการด้วยหน่อย ๆ เพราะผู้ใดที่เห็นต่างก็โดนหมด ดิฉันเป็นรุ่นแรกที่โดน ประชาชนเริ่มมองเห็นแล้ว"

แสดงว่าไม่จริง ?

        เอ๋ ปารีณา : "ไม่จริง เป็นการโจมตี ดิสเครดิตกัน ดิฉันใช้วุฒินั้นในการสมัคร ส.ส. ถ้าดิฉันไม่จบก็ต้องมีปัญหา"

เป็นดาวสภาในระยะที่ผ่านมา ไปเล่นติ๊กต๊อกด้วย เพราะอะไร ?

        เอ๋ ปารีณา : "เจอนักข่าวที่สภาบอกว่าทำไมปารีณาไม่เล่นติ๊กต๊อก ก็เลยบอกว่าเล่นไม่เป็น นักข่าวที่สภาก็สอนเลย ก็เลยโพสต์ไป คนดูเยอะ มีเต้นอันสองอัน ว่าจะเต้นเพิ่มเหมือนกันแต่ไม่มีเวลา เพิ่งจะทราบว่าพอเราลงพื้นที่ กลายเป็นเด็กเล็ก ๆ วิ่งมาขอถ่ายรูป แสดงว่าติ๊กต๊อกเด็กเล่นเยอะ แล้วก็มีคนอื่นเอาคลิปดิฉันไปตัดต่อเพื่อความบันเทิงเยอะ ดิฉันดูก็ตลกเหมือนกัน"

มีคนล้อเลียนเยอะ ?

        เอ๋ ปารีณา : "ใช่ มีคนปลอมเป็นดิฉันเยอะ ก็สนุกดี เป็นบันเทิงไป ไม่ได้ซีเรียส ไม่ได้เอาเรื่องใคร"

เวลาเขาเอารูปเรามาล้อเลียน เห็นแล้วรู้สึกยังไง โกรธไหม ?

        เอ๋ ปารีณา : "รู้สึกว่าเป็นแค่ผู้แทนราษฎรตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มีความสำคัญเท่าไหร่ ถ้าใครจะเอาดิฉันไปเพื่อความบันเทิงก็ไม่ได้ขัดอะไร แต่ถ้าเอาไปตัดต่อรูปโป๊ ดิฉันไม่พอใจ ถ้าเอาไปทำบันเทิงในลักษณะเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ก็ไม่เป็นไร"

คิดไหมว่าภาพนักการเมืองไม่ควรมีภาพออกมาเต้น ร้องเพลง ออกมาในแนวบันเทิงเยอะ เพราะมันดูไม่เป็นนักการเมือง ?

        เอ๋ ปารีณา : "มีผู้ใหญ่ในพื้นที่ราชบุรีพูดแบบนี้เหมือนกัน เขาพูดว่าเราไม่ควรเต้นติ๊กต๊อก ไม่ควรเล่นติ๊กต๊อกด้วย ก็รับฟังได้ แต่โดยปกติกลางคืนดิฉันก็รำวงเยอะ รำวงย้อนยุค ไปเต้นรำ ไปร้องเพลงเยอะเลยค่ะ เข้าใจว่าภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถืออาจลดลงจากการที่เราไปเต้นรำ แต่มั่นใจว่าเป็นสิ่งที่ตัดสินใจและน้อมรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว"

บุคลิกลักษณะนิสัยโดยเฉพาะการออกมาตอบโต้ แสดงความคิดเห็นหลายเรื่อง เราตั้งใจสร้างภาพของเราให้เกิดขึ้นในสังคม ในสภาไหม ?

        เอ๋ ปารีณา : "ไม่ได้ตั้งใจ เพราะอย่าลืมว่าผู้แทนราษฎรของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลในเฟซบุ๊กเหมือนกันเลย ฝ่ายค้านก็ด่าฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายรัฐบาลก็ด่าฝ่ายค้าน แต่สังเกตอย่างหนึ่ง ดิฉันก็มีพฤติกรรมเดียวกันกับเฟซบุ๊กสองฟากฝั่ง แต่ประชาชนอาจให้ความสนใจดิฉันเยอะแค่นั้นเอง"

คิดว่าเพราะอะไร ?

        เอ๋ ปารีณา : "เพราะถูกใจและไม่ชอบใจ แต่คนอื่นก็โพสต์กันทั้งวันเหมือนกัน"

บางคนอาจมองว่าเราเหมือนตัวตลก ติ๊งต๊อง ไม่เต็ม เคยได้ยินแบบนี้ไหม ?

        เอ๋ ปารีณา : "เคยค่ะ มดดำก็พูดอยู่ค่ะ เรื่องตลก ดิฉันเป็นคนตลกจริง ๆ"

เขาไม่ได้มองในเรื่องคนเอนเตอร์เทน แต่เขามองเราเป็นตัวตลก ?

        เอ๋ ปารีณา : "ก็เป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าดิฉันติ๊งต๊องจริง ใครจะมาเลือกดิฉัน ใครจะให้ความสนใจขนาดนี้ เพราะทุกคำพูดถ้าดูในสิ่งที่ดิฉันพูดหรือโพสต์ มันมีความหมาย มีสิ่งที่พยายามสื่อสารให้พี่น้องประชาชนทราบ แต่อาจแฝงด้วยมุกตลกเข้าไปเล็กน้อยด้วยลักษณะนิสัย"

พูดไปพูดมาเหมือนวกไปวนมา พูดไม่ค่อยเข้าใจ ไม่รู้เรื่อง อันนั้นตั้งใจ ?

        เอ๋ ปารีณา : "ไม่ได้ตั้งใจ เป็นเรื่องที่พยายามแก้ไขอยู่ ขนาดพูดกับลูกชายเขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจดิฉัน พูดภาษาอังกฤษ-ไทยก็ไม่เข้าใจ เขาว่าคุณแม่เข้าใจยาก พยายามแก้ไขอยู่ อาจจะเป็นเพราะบางวันพักผ่อนน้อยจริง ๆ ดิฉันเป็นคนงานเยอะมาก ๆ เพราะทำงานในสภาและนอกสภา นอกจากรับเรื่องร้องเรียนพี่น้องในพื้นที่แล้ว ทั่วประเทศก็มาร้องเรียน วินมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศไทยก็มาร้องเรียนดิฉัน ถูกอิทธิพลทำร้ายร่างกาย ยึดวินคืนก็มาร้องเรียน รถตู้ไม่ได้รับการเยียวยาอะไรต่าง ๆ ก็มาช่วยกันหาทางออกในสภา ดิฉันรับเรื่องทั่วแผ่นดินเลยค่ะ และตอนนี้เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วย เน้นเลี้ยงดูด้วยตนเอง"

มีหลายบทบาทหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ?

        เอ๋ ปารีณา : "ใช่ค่ะ ดิฉันงานเยอะจริง ๆ พักผ่อนน้อย ก็ยอมรับว่าบางวันอาจจะเบลอค่ะ การพูดไม่รู้เรื่องบางครั้งก็ไม่รู้เรื่องจริง ๆ อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปหลายครั้งว่าดิฉันก็พูดไม่รู้เรื่อง"

เคยคิดไหมหรือสงบปากสงบคำลงหน่อยเพื่อให้มีคดีความน้อยลงหน่อย จะได้ไปอยู่กับลูกมากขึ้น ?

        เอ๋ ปารีณา : "ถ้าสงบปากสงบคำเพื่อให้คดีน้อยลงมันไม่จำเป็น เพราะเป็นระบบกล่าวหา ต่อให้สงบปากสงบคำคนก็กล่าวหาได้ เป็นกฎหมายไทยอยู่แล้ว ไปว่ากันที่ศาลเลย แต่สำหรับลูกชาย ดิฉันมีเวลาให้ลูกเยอะ สิ่งแรกที่กลับไปคือต้องทานข้าวกับลูกและเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอน มั่นใจว่าลูกดิฉันเป็นเด็กแฮปปี้ ขี้เล่นเหมือนดิฉันเป๊ะเลย"

ลูกโดนล้อบ้างไหม พอคนรู้ว่าคุณแม่คือคุณเอ๋ ?

        เอ๋ ปารีณา : "ยังไม่ปรากฏ ณ ตอนนี้ แต่มีเขาโทรศัพท์เล่นเกมกับเพื่อน ดิฉันไปคุยกับเขาด้วย เขาเปิดโฟน ถามว่าเขากินอะไรตัวสูง แล้วแม่เขาได้ยินก็มาบอกว่าสู้ ๆ นะคะ เป็นกำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ เชื่อว่าการถูกล้อ ตัวดิฉันในโซเชียลเป็นแค่คนกลุ่มเดิม กลุ่มเล็ก ๆ ดิฉันเชื่อว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่อยู่ฝั่งเดียวกับดิฉันค่ะ"

ลูกชายเข้าใจไหม ?

        เอ๋ ปารีณา : "เข้าใจค่ะ เคยลองถามเขาดูเล่น ๆ เหมือนกัน เขาก็ยืนข้างแม่เขาตลอด ดิฉันเลี้ยงลูกด้วยตนเองและเลี้ยงใกล้ชิดมาก ดิฉันมั่นใจว่าเขาไม่มีปัญหากับเรื่องนี้"

สอนลูกยังไงในการดำเนินชีวิต หรือการใช้ชีวิตอยู่ในสังคม ?

        เอ๋ ปารีณา : "ดิฉันจะบอกให้ลูกชายเป็นตัวของตัวเองและให้ฟังแม่ที่สุดของชีวิต เพราะดิฉันไม่ถูกต้องทุกอย่าง แต่เป็นคนที่ปรารถนาดีที่สุดกับลูก ดังนั้นแนะนำไปให้รับฟังด้วย และคิดยังไงให้โต้ตอบกลับมา เราสัญญากันว่าจะให้เกียรติกัน ถ้าดิฉันจะกลับบ้านดึกก็ต้องขออนุญาต ถ้าเขาไปไหนต้องขออนุญาต ดิฉันจะกินอะไรก็ต้องขออนุญาต เขาจะเป็นเหมือนเพื่อนกัน ดูแลกัน"

มีหลายคนบอกว่าพอมีกระแสการเมืองที่ร้อนแรง คุณเอ๋ออกมาเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นเสมอ เป็นหน้าที่ของเราหรือเปล่า ?

        เอ๋ ปารีณา : "มันไม่เกี่ยวค่ะ มันดังจริง ๆ ทำอะไรก็ดังไปหมด ก็ช่วยไม่ได้ ไม่ได้มีเจตนา สื่อเขาทำเอง ดิฉันไม่ได้มีเจตนา แล้วบางประเด็นโพสต์ไป สาระเยอะหน่อยก็ไม่ได้พื้นที่ แต่สื่อสนใจในประเด็นอะไรแบบนั้น"

เรารู้เลยออกมาตรงนี้แหละเพื่อดึงความสนใจ ?

        เอ๋ ปารีณา : "ไม่มีเจตนาจริง ๆ ค่ะ เป็นไปตามธรรมชาติทั้งหมด เป็นคนชอบอ่านข่าว เห็นข่าวอะไรก็โพสต์ ๆ โพสต์ไปโพสต์มาสื่อรวมตัวจับประเด็นนี้เล่นกันเอง"

คนชอบกับคนไม่ชอบ คิดว่าอย่างไหนมากกว่ากัน ?

        เอ๋ ปารีณา : "ไปไหนมาไหนคนเดียวอยู่ก็ไม่มีอะไร มีคนให้กำลังใจเยอะ"

คิดว่าจะเป็นนักการเมืองไปถึงเมื่อไหร่ ?

        เอ๋ ปารีณา : "ก็เป็นไปเรื่อย ๆ ค่ะ พยายามทำให้ดีที่สุดทุกวัน"

นอกจากการเมือง มีการมองอาชีพอื่น ๆ ไหม ?

        เอ๋ ปารีณา : "ตอนนี้เหลือวัว ก็เลี้ยงวัวอยู่ ฝากไว้ตามบ้านเพื่อนค่ะ วัวมหาศาล 500 ตัว เยอะมาก ก็ฝากเพื่อน ๆ ดูแลอยู่"

ถ้าไม่ทำการเมืองจะทำอะไร จะเลี้ยงวัว เลี้ยงไก่ ?

        เอ๋ ปารีณา : "ค่ะ ดิฉันชอบอาชีพนี้ มันสนุกดีค่ะ อยากเป็นเกษตรกรแบบนี้ไปเรื่อย ๆ และพ่วงนักการเมืองด้วย เพราะเราเป็นที่ยอมรับของคนในพื้นที่"

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ที่มา : รายการ ถามสุดซอย

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ