แพทย์เตือน! "เปิดไฟนอน" อาจทำให้อ้วนขึ้นอย่างน้อย 5 กก. ฉะนั้นควรให้ห้องมืดสนิท

LIEKR:

ใครชอบเปิดไฟนอนต้องได้อ่าน!!

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    มีหลายคนที่มักชินกับการเปิดโคมไฟ หรือ ไฟดวงเล็กๆ ในขณะนอนหลับ นอกจากจะสะดวกเวลาตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกแล้ว ยังช่วยลดความรู้สึกวิตกกังวลสำหรับคนที่ไม่ชอบความมืดอีกด้วย แต่ทว่ามีงานวิจัยเผย “การเปิดไฟนอน” จะทำให้อ้วนได้ง่าย เพราะ...

    สื่อต่างประเทศรายงานว่า วารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน JAMA เปิดเผยว่า  ผู้หญิงที่อ้วนได้ง่ายมันมีความน่าจะเป็นที่สัมพันธ์กับผลกระทบของแสงไฟขณะนอนหลับ!

 

Sponsored Ad

 

    การศึกษาพบผู้หญิง 43,722 คนอายุระหว่าง 35 ถึง 74 ปี ใช้เวลาในการทดลองนานถึง 5 ปี ในช่วงเวลานั้นพวกเขาจำลองแหล่งกำเนิดแสงต่าง ๆ ที่อาจปรากฏในสภาพแวดล้อมการนอนหลับที่หลากหลายเช่น ไฟถนน โคมไฟดวงเล็ก  หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ โทรทัศน์ นาฬิกาปลุกและอื่น ๆ ผลที่ได้คือ แสงเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับโรคอ้วนจริงๆ 

 

Sponsored Ad

 

    นักวิจัยกล่าวว่าพวกเขาใช้ข้อมูล BMI ของอาสาสมัครเพื่อสังเกตและพบว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนั้น มีความเกี่ยวข้องกับการเปิดรับแสงในระหว่างการนอนหลับ ทำให้ผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากแสงนั้นมากกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้รับแสงคือมีโอกาสน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 กิโลกรัม เฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 17% BMI เพิ่ม 10%

    การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า แม้ว่าปัจจัยอื่น ๆ เช่น ชั่วโมงการนอนหลับ อาหารและการออกกำลังกายจะมีความสัมพันธ์ดังกล่าวยังคงสูง

 

Sponsored Ad

 

    แต่ก็มีแพทย์หลายคนออกมาเปิดเผยว่า แสงโดยรอบระหว่างการนอนหลับก็ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนหลับเพราะการได้รับแสงจะช่วยชะลอการง่วงนอนของร่างกาย ทำให้ร่างกายนึกว่ายังเช้าอยู่ จึงไม่อยากนอนหลับ นอกจากนี้การร่างกายจะเปลี่ยนระบบฮอร์โมน เมลาโทนิน (Melatonin)ลดลง การนอนหลับไม่เพียงพอสามารถนำไปสู่ความหิวโหยและความอยากอาหารได้ ดังนั้นน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ...

 

Sponsored Ad

 

    เมลาโทนิน (Melatonin) เป็นฮอร์โมนที่สร้างมาจากต่อมไพเนียลที่อยู่ในบริเวณส่วนกลางของสมอง ในช่วงเวลากลางวันต่อมไพเนียลจะไม่ได้ทำงาน แต่เมื่อถึงเวลากลางคืน ต่อมไพเนียลจะทำการหลั่งเมลาโทนินออกมาสู่กระแสเลือดทำให้ร่างกายรู้สึกง่วง ตามที่ National sleep foundation กล่าว ระดับของเมลาโทนินจะคงอยู่ในกระแสเลือดของเราเป็นเวลา 12 ชั่วโมงแล้วจะค่อยๆ ลดลงพร้อมกับการกลับมาของแสงอาทิตย์

    ชมคลิป

    คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<


ที่มา:lookernew

แปลและเรียบเรียงโดย Liekr

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ