เปิดชีวิตช่างตัดผม ผู้ "อุทิศชีวิต" ให้คนชราและชาวบ้าน วาระสุดท้ายกลับต้องนั่งรถเข็น

LIEKR:

จากหนุ่มน้ำใจงาม สู่ผู้พิการนั่งรถเข็น แต่ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องสู้ต่อไป !

        อู๋หยวนเหมี่ยว เป็นช่างตัดผมอยู่ที่เมืองหลินไห่ มณฑลเจ้อเจียง ตั้งแต่เริ่มต้นทำอาชีพนี้ อู๋หยวนเหมี่ยวก็ตั้งปณิธานแน่วแน่ 1 ข้อ คือทุกสัปดาห์เขาจะสละเวลา 1 วันเพื่อตัดผมให้กับคนชรา ผู้พิการ และทหารโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ผ่านไป 17 ปี เขาได้ตัดผมให้ผู้คนเหล่านั้นราว 6 หมื่นคน และได้รับรางวัลเป็น 1 ใน 5 “คนดีแห่งประเทศจีน” เขาได้รับคำชื่นชมมากมายและเหมือนว่าทุกอย่างจะราบรื่นดี จนกระทั่งเขาล้มป่วยลงในเวลาต่อมา

        ในปี 2008 อู๋หยวนเหมี่ยวป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับสมอง ทำให้เขาทรงตัวได้ไม่ดี เดินโซเซไปมา มือไม้ก็ขยับไม่ได้ดั่งใจ แม้จะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคนรอบข้างมากเท่าใด แต่อาการของเขาก็ยังทรุดลงเรื่อยๆ จนปี 2014 อู๋หยวนเหมี่ยวก็ไม่สามารถดำเนินกิจการของเขาหรือตัดผมให้ใครได้อีกต่อไป เขาบอกกับคนรอบตัวว่าจะไป “ขยายกิจการที่ปักกิ่ง” ก่อนจะหายตัวไปจากชีวิตของทุกคนในชุมชน 

 

Sponsored Ad

 

        ความจริงแล้วอู๋หยวนเหมี่ยวไม่ได้จากบ้านเกิดไปขยายกิจการที่ไหน เขายังคงอยู่ในชุมชนลู่เฉิงบนถนนเมืองเก่าหลินไห่ ลูกค้าเก่าอย่างจางไห่หลินและจูตานตานสองสามีภรรยาใจงามได้รับเขาไปอยู่ด้วย ทั้งรักษาพยาบาลและดูแลอย่างดี “คุณอู๋เป็นคนดี พวกเราคิดว่าการดูแลเขาไม่ใช่เรื่องลำบากเลย” จางไห่หลินกล่าว

 

Sponsored Ad

 

        อาการป่วยอันรักษายากทำให้อู๋หยวนเหมี่ยวใช้เงินเก็บจนหมด จูตานตานก็ลาออกจากงานเพื่อมาดูแลอู๋หยวนเหมี่ยว ส่วนจางไห่หลินก็เป็นเพียงตำรวจกองหนุนทำงานอยู่ที่สถานีตำรวจเท่านั้น สถานการณ์การเงินของพวกเขาเผชิญปัญหาความติดขัดมากมายนัก

        ในที่สุด เจ้าหน้าที่รัฐบาลของชุมชนก็พบตัว “คนดีที่หายไป” อีกครั้งในปี 2016 เจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้นล้วนหยิบยื่นความช่วยเหลือให้อู๋หยวนเหมี่ยว “คนดีแห่งประเทศจีน” กันไม่ขาดสาย ทั้งช่วยเหลือด้านการเงินและส่งเขาเข้ารับรักษาในโรงพยาบาล ผู้คนในชุมชนล้วนเต็มใจช่วยเหลืออู๋หยวนเหมี่ยวกันเป็นอย่างดี

 

Sponsored Ad

 

        ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มจิตอาสา 20 กว่าคนสืบสานเจตนารมณ์ของอู๋หยวนเหมี่ยว พวกเขาจะเดินทางมาตัดผมให้คนในชุมชนเดือนละ 2 ครั้ง และแน่นอนว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายแม้แต่หยวนเดียว

 

Sponsored Ad

 

        สุดท้ายแล้ว แม้ว่าอู๋หยวนเหมี่ยวจะป่วยเป็นโรคที่ทำให้เขาเผชิญปัญหามากมาย แต่ความดีของเขาทำให้ผู้คนล้วนเต็มใจยื่นมือเข้าช่วยเหลือจนเขาได้รับการดูแลรักษาอย่างดี รวมถึงต่อยอดความดีที่เขาได้กระทำไว้ ส่งต่อจิตวิญญาณแห่งจิตอาสาออกไปไกลยิ่งขึ้น

        “ผมหวังว่ากลุ่มจิตอาสาจะส่งต่อความรักนี้ต่อไป” อู๋หยวนเหมี่ยวที่นั่งอยู่บนรถเข็นกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

.

.

.

.

ข้อมูลและภาพ จาก sanook

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ