หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ทำพิธีปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในรอบที่ 2 จำนวนกว่า 238 คน  ทั้งนี้ในจำนวนผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้มี "นายอุดม ศิริสอน" อายุ 57 ปี และ "นางแดง ศิริสอน" อายุ 54 ปี สองสามีภรรยาต้องขังคดีบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในป่าสงวนแห่งชาติดงระแนงหรือที่รู้จักกันในสื่อสังคมออนไลน์ว่า “คดีเก็บเห็ด”รวมอยู่ด้วย โดยมีญาติรอรับอย่างเนืองแน่น

        โดยในทันทีที่ผู้ได้รับการอภัยโทษเดินออกมาจากประตูเรือนจำ บรรดาญาติพี่น้องที่มาเฝ้ารอรับตั้งแต่เช้า ต่างได้โผเข้าสวมกอดด้วยความดีใจ บางคนร้องไห้ด้วยความดีใจ โดยเฉพาะนายอุดม ศิริสอน และนางแดง ศิริสอน ซึ่งมีสีหน้าบ่งบอกถึงความดีใจอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนางแดง ถึงกลั่นน้ำตาไว้ไม่อยู่ นอกจากนี้ญาติพี่น้อง ต่างก็หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจ ขณะที่หลายคนน้ำตาซึมด้วยความตื้นตันใจ ซึ่งทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้

        นายอุดม ศิริสอน กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างหาที่สุดไม่ได้ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรไทย และผู้ต้องราชทัณฑ์ ได้รับพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ ซึ่งหลังจากได้รับพระราชทานอภัยโทษ ก็จะประพฤติตนเป็นพลเมืองดี และตั้งใจทำมาหากินอย่างสุจริต

        ขณะที่นางแดง ศิริสอน กล่าวว่า จากการที่ตนและสามี เป็นหนึ่งในจำนวนผู้ต้องขัง 239 คน ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ รู้สึกดีใจจนแทบจะพูดไม่ออก ทั้งปลาบปลื้มปิติ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานอภัยโทษ ส่วนหลังนี้ญาติมารับและก็จะกลับถึงบ้าน ขอตั้งหลักก่อน จะมีการทำพิธีรับขวัญเมื่อไหร่นั้น ยังไม่ได้ตกลงกัน แต่ก็คิดไว้แล้วว่าก่อนอื่นจะไปพากันทำบุญตักบาตร เพื่อความเป็นสิริมงคล

        ด้านนายภัทรพงศ์ หมวกสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีนายอุดม ศิริสอน และนางแดง ศิริสอน ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณรับการอภัยโทษครั้งนี้ เป็นผู้ต้องขังในคดี พ.ร.บ.ป่าไม้ ป่าสงวนแห่งชาติคดีเกิดที่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ หรือที่รู้จักกันในสื่อสังคมออนไลน์ว่า “คดีเก็บเห็ด” เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2562 เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ของเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ครั้งที่ 2 ในจำนวน 239 คน

        โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองตกเป็นจำเลยในคดี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2553 โดยทั้งสองอ้างว่าเข้าป่าไปเก็บเห็ด โดยศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พิพากษาจำคุกคนละ 30 ปี ก่อนลดโทษเหลือ 15 ปี หลังจากนั้นทั้งคู่ได้สู้คดี ในชั้นอุทธรณ์โดยศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแก้จำคุกเป็น 14 ปี 12 เดือน กระทั่งในปี 2560 ศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุกคนละ 5 ปี 

        จากฐานความผิดในการบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง รวมทั้งต้องชดใช้ค่าเสียหายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลาย ตามนัยมาตรา 97 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 โดยพื้นที่บุกรุกทำลาย 72 ไร่ คิดเป็นค่าเสียหายต่อรัฐ ทั้งสิ้น 2,521,055 บาท 

        นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เผยว่า การอภัยโทษดังกล่าว ถือว่าสิ้นสุดในคดีอาญา แต่ในส่วนของคดีทางเพ่ง ซึ่งต้องชดใช้ค่าเสียหายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลาย ตามมาตรา 97 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535

        “แต่อย่างไรก็ตามกรมป่าไม้ได้พยายามให้ความช่วยเหลือ ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยกับ 2 ลุงป้า ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อ เพื่อขอลดหย่อนค่าเสียหาย โดยแจ้งจำนงค์ว่าทั้งสองไม่มีเจตนาจะกระทำความผิด หรือเป็นผู้ยากไร้ รายได้ไม่เพียงพอต่อการชำระเงิน เป็นต้น

        ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจของกระทรวงการคลัง การพิจารณาจึงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของกระทรวงการคลัง โดยกรณีการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ภาครัฐ มีผู้กระทำผิดขอลดหย่อนต่อกระทรวงการคลังมาแล้วหลายกรณี ซึ่งเชื่อว่า 2 ลุงป้าจะขอลดหย่อนค่าเสียหายได้เช่นกัน” อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว

ชมคลิปเพิ่มเติม

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก khaosod, Thairath