เปิดโปรไฟล์ "ไฮโซเจมส์" สามี "เอมมี่ มรกต" หลังทุ่มเงินพึ่งแพทย์-มีทายาท

LIEKR:

เปิดโปรไฟล์ "ไฮโซเจมส์" สามี "เอมมี่ มรกต" หลังทุ่มเงินพึ่งแพทย์-มีทายาท

        ดีกรีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สประจำปี 2547 และเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวดนางงามจักรวาล เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก "เอมมี่ มรกต" ที่มีความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะด้านธุรกิจ นางแบบ นักแสดง หรือแม้กระทั่งร้องเพลงและเต้น เห็นได้ชัดจากรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ที่เอมมี่เป็นหน้ากากปลาหมึก

        เอมมี่มีชื่อเสียงจากการรับบทนางร้ายในละคร เช่น เจ้าแม่ทอหูก, ภูติแม่น้ำโขง, อาญารัก เป็นต้น และเธอแต่งงานกับไฮโซเจมส์ จิรายุทธ แสงทวีป เมื่อปี 2558 ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจโปรดักชั่นเฮ้าส์อย่าง Triton โดยความรักคู่นี้ถือว่าเสมอต้นเสมอปลาย เป็นกำลังใจให้กัน และมักจะควงกันไปเติมความหวานด้วยการเดินทางท่องเที่ยวบ่อยๆ

 

 

เมื่อปี 58 ซึ่งทั้งคู่ได้เปิดใจครั้งแรก ถึงเรื่องราวความรักของทั้งสอง

คุณทั้งคู่เจอกันครั้งแรกที่ไหน

 

 

        เจมส์ : “ผมเจอเอมมี่ครั้งแรกที่ Triton บริษัทผมเองครับ รู้สึกว่าจะเป็นงานแคสต์โฆษณาอะไรสักอย่าง”

        เอมมี่ : “ประมาณ 9 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราไปแคสต์โฆษณาแชมพูตัวหนึ่งของต่างประเทศ แล้วบริษัทของพี่เขาเป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์ ก็เจอกันตั้งแต่วันแรกเลย”

 

 

แล้วเดทแรกที่ไหนครับ

        เจมส์ : “รู้สึกว่าจะเป็นที่รพ.เซ็นต์หลุยส์ พอดีผมพาน้องไปรักษาแผลที่ขา”

 

 

        เอมมี่ : “พอดีเอมมี่เดินแบบในงานหนึ่งแล้วเกิดอุบัติเหตุที่ขา เขาก็เลยพาเราไปโรงพยาบาล ก็นั่นละ เป็นเดทแรกของเรา ก็แปลกๆ ดีเหมือนกัน”

คุณทั้งคู่ประทับใจอะไรในกันและกัน

 

 

        เจมส์ : “ประทับใจที่น้องเป็นคนจิตใจดี (ยิ้ม) เห็นอกเห็นใจเคารพคนอื่น มองโลกในแง่ดี เป็นคนฉลาด ที่สามารถแลกเปลี่ยนมุมมองต่อเรื่องราวต่างๆในชีวิตได้ดี”

        เอมมี่ : “คุยกันถูกคอ ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เหมือนมีความชอบอะไรที่คล้ายๆ กัน โดยเฉพาะเรื่องการตกแต่งบ้านที่ชอบเหมือนกัน”

 

 

คบกันมา 9 ปี ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

        เจมส์ : “รู้สึกว่าชีวิตสมบูรณ์ขึ้น มีคนที่เราไว้ใจและสามารถแชร์สุขและทุกข์กับเราได้”

        เอมมี่ : “เขาเป็นคนที่ใส่ใจเราแบบเสมอต้นเสมอปลาย ดูแลเราดีมากๆ แล้วเราคบกันมานาน ตั้งแต่ช่วงที่เราเด็กๆ จนทุกวันนี้ มันเหมือนเราเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างไปพร้อมกัน”

เห็นภาพใน Instagram ที่ฝ่ายชายขอแต่งงาน คุณทั้งคู่ช่วยเล่าโมเมนต์นั้นให้ฟังหน่อยซิว่าเกิดอะไรขึ้น

        เจมส์ : “พูดขอแบบไหน ลองฟังจากน้องเขาดูดีกว่าครับ”

        เอมมี่ : “เราไม่รู้ตัวมาก่อน พอดีกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่อังกฤษ แล้วเขาก็ชวนว่าไปปารีสเลยละกัน จะได้ไปดูงานด้วย ก็คะยั้นคะยอให้เราไปปารีสให้ได้ ซึ่งเราก็ชอบอยู่แล้ว ไปไม่เคยเบื่อ ก็โอเคตกลงไป พอดีที่ปารีสเขาก็จองร้านอาหารร้านหนึ่งไว้ ซึ่งเป็นร้านดัง แต่ก่อนจะไปทานข้าว”

        เขาบอกว่าพอดีนัดเพื่อนชื่อ Tammy ไว้จะคุยงาน เราก็เอะใจว่าเป็นใคร พอดีระหว่างเดินไปเจอ Tammy ที่สะพานแห่งหนึ่ง ก็มีเพลง All of Me ของ John Legend ดังขึ้น ซึ่งเป็นเพลงที่เราชอบมาก เริ่มรู้เลยว่าเขาต้องขอแต่งงานแน่ๆ เขาก็คุกเข่าจับมือขวาเราจะสวมแหวน เราก็สลับยื่นมือซ้ายให้แล้วบอกว่า “พี่ค่ะ มือนี้ค่ะ” เราก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะตื่นเต้นน้ำตาไหลอยู่ ได้แต่ยื่นมือไปให้เขาสวมแหวน

        ซึ่งก่อนหน้านี้เธอต้องนอนติดเตียงนานถึง 14 วัน โดยที่ไม่มีสามี “เจมส์ จิรายุทธ” ดูแลเพราะเป็นช่วงที่สามีบินไปทำงานต่างประเทศพอดี แต่พอทุกอย่างสำเร็จก็ดีใจมากที่สุด

        “ก็ดีใจค่ะ แล้ววันนี้ก็เป็นวันแรกที่ออกงาน เพราะเป็นงานเพื่อน ก็โชว์พุงซะหน่อยให้นางออกมาโชว์ตัวนิดหนึ่ง”

ลุ้นกี่ปีกว่าจะมา ?

        “ประมาณปีครึ่งค่ะ อย่างที่ทุกคนทราบกันว่ามี่ก็จะมีเดดไลน์ที่คุณสามีให้ไว้ เหลืออีก 2 เดือน โชคดีที่มาทันพอดีเลย”

มาธรรมชาติหรือเปล่า ?

        “เป็นคุณหมอช่วย เพราะธรรมชาติมี่รอปีครึ่งแล้วก็เสียใจร้องไห้นานมาก ก็เลยต้องปรึกษาคุณหมอ เป็นเรื่องของการฝากไข่แล้วคุณหมอก็ช่วยๆ จัดแจงให้”

ปรึกษานานไหมด้วยวิธีนี้ ?

        “ประมาณปีหนึ่งพอไม่มี ก็เข้าไปปรึกษาคุณหมอ ขั้นตอนคือต้องตรวจทั้งคุณพ่อคุณแม่ ก็ไม่มีอะไรผิดปกติค่ะ แต่ว่าอาจจะเป็นเพราะช่วงก่อนหน้านี้มี่ทำงานเยอะมาก แล้วก็อาจจะเครียดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมี่เชื่อคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านอาจจะเจอประเด็นนี้ อาจจะคิดว่าตัวเองไม่ได้เครียด แต่ด้วยหน้าที่ภาระต่างๆ เลยทำให้เราอาจจะไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ ทำให้น้องติดยากค่ะ”

กรี๊ดไหมตอนรู้ ?

        “ก็กรี๊ด เพราะว่าเราต้องตรวจด้วยตัวเอง พอขึ้นสองขีดวิ่งเข้าไปปลุกพี่หนุ่มเลย พี่หนุ่มก็ถามว่าเป็นอะไร เราก็บอก เนี่ย มาแล้ว พี่หนุ่มก็บอกใจเย็นๆ อย่าไปทำอะไรที่มันเยอะแยะ อย่าขยับตัวมาก เพราะมี่เป็นคนไฮเปอร์ กระโดดไปมา นางก็บอกเดี๋ยวเขาก็ไม่อยู่ด้วยหรอก มี่ก็เลยต้องอยู่เฉยเป็นหุ่นยนต์เลย”

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก IG : aimeemorakot, jamesjirayuth, truststoreonline

บทความที่คุณอาจสนใจ