หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        เด็กลูกครึ่งไทย อิตาลี สัญชาติเยอรมัน วัยเพียง 5 ขวบ เป็นเด็กไทยคนแรกที่ฝ่าออดิชั่นนำวัฒนธรรมไทยแข่งขันในรายการชื่อดังระดับประเทศ จนเป็นที่ชื่นชอบของคนเยอรมัน ยอดคนดูยูทูบเกือบล้าน แต่น่าเสียดายไม่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ชวดเงินรางวัล 11 ล้าน...

        เรื่องราวน่ายินดีและยกย่องนี้ นางศิริลักษณ์ มาลานดรีโน หรือ แป๋ม ชาว จ.หนองบัวลำภู ผู้เป็นแม่ เปิดเผยข้ามทวีปอย่างละเอียดกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ถึงการปลูกฝังวัฒนธรรมไทยให้ลูกสาวเมลิซซ่า หรือ ด.ญ.เมลิซซ่า ณัชชา มาลานดรีโน ว่าอาจเพราะมีสายเลือดศิลปิน ซึมซับมาจากตัวเธอที่เป็นคนชอบรำไทยอยู่แล้ว ชื่นชอบจนถึงขั้นสามารถเรียนจบจากวิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น น้องเมลิซซ่า กับ นางศิริลักษณ์

        มื่อแต่งงาน กับสามี (นายจูเซ็ปเป มาลานดรีโน) มาอยู่เมืองแฮนแน (Herne) ประเทศเยอรมนี ทุกครั้งที่มีงานวัด หรืองานต่างๆ ของคนไทยในเยอรมนี นางศิริลักษณ์ก็ไปรำไทยกับเพื่อน และรุ่นน้องที่จบมาจากวิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์เดียวกัน ที่บังเอิญมาอยู่ในเยอรมนีด้วยกัน เพื่อเผยแพร่ให้คนเยอรมันได้รู้จักวัฒนธรรมไทย

        วงสืบสานศิลป์อินเยอรมนีที่นางศิริลักษณ์ก่อตั้ง เพื่อสอนรำไทยให้ผู้ที่สนใจ และน้องเมลิซซ่าก็จะไปรำช่วยทุกงาน

        นอกจากนี้ เธอยังเป็นจิตอาสา ครูสอนนาฏศิลป์ ประจำโรงเรียน กอไก่ ซึ่งเปิดสอนความเป็นไทยให้กับเด็กไทยในเยอรมนี ทั้ง ภาษไทย รำไทย ซึ่งทุกครั้งที่ต้องไปแสดงวัฒนธรรมไทย เธอมักนำลูกสาวไปด้วยเสมอ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ลูกสาวเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น สนใจรำไทยเหมือนเช่นเธอ

รำไทยครั้งแรก 4 ขวบ เซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับพ่อ

        รำไทยครั้งแรก 4 ขวบ เซอร์ไพรส์พ่อ ฝ่าด่านรอบแรก แข่งชนะเด็กเยอรมัน จีน

        ครั้นลูกสาวอายุ 4 ขวบ เมื่อปี 60 ก็ได้แต่งชุดไทยและเซิ้งสาวกันตรึมเป็นครั้งแรกในชีวิต เซอร์ไพรส์วันเกิดให้พ่อ จนผู้เป็นพ่อรู้สึกภูมิใจ ดีใจ ซึ้งใจจนน้ำตาไหล หลังจากนั้นไม่กี่วัน เพื่อนได้ส่งข้อมูลการแข่ง Das Supertalent 2018 ซึ่งจะมาคัดเลือก (Casting) ที่เมืองดอร์ทมุนด์ (Dortmund) มาให้ ด้วยเห็นความสามารถของน้องเมลิซซ่า เธอจึงตัดสินใจลองพาน้องเมลิซซ่าไปออดิชั่นครั้งแรกในชีวิต เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 61 เพราะเห็นแล้วว่าลูกมีความสุข และสนุกทุกครั้งที่ได้รำไทย อีกทั้งต้องการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยที่ดีให้คนต่างชาติได้รู้จัก และให้คนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทยด้วย 

ชมคลิป

(ฟ้อนรำดอกระมิงค์ ตอนอายุ 4 ขวบ)

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

        การแข่งขันเพื่อให้ได้เป็นที่หนึ่งประจำปี 2018 ของรายการ ต้องช่วงชิงทั้งเด็กและผู้ใหญ่นับร้อย เพราะรายการไม่จำกัดอายุผู้เข้าแข่งขัน โดยการแข่งขันรอบคัดเลือกในรอบแรก น้องเมลิซซ่าต้องแข่งกับเด็กเยอรมัน คนจีน รวมแล้วกว่า 20 คน ซึ่งมีทั้งเต้น ยิมนาสติก อโคบาติก (การแสดงโหนผ้า โหนเสา คล้ายยิมนาสติกกายกรรม) เล่นสเก็ตบอร์ด ร้องเพลง

        ส่วนน้องเมลิซซ่าเลือกแสดงฟ้อนดอกระมิงค์ ซึ่งเป็นเพลงช้าไปแข่งขัน และก็ชนะใจกรรมการจนผ่านเข้ารอบสอง สร้างความดีใจให้กับครอบครัวแบบงงๆ เพราะไม่คิดว่าจะผ่านเข้ารอบ และที่ผ่านมาเคยมีเด็กไทยมาแคสหลายคน แต่ไม่ผ่านรอบแรก โดยเจ้าหน้าที่ของรายการมาบอกว่า “คราวหน้ามาขอเป็นเพลงเร็วได้ไหม ส่วนจะเต้นเพลงอะไรนั้นจะส่งเพลงมาให้” 

จิ๋วแต่แจ๋ว สุดมหัศจรรย์ เพลงเข้ารอบเป็นเพลงที่ชอบและเซิ้งให้พ่อ

        ส่วนขั้นตอนการแคสติ้งรอบสอง นางศิริลักษณ์ อธิบายว่า เป็นการส่งวิดีโอเข้าไปประกวด โดยทีแรกเพลงที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ คือ เพลงกังฟูแพนด้า ก็รีบตอบกลับอีเมลว่า ไม่ใช้เพลงนี้ เพราะเป็นคนไทย ไม่ใช่คนจีน ขอเลือกเพลงเอง ทางรายการจึงให้เลือกส่งไป 3-4 เพลง สุดท้ายทางรายการก็เลือกเพลงสาวกันตรึม ของ ไผ่ พงศธร นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ เพราะเป็นเพลงที่น้องเมลิซซ่าชอบมาก เหตุเคยเจอ ไผ่ พงศธร เมื่อครั้งมาแสดงคอนเสิร์ตในเยอรมนี อีกทั้งยังเป็นเพลงที่ได้เซิ้งเซอร์ไพรส์วันเกิดพ่อด้วย

การแข่งรอบแรก แสดงโชว์ฟ้อนดอกระมิงค์ จนชนะใจกรรมการ

        เมื่อ นางศิริลักษณ์ ตัดช่วงทำนองเพลงให้รายการ แต่ทางรายการขอตัดทำนองเพลงเอง ความยาวประมาณ 2 นาที จากนั้นเธอส่งคลิปวิดีโอน้องเมลิซซ่าเซิ้งเพลงสาวกันตรึมในหลายๆ เวอร์ชั่นไป เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 61 โดยทางรายการบอกกติกาว่า หากกรรมการดูคลิปแล้วชอบก็จะผ่านเข้ารอบ หลังจากนั้นประมาณ 2 เดือนกว่าๆ ในวันที่ 21 ก.ค. 61 ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังจะกลับมาไทย ก็ได้รับข่าวดีว่าน้องเมลิซซ่าได้ไปต่อรอบ 3

       “วิดีโอที่ส่งไป บางท่าน้องออกแบบท่ารำเองตามที่อยากทำ เขาบอกว่าหนูชอบแบบนั้นแบบนี้ โดยดูจากวิดีโอยูทูบของโรงเรียนในเมืองไทยบ้าง ก็ส่งวิดีโอไปหลายเวอร์ชั่น พอรู้ว่าผ่านเข้ารอบ 3 ก็ดีใจ และรู้สึกเครียดว่าจะเตรียมตัวอย่างไรดี เพราะวันที่นัดคัดเลือกรอบ 3 ช่วง วันที่ 11-12 ส.ค. นั้นอยู่ไทย ก็บอกทางรายการว่าขอให้น้องได้พักสักอาทิตย์เพื่อเตรียมความพร้อม ทางรายการเลยนัดให้ไปคัดเลือก 22 ส.ค.” ผู้เป็นเแม่เล่าด้วยน้ำเสียงที่ยังตื้นตัน

คนไทยเฮลั่น ได้ 3 ผ่าน เด็กเยอรมันปรบมือ เขียนการ์ดชื่นชมเพื่อนออกทีวี

        สำหรับบรรยากาศของวันแข่งรอบ 3 มีการพูดคุยกับ 3 กรรมการด้วยภาษาเยอรมัน ซักถามหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน และเรียกเสียงหัวเราะจากการตอบคำถามแบบใสซื่อตามวัยของหนูน้อยเมลิซซ่า ผู้เป็นแม่เผยกับทีมข่าวฯ ว่า หนึ่งในกรรมการ คือ ดีเตอร์โบน (ใส่เสื้อสีขาว) ซึ่งเป็นเจ้าของรายการค้นหาซุปเปอร์สตาร์ เป็นดารา นักร้อง โปรดิวเซอร์ นักดนตรีที่โด่งดังมากในยุค 80, 90 ชื่นชอบเมืองไทยมาก เคยพาผู้เข้าแข่งขันซุปเปอร์สตาร์ไปเข้าค่ายเก็บตัว และถ่ายทำรายการที่เมืองไทย ทำให้เขารู้จักขนบธรรมเนียมประเพณีไทยเป็นอย่างดี

กรรมการชื่อดังของเยอรมันตัดสินให้ 3 ผ่านกับน้องเมลิซซ่า

        หลังแสดงเสร็จตามคลิปวิดีโอที่ส่งไปชิงในรอบสอง ซึ่งได้ออกอากาศไปแล้วเมื่อ 24 พ.ย. 61 คอมเมนต์ของกรรมการแต่ละคนพูดอะไรบ้างนั้น นางศิริลักษณ์ สาธยายให้ฟังว่า กรรมการชายผิวดำที่ให้ความเห็นคนแรก ชื่อ บรูช ดารานายแบบที่มีชื่อเสียง บอกว่า น้องเมลิซซ่าแสดงได้ดีมาก มีสติ และตั้งใจดีเยี่ยม คือไม่กลัวเวที (หันถามกันกับดีเตอร์โบน) จากนั้นก็กดปุ่มให้ผ่าน

ซิลวี่ ดารานางแบบมาจากฮอลลีวูด หนึ่งในกรรมการทำท่ารำตามน้องเมลิซซ่าขณะแสดงโชว์

        ด้าน ซิลวี่ ดารานางแบบมาจากฮอลลีวูด ซึ่งห่างหายจากรายการไปนาน เพิ่งกลับมาเป็นกรรมการอีกในปีนี้ ให้ความเห็นว่า น้องเมลิซซ่า คือ แองเจิล สวยน่ารักมาก และมีความตั้งใจ สำหรับฉันให้ผ่านค่ะ ส่วนดีเตอร์โบน ก็บอกว่าเก่งขนาดนี้สำหรับเขาแล้วต้องให้ผ่านอยู่แล้ว ... 

        “รู้สึกว่ามาไกลเกินกว่าที่ตั้งความหวังไว้ ไม่คิดว่าจะได้ 3 ผ่าน พอออกทีวีแล้ว เพื่อนคนไทยที่รู้ข่าวต่างเข้ามาแสดงความยินดี และเพื่อนๆ ของน้องเมลิซซ่าตื่นเต้นมาก มาแสดงความดีใจกับน้องเมลิซซ่า ทุกคนยืนรุมล้อมคุยกันเรื่องเพื่อนได้ออกทีวี ปรบมือและชื่นชม มีเขียนการ์ดและเอาตุ๊กตามาใส่ไว้ในตู้ให้ น้องเมลิซซ่า ดีใจ และมีความสุขมากค่ะ” ผู้เป็นแม่เล่าเหตุการณ์หลังลูกสาวออกทีวี

เปิดเหตุผลที่ไม่ได้ไปต่อรอบชิง อดลุ้นรางวัลชนะเลิศ ชวดเงิน 11 ล้าน

        นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ที่เด็กน้อยอายุแค่ 5 ขวบ จะแสดงวัฒนธรรมไทยได้สวยงาม อ่อนช้อย ฉายแววความสุขผ่านดวงตาและรอยยิ้มอันบริสุทธิ์โดยไม่ตื่นกลัวเวที ข่าวนี้สร้างความชื่นมื่นให้กับคนไทยในเยอรมนี ต่างให้กำลังใจ และเอาใจช่วยให้น้องเมลิซซ่าผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่ช่างน่าเสียดายที่ไม่ได้ไปต่อหลังเจ้าหน้าที่ Das Supertalent 2018 อีเมลแจ้งเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 61 ว่ามีเหตุผลบางประการที่ไม่สามารถให้น้องไปต่อในรอบไลฟ์โชว์ในวันที่ 21 ธ.ค. นี้

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเยอรมนี ลงข่าวชื่นชมความสามารถน้องเมลิซซ่า

        “ไม่เสียใจเลยที่น้องไม่ได้เข้ารอบชิง รู้สึกดีใจที่น้องมีความกล้าแสดงออก อายุแค่ 5 ขวบมาไกลขนาดนี้ถือว่าดีมากแล้ว ที่ผ่านมามีเด็กไทยหลายคนเคยมาแคส แต่ก็ไม่มีใครผ่านรอบแรก น้องเมลิซซ่าถือว่าเป็นคนไทยคนแรกที่เข้ามาได้จนถึงรอบสาม

        ขอบพระคุณพี่น้องชาวไทยพี่ป้าน้าอาที่ช่วยเชียร์ และเป็นกำลังใจให้น้อง เหตุผลที่ไม่ได้ไปต่อคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้แล้ว คือ เรื่องอายุ น้องแค่ 5 ขวบ ถือว่ายังน้อยมาก ทางเยอรมันมีข้อห้ามหลายอย่างเรื่องสิทธิ์เด็ก อีกอย่างรอบชิง ต้องไลฟ์ (Live) ต้องโชว์ และแสดงตอนกลางคืนด้วย

        อย่างรอบสามที่ออกอากาศไปแล้ว ตอนอัดรายการ น้องต้องมาถ่ายรายการตั้งแต่เช้ากว่าจะเสร็จก็ค่ำ และน้องต้องออกจากสถานที่ถ่ายทำทุกๆ 3 ชั่วโมง เพื่อให้พักครบ 1 ชั่วโมง แล้วถึงอนุญาตให้กลับเข้ามาอัดรายการต่อ กฎหมายสิทธิ์เด็กของที่นี่เคร่งมาก อย่างน้องถือว่าอายุน้อยสุดเลยเท่าที่เคยเห็นมาน้องเมลิซซ่าบอกว่า จะขอพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งกว่านี้ อีกปี 2 ปีข้างหน้าจะมาสู้ใหม่ค่ะ” นางศิริลักษณ์ กล่าวทิ้งท้าย

        เวลามีงานไทย งานบุญ งานวัด น้องเมลิซซ่า กับพี่ชาย และนางศิริลักษณ์ก็ไปแสดงรำไทยโชว์ ภาพนี้น้องเมลิซซ่าเล่นโขนคู่พี่ชาย (หนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา) เป็นที่ชื่นชอบของฝรั่งเยอรมันและคนไทยอย่างมาก

        น้องเมลิซซ่า และ นางศิริลักษณ์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนไทยในต่างแดนว่า ถึงแม้จะอยู่ต่างบ้านต่างเมือง คนไทยไม่เคยทิ้งประเพณีและวัฒนธรรมไทย ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งหนใดบนโลก ทุกคนก็แสดงความเป็นไทยได้

ชมคลิป

(น้องเมลิซซ่า รำเซิ้งอีสาน ในรายการ ซึ่งออกอากาศเมื่อ 24 พ.ย. 61)

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ข้อมูลและภาพ จาก thairath