หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        นับเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียของประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2562 มีรายงานข่าวว่า นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ได้ถึงแก่กรรมแล้ว หลังเข้ารับการรักษาโรคเอ็มดีเอส อันเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของไขกระดูก ที่ห้องไอซียู ของโรงพยาบาล ใน กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สิริอายุรวม 58 ปี 9 เดือน

        นายวีรชัย พลาศรัย คือบุคคลที่เคยสร้างคุณงามความดีไว้มากมายให้แผ่นดินไทย และเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การจดจำ วันนี้ LIEKR จะนำทุกท่านมาเปิดประวัติเพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของท่านกันค่ะ...

        "นายวีรชัย พลาศรัย" ชื่อเล่น "แสบ" เกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2503 ภรรยาชื่อนางอลิซาเบธ พลาศรัย ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะหัวหน้าคณะต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารการชี้แจงต่อศาลโลกกรณีคดีปราสาทพระวิหาร

        เมื่อย้อนกลับไปในช่วงที่มีคดีพิพาทปราสาทพระวิหารระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่ง ณ เวลานั้น ได้รับความสนใจจากคนทั้งประเทศ โดยเฉพาะเมื่อถูกนำมาผูกโยงเข้ากับเหตุการณ์บ้านเมือง อันมีการชุมนุมของ “มวลมหาประชาชน” ก็ยิ่งทำให้ข้อพิพาทนี้ถูกจับตา แต่ทีมต่อสู้คดีก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม

        “ทูตแสบ” วีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเฮก ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมกฎหมายได้รับยกย่องเป็น “ฮีโร่” ดังนั้น เมื่อกลับมาเยือนเมืองไทย จึงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไม่ต่างอะไรจากศิลปินเกาหลี

.

        เรื่องราวชีวิตของท่านทูต ถูกนำเสนอออกมามากมาย หนึ่งในนั้นก็คือชีวิตอีกมุมหนึ่ง ดังเช่นที่เขาบอกเล่าไว้ว่า ในวัยเด็กอยากเป็น 2 อย่างคือ ทูตกับผู้พิพากษา

        “แต่มาวันนี้เป็นทูต เพราะมองว่าผู้พิพากษา เรามีเป้าหมายเป็นประธานศาลฎีกา (หัวเราะ) แต่ว่าประธานศาลฎีกานั้น เป็นยากกว่า เพราะในแต่ละครั้งมีคนเดียว แต่ทูตมีพร้อมๆ กัน 50-60 คน โอกาสเป็นทูตจึงมีสูงกว่า อีกอย่างคือได้ทุนด้วย คุณแม่ขอไว้ว่า ไม่ให้เป็นนักดนตรีอาชีพ จะเล่นก็เล่นได้ แต่ไม่ให้เป็นอาชีพ ขอว่าถ้าไม่มาทางการทูตก็ให้เป็นผู้พิพากษา ถ้าทำได้”

        วันนี้ถ้าใครอยากเป็นทูต “ทูตแสบ” มีคำแนะนำว่า ต้องศึกษาประวัติศาสตร์ให้ดี สนใจในวิชาที่ตัวเองเรียนอยู่ ภาษาอังกฤษเอาให้ได้ และอีกหนึ่งภาษาอะไรก็ได้ให้เป็นข้อได้เปรียบ

        ส่วนประวัติการศึกษาของ “ทูตแสบ” นั้น เริ่มเรียนที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึง ม.ศ.3 ก่อนจะย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา 2 ปี และสอบเข้าได้ที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียนได้เพียง 3 เดือน ก็ได้ทุนรัฐบาลไทยไปเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศสในระดับปริญญาตรีและโท ที่มหาวิทยาลัยปารีส 10 และปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยปารีส 1

        นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่า ได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของนายวีรชัยแทบช็อก เพราะสนิทกันมาก โดยเฉพาะช่วงที่ตนเป็นรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในคดีปราสาทเขาพระวิหาร สมัยนายวีรชัย เป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเป็นหัวหน้าคณะทำงาน การเสียชีวิตของนายวีรชัยนับเป็นการสูญเสียบุคลากรสำคัญที่เก่งคนหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศ

        “เสียดายคนดีคนเก่ง เราติดต่อกันตลอด เมื่อต้นเดือนก็ได้ติดต่อกัน และเขาบอกว่าโชคร้ายที่เป็นเอ็มดีเอส แต่ไม่บอกใครทั่วไป รักษาตัวเงียบๆ มาทราบข่าวเขาเสียชีวิต ผมช็อกเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะจากพวกเราเร็วไป” นายณัฏฐวุฒิกล่าว

        ส่วนการทำงาน “ทูตแสบ” เริ่มรับราชการ ในกระทรวงต่างประเทศ เมื่อปี 2530 ตำแหน่ง เลขานุการตรี กองแอฟริกาและประเทศกลุ่มอาหรับ กรมการเมือง, เลขานุการตรี กองกฎหมาย กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ปี 2531, เลขานุการโท กองกฎหมาย ปี 2532, เลขานุการโท-เอก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ปี 2533, นิติกร 6 กองกฎหมาย และเจ้าหน้าที่การทูต 7 กองสนธิสัญญา กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ปี 2537, นักวิชาการพาณิชย์ 8 คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การค้าโลก ณ นครเจนีวา ปี 2541

        ต่อมาเป็น ผู้อำนวยการกองสนธิสัญญา ปี 2544, รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจ 1 เมษายน 2547, อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 3 มีนาคม 2549, กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 14 กุมภาพันธ์ 2550, อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย 19 สิงหาคม 2551

        จากนั้น ได้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ 28 พฤษภาคม 2551, อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย (นักบริหาร 10) 19 สิงหาคม 2551 และเอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (กรุงเฮก) 26 พฤษภาคม 2552 และเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 1 กุมภาพันธ์ 2558 และล่าสุด ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสหรัฐอเมริกา

        ผลงานอันยอดเยี่ยมของ ท่านทูตวีรชัย ที่ฝากไว้กับประเทศชาติและประชาชนคือการเป็น หัวหน้าทีมประเทศไทย ในการต่อสู้คดีปราสาทเขาพระวิหารในศาลโลก  โดยกระทรวงการต่างประเทศช่วงนั้นเล็งเห็นว่าจะต้องมีเรื่องนี้เกิดขึ้นแน่จึงเตรียมการรับสถานการณ์ด้วยการส่ง ท่านอธิบดีวีรชัย ซึ่งขณะนั้นเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย รอบที่สอง ไปเป็น เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีที่ตั้งสถานทูตอยู่ที่ กรุงเฮก เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ และเป็นที่ตั้งของศาลโลกด้วย ท่านทูตวีรชัย ก็ได้ทำหน้าที่นี้สำเร็จลงด้วยดีโดยรักษาประโยชน์ของชาติไว้ได้มากที่สุด

        ขอให้หลับสนิทชั่วนิจนิรันดร์สำหรับ วีรชัย-วีรชน ของคนทั้งชาติ

ชมคลิป...

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก thairath