เกาะเล็กๆ ที่มีการปกครองตนเอง ไม่ใช้เงินตรา มีประชากรแค่ 62 คน ที่สืบเชื้อมาจากชายคนเดียว

LIEKR:

เกาะ #Palmerston เป็นเกาะขนาดเล็กมาก ไม่ติดต่อกับผู้คนภายนอก อยากลองไปใช้ชีวิตที่นั่นดูไหม

    เชื่อหรือไม่ว่า บนโลกใบนี้มีสิ่งมหัศจรรย์หลายอย่างที่เราไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ เหมือนเช่นเกาะที่แอดจะแนะนำในวันนี้ มันเป็นเกาะที่มีขนาดเล็กมาก เล็กจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีมนุษย์อาศัยอยู่บนเกาะนี้จริงๆ  

    เป็นเกาะที่สามารถเดินทางไปได้ด้วยเรือเท่านั้น และต้องใช้เวลานานถึง 9 วันในการเดินทาง เกาะเล็กๆ 

 

Sponsored Ad

 

       เกาะแห่งนี้มีชื่อว่า Palmerston (เกาะปาลเมอร์สตัน) เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะคุก เขตปกครองตนเองของนิวซีแลนด์ ซึ่งประกอบไปด้วยเกาะเล็กๆ 15 เกาะ ในมหาสมุทรแปซิฟิก โดย Palmerston ปัจจุบันมีประชากรอาศัยอยู่เพียง 62 คน

 

Sponsored Ad

 

        เกาะปะการัง หรือ อะทอลล์ ซึ่งก็คือเกาะปะการังรูปวงแหวนที่ล้อมรอบลากูน ที่อาจล้อมปิดลากูนโดยสมบูรณ์หรือล้อมรอบเป็นบางส่วนก็ได้ และยังตั้งอยู่บนภูเขาไฟที่ดับไปนานแล้วตั้งแต่สมัยอดีต

        บนเกาะมีไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตใช้นะ แต่สามารถใช้ได้เพียงวันละไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนเรื่องน้ำดื่ม น้ำใช้อาบน้ำ และทำกับข้าว พวกเขาจะใช้วิธีรองน้ำฝนเอาไว้ บนเกาะแห่งนี้ไม่มีการแลกเปลี่ยนด้วยเงินตรา ผู้คนต่างช่วยกันปลูกพืชโดยเฉพาะมะพร้าวและจับปลา จากนั้นก็นำผลผลิตไปขายให้กับผู้คนบนแผ่นดินใหญ่เพื่อแลกซื้อกับของที่จำเป็น

 

Sponsored Ad

 

    หมู่เกาะนี้ถูกค้นพบโดยนักสำรวจชื่อ James Cook แต่หลังจากที่ถูกค้นพบนานนับร้อยปีก็ยังไม่มีผู้คนอพยพมาอยู่อาศัย จนกระทั่งเมื่อปี 1800 ช่างไม้ชาวอังกฤษ William Marsters ได้ตกหลุมรักและอยากเข้ามาใช้ชีวิตอยู่บนเกาะแห่งนี้ ซึ่งขณะนั้นเกาะแห่งนี้เป็นสมบัติของ John Brander  ดังนั้น พ่อค้าชาวอังกฤษที่ชื่อ William ก็เลยไปหา John และพูดคุยเรื่องนี้ จนกระทั่งภายหลัง John ก็เลยยกเกาะแห่งนี้ให้กับ William เป็นผู้ดูแลเกาะแทน (หลังจากที่ John เสียชีวิต) 

 

Sponsored Ad

 

    จากนั้นเขาและครอบครัวก็ย้ายเข้าไปอยู่อาศัยพร้อมกับภรรยาและญาติภรรยาอีก 2 คน (ภายหลังเขาแต่งงานกับญาติภรรยาด้วย) William เริ่มปลูกมะพร้าวและทำน้ำมันมะพร้าวส่งออกแลกกับของกินของใช้ที่จะถูกขนส่งมาทางเรือปีละ 2-3 ครั้ง  (นี่คือภาพ William Marsters  ชาวอังกฤษ)

       ต่อมา ในช่วงปี 1950-1970 นั้นมีประชากรบนเกาะมากถึง 300 คน แต่ต่อมาคนหนุ่มสาวก็เริ่มอพยพออกไปทำงานในเมือง และทำให้เกิดการแต่งงานกับญาติใกล้ชิดมากขึ้น ซึ่งนายอำเภอบนเกาะแห่งนี้ก็ได้เปิดเผยให้สื่อฟังว่า พ่อของเขาและพ่อของภรรยานั้นเป็นพี่น้องกัน และทั้งคู่ไม่ทราบมาก่อนจนกระทั่งแต่งงานกันแล้ว และเนื่องจากคนบนเกาะนั้นมีน้อยมากจึงมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ

 

Sponsored Ad

 

    โรงเรียนบนเกาะแห่งนี้ 

    วิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยบนเกาะแห่งนี้  ซึ่งส่วนใหญ่ทุกคนคือญาติกัน 

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากเรื่องของผู้อยู่อาศัยแล้ว ธรรมชาติของที่นี่ยังความสวยงามและคงความเป็นธรรมชาติมาก

    เนื่องจากภายหลัง ผู้ที่เข้ามายังเกาะก็ค่อยๆ ลดลง จนในที่สุดก็ไม่มีใครเข้ามาอีกเลย ถือว่าเป็นอีกกลุ่มที่ตัดขาดความวุ่นวายจากโลกภายนอกอย่างเด็ดขาด ตอนนี้พวกเขาก็ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขแบบวิถีของพวกเขา

ที่มา : boredpanda

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ