ชีวิต "ลุงตี๋เคี๊ยะ" ชายชราวัย 65 อาศัยนอนในบ้านหลังคามุงครึ่งหลัง กินน้ำจากลำรางริมถนนข้างทาง

LIEKR:

ลุงต้องใช้ชีวิตตัวคนเดียวลำพัง ไม่มีญาติพี่น้องเหลียวแล ความฝันสุดท้ายคืออยากได้บ้านที่มี "หลังคา" จริงๆ...

    ที่บ้านหลังหนึ่ง ในบ้านหนองกระทุ่ม ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่แทบจะไม่ใช่บ้าน เพราะมันมีสภาพทรุดโทรมผุพังตามกาลเวลา บ้านมีหลังคามุงแค่เพียงครึ่งหลัง ส่วนที่มีหลังคาก็มีรูรั่วมากมาย

    พอฝนตกลงมาก็ไม่สามารถหลบฝนได้ ต้องใช้ถุงพลาสติก และนำป้ายไวนิลเก่าๆ มาขึงกั้นใต้หลังคาเหนือมุ้งที่กางอยู่ เพื่อรองรับน้ำฝนที่หยดลงมาตามรูรั่วของหลังคา เป็นการบรรเทาน้ำฝนที่ตกลงมาจากฟ้า ไม่ให้หยดลงมุ้งจนเปียกแฉะ อีกทั้งทางเข้าออกจากบ้านก็มีน้ำขังตลอดทั้งปี

 

Sponsored Ad

 

    ใครจะรู้ว่า มันเป็นที่พักอาศัยจริงๆ ของ นายทรงศักดิ์ จุรีมาศวินิจกุล คุณลุงตี๋เคี๊ยะ วัย 65 ปี ที่ต้องสู้ชีวิตวัยชราอย่างลำพังตามฐานะที่ยากจน

 

Sponsored Ad

 

    นายมนตรี คำใหญ่ อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บ่อสุพรรณ ทำได้แค่คอยเข้ามาดูแลและให้กำลังใจลูกบ้านสู้ชีวิตคนนี้ เพื่อหวังว่าจะเป็นพลังให้ไม่ท้อแท้หรือสิ้นหวัง หาก “ลุงตี๋เคี๊ยะ” ยังมีลมหายใจ

    “ลุงตี๋เคี๊ยะแกน่าเวทนาจริงๆ ในบ้านมีเพียงตู้ใส่กับข้าวเก่าๆ เตาฟืน หม้อ ไห กระทะ กะละมัง จาน ชามข้าวไม่กี่ใบ แถมยังไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากโดนตัดไฟไปนานหลายสิบปีแล้ว ต้องอาศัยจุดเทียนไข ตะเกียง และใช้ไฟฉายให้แสงส่องสว่างยามค่ำคืน ส่วนน้ำประปาหมู่บ้านก็ไม่มีใช้เหมือนกับคนในละแวก น้ำที่กินใช้ก็ต้องตักใส่ถังหาบน้ำมาจากลำรางริมถนนข้างทาง ซึ่งเป็นน้ำที่ไหลระบายออกมาจากค่ายทหาร ส่งผลให้น้ำมีสภาพขุ่น สกปรก และไม่สะอาด” ผู้ใหญ่บ้าน บอกเล่าด้วยความเห็นใจ

 

Sponsored Ad

 

.

    ผู้ใหญ่บ้านมองไปรอบๆบ้าน แล้วก็หันกลับมาเผยอีกว่า ถึงแม้น้ำจะสกปรก ไม่สะอาด แต่ก็ยังดีกว่าไร้น้ำใช้ ทุกวันลุงแกต้องตักมาใส่โอ่ง สำหรับไว้ใช้อาบ ดื่มกิน หุงข้าว รวมถึงปรุงเป็นอาหาร เพื่อให้ชีวิตอยู่รอดได้ ผมก็ไม่รู้จะช่วยได้แค่ไหน ทำได้เพียงประสานงานไปยังกลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ อบต.บ่อสุพรรณ และนักพัฒนาชุมชนอำเภอสองพี่น้อง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หวังว่าจะมีการช่วยเหลือก่อนมรสุมจะเข้า

 

Sponsored Ad

 

    ด้าน ลุงทรงศักดิ์ ชายชราใจสู้ เล่าถึงชะตาชีวิตนี้ว่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป รายได้หลักมาจากเงินเบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาท และเงินสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนอีก 300 บาท ส่วนงานรับจ้างที่ทำมีทั้งตัดหญ้า ขุดดินไถนา ปลูกอ้อย ตัดอ้อย ฉีดปุ๋ย เพื่อหาเลี้ยงชีวิตตัวเอง อยู่เพียงคนเดียวตามลำพัง รายได้ต่อวันไม่แน่นอน 100-200 บาท บางวันก็ไม่มีรายได้ เนื่องจากไม่มีคนจ้างให้ทำงาน แต่ละวันต้องปั่นรถจักยานไปรับจ้างระยะทางไปกลับ 12-15 กม.

    “ตั้งแต่ผมจำความได้เกิดมาชีวิตก็ลำบากทุกอย่างแล้ว ค่าใช้จ่าย ค่าอาหารการกินก็แทบจะไม่พอกิน พอใช้อยู่แล้ว เรื่องจะเอาเงินมาซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัยคงเป็นไปได้ยาก แต่ก็ต้องทนอยู่เพราะเราอยู่บ้านหลังนี้มาเกือบทั้งชีวิต ซุกหัวนอนไปวันๆ ที่กินที่นอนแทบจะเป็นที่เดียวกัน ทีวี พัดลม ตู้เย็น รถจักรยานยนต์ ที่มีอยู่ก็เป็นแค่เศษซากขยะ มันเสียใช้งานไม่ได้มานานแล้ว เป็นได้แค่กองขยะประดับบ้านเท่านั้น”

 

Sponsored Ad

 

.

    “ความฝันความหวังของผมตอนนี้มีแค่อย่างเดียว คืออยากจะได้หลังคาบ้านที่เป็นหลังคาบ้านจริงๆ สามารถกันแดดหลบฝนได้ และห้องน้ำที่ควรจะถูกสุขลักษณะมากกว่านี้  ขนาดรังหนูยังดีกว่าบ้านลุงตอนนี้เลย หากผู้ใจบุญท่านใดมีจิตกุศลก็ขอวิงวอนช่วยสงสารและทำบุญกับผู้ยากไร้วัยแก่เฒ่าคนนี้ด้วยเถอะ” ลุงตี๋เคี๊ยะ ทิ้งท้ายอย่างมีความหวัง

    หากผู้ใจบุญท่านใดมีจิตศรัทธาจะช่วยซ่อมแซมปรับปรุงบ้านให้กับ "ลุงตี๋เคี๊ยะ" สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ นายมนตรี คำใหญ่ ผู้ใหญ่บ้าน

ที่มา : dailynews

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ