คู่รักผู้บริหาร ออกจากงาน เลือกกลับบ้านเกิด "ไปปลูกดอกไม้" คนรอบข้างต่างไม่เข้าใจ

LIEKR:

พวกเราไม่เคยเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้เลย

        นี่เป็นวิถีชีวิตที่สวยงามที่สุดในโลก “ทุกคนล้วนปรารถนาจะพบใครสักคนในช่วงเวลาที่ดีที่สุด แต่จริง ๆ แล้วการได้พบใครสักคนแล้ว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดถึงได้เริ่มต้นขึ้น...”

        คุณผู้อ่านอาจจะเคยได้ยิน "Flying Cat Cottage" ในเมืองหยางโจว ที่นี่เคยเป็นบ้านไร่ธรรมดา แต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยดอกไม้และพืชกว่า 3,000 ชนิด ที่พอได้เห็นก็ต้องบอกว่าสวยมาก

 

Sponsored Ad

 

        เจ้าของสวนเป็นคู่รักที่รักกันมากคู่หนึ่ง สามีเป็นคนอ่อนโยนสง่างาม ส่วนภรรยาร่าเริงมีชีวิตชีวา ก่อนปี 2013 ทั้งสองยังเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัท และช่วยกันปลูกดอกไม้เมื่อมีเวลาว่าง

 

Sponsored Ad

 

        ในสายตาคนรอบข้าง พวกเขามีความสุขมากพอแล้ว แต่ชีวิตก็เหมือนน้ำดื่ม ร้อนหรือเย็นมีแค่ตัวเองที่รู้ ไม่มีใครเกิดมาชอบที่ทำงาน นานวันเข้า ก็เริ่มยุ่งยากและน่าเบื่อ อยากจะเข้าไปอยู่ในระเบียงที่ปลูกดอกไม้โดยไม่สนใจอะไรอีก แต่เราจะรู้สึกโล่งใจจริง ๆ เมื่อเราเกษียณในวัยชราหรือ?

        คนเราชีวิตหนึ่ง การได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบไม่ใช่เรื่องง่าย อาจเป็นเรื่องยากสำหรับคน ๆ นึงที่จะยืนหยัดทำสิ่งที่ตัวเองรัก แต่โชคชะตากำหนดให้สองคนนี้ได้มาเจอกัน พวกเขามีงานอดิเรกเหมือนกัน เข้าใจและแสวงหาชีวิตแบบเดียวกัน สุดท้ายทั้งสองจึงตัดสินใจ "ลาออกจากงาน กลับบ้านเกิดไปปลูกดอกไม้"

 

Sponsored Ad

 

        เมื่อตัดสินใจแบบนี้แล้ว คนรอบข้างต่างไม่เข้าใจ มีงานในเมืองดีขนาดนี้ จะไปใช้ชีวิตในชนบทให้ลำบากทำไม คุณผู้อ่านอาจคิดว่าพวกเขาเพ้อเจ้อ แต่ถ้าได้เห็นในสิ่งที่พวกเขาทำ จะต้องไม่คิดแบบนั้นอีก

 

Sponsored Ad

 

        คู่รักคู่นี้กลับไปบ้านเกิดที่หยางโจว ภายใต้คำซุบซิบนินทาและความสนใจจากผู้คน ที่นั่นมีบ้านเก่าของพ่อ สอนด้านมีสวนผัก และยังมีสวนองุ่น สำหรับคนที่เคยปลูกดอกไม้ในระเบียงแคบ ๆ ของอพาร์ตเม้นท์แล้ว ที่นี่ใหญ่เกินพอ

        หลังเริ่มต้นทำแผนการทำสวน โครงสร้างพื้นฐานที่ทรุดโทรมก็ถูกกำจัดออกไป ผืนดินที่ราบเรียบก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ทีละขั้น

 

Sponsored Ad

 

        หลังการออกแบบพื้นที่สวน ใช้อิฐแดงแบ่งพื้นที่ แล้วทำรูปทรงภูมิทัศน์ที่แตกต่างกัน เช่นแท่นวางดอกไม้ หินประดับ และอื่น ๆ หลังจากทำการแบ่งพื้นที่เสร็จ ก็ซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูก

 

Sponsored Ad

 

        ปี 2013 โครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่ก็เสร็จสมบูรณ์ โดยฝีมือของสามี จากนั้นก็มาดูภรรยาบ้าง เพียงแค่เวลาสั้น ๆ แค่ 1 ปี เธอก็ทำให้ภูมิทัศน์ในสวนเปลี่ยนไป

        เธอบอกว่าตอนแรกก็เป็นคนธรรมดาที่ปลูกดอกไม้ แต่แค่เป็นคนใจกล้า อาจจะเพราะสามีคอยให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ ช่วยเธอแก้ไขปัญหาไม่น้อย ทำให้เธอกล้าปลูกพันธุ์พืชใหม่ ๆ ตลอดเวลา หรือปลูกในพื้นที่ใหญ่ขึ้น

Sponsored Ad

        สวนที่สวยงามแห่งนี้ เป็นผลงานจากความเหน็ดเหนื่อยของสองสามีภรรยา เปลี่ยนไปตาม 4 ฤดูที่เปลี่ยนแปลง ถึงปัจจุบันนี้ก็ผ่านมา 5 ปีแล้ว ผ่านเลนส์กล้องของสามี แต่ละฤดูกาลก็จะสวยงามต่างกันไป

        ดอกไม้สวย คนเหนื่อย ใครเคยปลูกดอกไม้คงรู้ดี ตั้งแต่ปลูกดอกไม้ก็ต้องตื่นเช้านอนดึก จะออกไปไหนก็กลัว สามีบอกว่าที่เหนื่อยที่สุดก็คืองานที่สำคัญที่สุด นั่นคือการตัดแต่ง การตัดแต่งไม่เพียงทำให้สวนดูสะอาดเรียบร้อย ยังทำให้ดอกไม้บานได้สวยยิ่งขึ้นด้วย

        การตัดแต่งในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิก็สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะกุหลาบ, clematis, ไฮเดรนเยีย, เฟื่องฟ้า ฤดูหนาวต้องตัดกิ่งเก่า ๆ ออก ฤดูใบไม้ผลิก็ตัดแต่งให้เป็นรูปทรง

        ไฮเดรนเยียที่ตัดแต่งแล้วจะบานตรงเวลา ไม่ร่วง ส่วนกุหลาบ และ clematis ก็จะงอกเร็วขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ

        นอกจากต้องตัดแต่งแล้ว สนามหญ้าในสวนก็ต้อง 7-10 วันตัดที ไม่อย่างนั้นก็จะงอกสูง ในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วงอากาศเย็นสบายทำงานง่าย แต่ฤดูร้อนแค่เริ่มต้นเข็นรถตัดหญ้าก็เหงื่อแตกเต็มหลัง

        การทำความสะอาดบึงน้ำเป็นประจำก็ต้องใช้แรง โชคดีที่สามีเป็นคนขยัน

        พอตกเย็น ถึงจะมีเวลาพักผ่อน นั่งบนเก้าอี้ริมบึง ชื่นชมความงามจากความพยายามของวัน คุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น ช่างเป็นวันที่สมบูรณ์

        ที่นี่สวยงามเหมือนยูโทเปีย เป็นสวรรค์ของคนรักดอกไม้ เบื้องหลังของภาพสวย ๆ ล้วนคือหยาดเหงื่อแรงงาน ไม่กล้าแม้แต่จะไม่สบาย ผู้หญิงคนอื่นชอบเสื้อผ้าเครื่องสำอาง “ส่วนฉันชอบทำสวน ทำรั้วเหล็ก”

        ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมารูปแบบการทำสวนในประเทศได้รับอิทธิพลอย่างมากจากยุโรปและสหรัฐอเมริกา มีคนบอกว่าสวนของพวกเขามีความเป็น “ตะวันตก” เกินไป ไม่มีความเป็นโลคอล ทั้ง ๆ ที่สองสามีภรรยาปลูกไปตามธรรมชาติ ไม่ได้ไล่ตามสไตล์ใดๆ แค่เห็นว่าสวยก็พอ ในสวนยังมีพื้นที่ปลูกผัก ผักที่ปลูกในแต่ละฤดูกาลก็มีความสวยงามเช่นกัน

        สองสามีภรรยายังเลี้ยงเป็ด ห่าน ไก่ไว้ในสวนไม่น้อย โดยพวกมันใช้ชีวิตอย่างอิสระ

        แถมยังมีสุนัขอีก 4-5 ตัว ที่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก ๆ เดินไปที่ไหนก็เดินตาม

        กระท่อมของสองสามีภรรยา ความงามไม่ได้อยู่แค่ที่ดอกไม้ใบหญ้า แต่ยังเป็นความพยายามอย่างจริงใจของพวกเขา เพื่อนและเพื่อนบ้าน ทำให้ชีวิตของพวกเขาเติมเต็ม สวยงาม ถึงปัจจุบันนี้สองสามีภรรยาก็ยังยืนยันในสิ่งที่ตัวเองเลือกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และเชื่อว่าอีก 5 ปี 10 ปี จะยิ่งดีขึ้น

        โลกของคนเป็นผู้ใหญ่ ไม่ง่ายที่จะยึดมั่นกับงานอดิเรก

        หวังว่าคนที่ชอบปลูกดอกไม้ทุกคน จะสามารถหาเวลาทำมันได้

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ